แนะนำหนังอินเดียดีมาก Gangubai Kathiawadi 9/10 หญิงแกร่งในย่านเสื่อมโทรมสู้ชีวิตสู่การเป็นที่รักของชุมชน
หลังจากภาพยนตร์อินเดียหายไปจากโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของโอมิครอนทำให้ตลาดหนังอินเดียต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เรื่องสุดท้ายในโรงภาพยนตร์คือเรื่อง 83 ส่วนเรื่อง Jersey ที่เป็นโปรแกรมต่อจากนั้นไม่ได้รับการฉาย ในที่สุดสับดาห์นี้ ตั้งแต่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 หนังอินเดียก็กลับมาเข้าโรงอีกครั้งโดยประเดิมที่ Gangubai Kathiawadi กันกูไบ คาเทียวดี ประเทศไทยฉายที่เมเจอร์ซิเนเพล็กซ์ สุขุมวิท (เอกมัย) พัทยา และ ไอคอนสยาม วันละไม่เกิน 2 รอบต่อสาขา ความยาวหนัง 2 ชั่วโมง 32 นาที ประเภท ชีวประวัติ ชีวิต และอาชญากรรม
เนื้อหาของหนังเรื่องนี้มีประเด็นที่รุนแรงมาก กล่าวถึงหญิงแกร่งคนหนึ่งในย่านเสื่อมโทรมของเมืองบอมเบย์ในอดีตก่อนที่จะมาเป็นมุมไบ ต้องสู้ชีวิตอย่างทรหดอดทน ผ่านความยากลำบากและการถูกทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน สู่การเป็นที่รักของประชาชนในย่าน จนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีโลกมืดมาจนถึงทุกวันนี้ ถูกขนานนามว่ามาเฟียควีน การต่อสู้ของเธอไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อผู้หญิงหลายพันคนที่ได้รับการกดขี่อย่างไม่เป็นธรรมจากสังคม ที่สำคัญสตรีในที่นี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่หมายถึงโสเภณีทั้งย่านที่ยกย่องให้เธอเป็นผู้ดูแล แม้ว่าเธอจะชอบสวมส่าหรีสีขาว แต่โลกของเธอนั้นไม่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก
เรื่องย่อที่พอเล่าได้โดยไม่ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมเองมีอยู่ว่า กันกา มาจากครอบครัวดีมีการศึกษา แต่ถูกหลอกให้มาขายตัวที่บอมเบย์ วัฒนธรรมในสมัยนั้น สตรีที่ผ่านสถานที่แบบนี้แล้วไม่สามารถกลับออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้ จะได้รับการรังเกียจจากสังคมแม้แต่ในครอบครัวตัวเอง ต่อให้ไม่เต็มใจหรือหนีออกไปได้ก็แล้วแต่ กันกาผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นดาราจำต้องยอมรับในชะตากรรมและเปลี่ยนชื่อเป็นกันกู (เราไม่รู้ความหมายในชื่อทั้งสองของเธอ รู้แต่ว่าไบ หมายถึง มาดาม คุณนาย นายแม่ อะไรประมาณนี้ ใช้กับผู้หญิงและกะเทยระดับเจ้าสำนักเท่านั้น ผู้ชายที่เป็นไบก็ใช้ไม่ได้) เธออดทนต่อสู้ฝ่าฟันปฏิบัติภารกิจในอาชีพด้วยความจริงใจต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และชุมชน โดยผ่านการถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างยากลำบากทุกข์ทรมาน เธอก็ไม่เคยย่อท้อ ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมจนได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก มีอิทธิพลต่อพ่อค้า ข้าราชการ นักการเมือง จนในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางจำยอมนี้ยิ่งกว่าการเป็นดาราทั่วไปที่เธอใฝ่ฝันเสียอีก หนังมีฉากรุนแรงและฉากสะเทือนใจจำนวนมาก ดูจบแล้วยังมีความทรงจำกับภาพติดตาไม่เลือนอยู่หลายฉาก (ไม่มีโป๊เปลือย แม้ว่าจะเป็นเรื่องของโสเภณี) ดูอย่างไม่มีอคติอยู่แล้วยิ่งรู้สึกสงสารและต้องยกย่องในความเด็ดเดี่ยวมุ่งมุ่นของเธอจนให้คะแนนหนังเรื่องนี้ได้ถึง 9 เต็ม 10 ว่ากันว่าหนังสร้างจากเรื่องจริงนอกประวัติศาสตร์ คงเป็นเรื่องเล่าขานต่อกันมาเพราะน่าจะไม่มีบันทึกวีรกรรมของโสเภณีอย่างเป็นทางการ
นอกจากเรื่องราวอันลึกซึ้งกินใจแล้ว เรายังจะได้เห็นขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชาวบ้านของชาวอินเดียในสมัยก่อน ทั้งเรื่องงานรื่นเริงนวราตรี ประเพณีงานศพ การที่ฝ่ายเจ้าสาวสู่ขอผู้ชายเพื่อแต่งงาน เพลงประกอบแบบมิวสิคัล และนักแสดงสวยมาก นำโดย อาเลีย ภัท กำกับโดย ซานเจย์ ลีลา พันสาลี เรื่องราวและเนื้อหาดีๆ ในหนังมีมากมายเกินคำบรรยาย อยากให้ไปชมกันจริงๆ ครับ