ชินจังจอมแก่นเดอะมูฟวี่ ตอน ผจญภัยแดนวาดเขียนกับว่าที่ 4 ฮีโร่สุดเพี้ยน รีวิวไม่สปอยล์มาก แค่อยากบอกว่ามันเหมือนเป็นหนังสำหรับทำให้ผู้ใหญ่ดู
นักแสดงขวัญใจวัยรุ่น ยูกิ ยามาดะ จากจีทีโอ โตเกียวรีเวนเจอร์ส และซุปเปอร์เซ็นไต ก็มาร่วมงานชินจังครั้งนี้ พลิกบทบาทจากพระเอกไปเป็นตัวร้ายสุดๆ ที่หล่อที่สุด เพราะบทพระเอกต้องตกเป็นของชินจังและผองเพื่อนอยู่แล้วนะ น่าเสียดายคนไทยไม่มีโอกาสฟังเสียงหนุ่มคนนี้ในเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ เพราะประเทศไทยจัดฉายแบบพากย์ไทยทั้งหมด
Kyary Pamyu Pamyu นักร้องเจป๊อป-นางแบบ-เน็ตไอดอล วัย 18 เป็นแฟนคลับตัวยงของชินจังมานาน และก่อนหน้านี้เคยมีเพลงของเธอใช้ประกอบในชินจังและจอห์นวิค 3 ในที่สุดก็ได้ร่วมงานพากย์เสียงเป็นตัวหลัก เป็นนางเอกประจำภาคนี้ ประเทศไทยไม่มีโอกาสที่จะได้ยินเสียงของเธอในโรงภาพยนตร์เพราะเขาจัดฉายแบบพากย์ไทยทั้งหมด
โพสท์นี้จะขอคุยถึงหนังใหม่เข้าฉายโรงประเทศไทยอย่างเป็นทางการจริงๆ พร้อมกับสไปเดอร์แมนโนเวย์โฮมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2564 เป็นแอนิเมชั่นหนังครอบครัวเรื่อง ชินจังจอมแก่นเดอะมูฟวี่ ตอน ผจญภัยแดนวาดเขียนกับว่าที่ 4 ฮีโร่สุดเพี้ยน แปลจากชื่อภาษาญี่ปุ่นตรงๆ โรมันจิ Kureyon Shinchan: Gekitotsu Rakugakingudamu to Hobo Shi-Ri no Yusha เช่นเดียวกับชื่อภาษาอังกฤษที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษว่า Shinchan: Crash! Scribble Kingdom and Almost Four Heroes ส่วนประเทศอื่นๆ ในโลกโชคดีที่ใช้ชื่อแค่ ชินจัง 2020 หรืออย่างมากก็ Crayon Shinchan 2020 ไม่ยาวยืดแบบ 4 ประเทศนี้
ใช่แล้วครับมันเป็นหนังปี 2020 เป็นงานสร้างต่อจากตอนฮันนี่มูนป่วนแดนจิงโจ้ ปี 2019 เดิมตั้งใจจะฉายแบบทิ้งช่วงห่างกันไม่มาก ขนาดมีตัวอย่างจากเรื่องนี้อยู่ในเอ็นเครดิตเรื่องก่อน ที่ญี่ปุ่นกำหนดไว้ต้นปี 2020 พอเจอโควิดเลยต้องเลื่อนมาปลายปี ส่วนของบ้านเราปีที่แล้วเจอเลื่อนตั้งแต่ฮันนี่มูนภาคนี้จึงกำหนดใหม่ตามโปสเตอร์ที่ 7 มกราคมกะรับวันเด็ก ปรากฏว่าได้ฉายแค่ในวันเด็กวันเดียวในโรงคิดซีเนมาโดนหนังเรื่องอื่นเบียดหมดจนถึงเวลาที่โรงหนังต้องปิดซ้ำสอง กว่าจะได้ฉายจริงก็สัปดาห์นี้ แล้วยังโชคร้ายสุดๆที่ต้องมาเจอสไปเดอร์แมน ทำให้รอบและโรงฉายแทบไม่มี โรงหนังบางสาขามีรอบเช้ารอบเดียว บางสาขาไม่มีเลย
ภาคนี้ได้คะแนนดีกว่าภาคที่แล้วหลายจุด ใน IMDb เฉลี่ยจาก 6.1 ขึ้นมาเป็น 6.6 แต่รายได้ลดจาก 18 ล้านทั่วโลกเหลือ 12 ล้านเพราะสถานการณ์โควิดปิดโรงหนักขึั้นกว่าเดิม กำกับโดย ทาคาฮิโกะ เคียวโกคุ เรื่องย่อที่ปรากฏตามตัวอย่างโดยไม่สปอยล์เกินกว่านี้มีอยู่ว่า อาณาจักรวาดเขียนก่อกำเนิดขึั้นจากพลังความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ที่มีการระบายสีวาดรูปตามความคิดอิสระมาช้านานกำลังจะล่มสลายเพราะความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันที่เด็กๆ ติดเทคโนโลยีจนแทบไม่มีใครรักการวาดเขียนอีกต่อไป อาณาจักรนี้จึงไม่มีพลังงานใหม่ๆ มาหล่อเลี้ยง ทหารราชองครักษ์(ยูกิ ยามาดะ)จึงทำการปฏิวัติยึดอำนาจจากพระราชาที่ไม่เห็นด้วยกับการลงมาบังคับให้เด็กๆ บนโลกมนุษย์ทำการวาดเขียนอย่างอิสระต่อ พระเจ้าลูกเธอ(คยารี ปามิว ปามิว) หนีมาได้พร้อมกับสีเทียนศักดิ์สิทธิ์ให้เด็กมนุษย์ผู้กล้ามาเป็นผู้กอบกู้โลกนั่นก็คือ ชินจัง
เนื้อหาในภาคนี้เข้มข้นมากสามารถดูเป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่ที่จะดูได้สนุกโดยไม่ต้องมีเด็กติดตัว สะท้อนความจริงทางสังคมหลายอย่าง ที่เห็นชัดๆ ก็สามอย่างคือ โลกเปลี่ยนไปเพราะความทันสมัยส่งผลแต่ความก้าวหน้าทางวัตถุแต่จิตใจคนไม่ได้เปลี่ยนตาม พระราชาผู้โอบอ้อมอารีที่แท้แล้วก็ไม่มีความสามารถ อำนาจใดๆ ล้วนขึ้นอยู่กับทหารผู้มีทั้งกองกำลังและอาวุธ และความเห็นแก่ตัวเป็นสันดานดิบของมนุษย์บางทีส่วนมากก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามกระแสเสียงได้ยินคนเขาว่ามาอย่างไรก็เฮตามกันไปอย่างนั้น ประเด็นทั้งสามที่ว่ามานี้ อยู่ในหนังเด็กเรื่องชินจังเรื่องนี้ื ตอนเราดูก็คิดนะว่า เด็กๆ จะสนุกกับหนังเนื้อหาแบบนี้ได้ด้วยหรือ
ปรากฏว่าไม่ตรงกับที่คิดครับ เนื่องจากสังเกตเห็นเด็กที่มากับครอบครัวก็มีความสุขกับเรื่องนี้ดีอยู่ คงเป็นเพราะมันมีตัวการ์ตูนน่ารักทำอะไรตลกๆ อยู่ตลอดเรื่อง เด็กมีความสุขกับตรงนี้ได้ตลอดเรื่อง แต่ผู้ใหญ่ที่มองเห็นประเด็นหลักแล้วจึงไม่ได้มองเปลือกนอกของความเป็นหนังเด็ก เท่ากับเรื่องนี้เป็นหนังทูอินวัน พ่อแม่พาลูกมาดู เด็กได้ความสนุกสนานบันเทิง พ่อแม่ได้คติสอนใจ ได้กันทั้งครอบครัว และอาจเป็นเพราะหนังเล่นประเด็นดีคะแนนจึงดีขึ้นแม้ว่าความทะลึ่งสัปดนจะลดลงไปมากจนภาคนี้แทบไม่มีฉากติดเรทเลยก็ตาม ชอบครับให้ 7 เต็ม 10
อ้างอิงจาก: IMDb/ JAM/ Dex/ Major