จีนทำจีนใช้จีนเจริญ!!! เมื่อทางการจีนสั่งให้ราชการจีนและบริษัทที่เกี่ยวข้องใช้ระบบ IT ของจีนเท่านั้น

ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีทั้ง hardware และ software มักจะเป็นบริษัทสัญชาติตะวันตก ทำให้การใช้งานเทคโนโลยีในประเทศน้อยและส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังมีเรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย ทางการจีนจึงเริ่มดำเนินนโยบายให้ยกเลิกการใช้งานระบบ IT ต่างชาติ หันมาใช้ระบบ IT ในประเทศแทนครับ

แทนที่ด้วยของจากจีนในกลางปี 2024

ด้วยคำสั่งจากทางการจีน หน่วยงานภาครัฐทั้งหมด บริษัทที่ถือครองโดยภาครัฐจีน (State-owned companies) และบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐจีน (State-backed companies) จะต้องยุติการใช้งานระบบ IT จากต่างประเทศภายใน 2 ปี และต้องเริ่มทยอยแทนที่ระบบเหล่านั้นด้วยอุปกรณ์หรือ software ที่ผลิตจากแดนมังกรเท่านั้น นักวิเคราะห์มองว่าคำสั่งสุดเข้มงวดของพญามังกรจะทำให้คอมพิวเตอร์มากกว่า 50 ล้านเครื่องถูกปลดระวางภายใน 2 ปีนี้

นักวิเคราะห์มองว่าคำสั่งดังกล่าวอาจมาจากสาเหตุสำคัญคือ

1. เงินหมุนเวียนในประเทศสำคัญที่สุด:

ทางการจีนต้องการให้เม็ดเงินของคนจีนหมุนเวียนภายในประเทศให้มากที่สุด การหันไปใช้อุปกรณ์จากบริษัทต่างชาติเท่ากับเป็นการปล่อยให้เงินของคนจีนไหลเข้ากระเป๋าเงินคนตะวันตก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของคนจีนมากนัก ดังนั้นการใช้สินค้าที่ผลิตโดยบริษัทของจีน อย่างไรเงินก็ต้องกลับเข้ากระเป๋าคนจีนไม่มากก็น้อย

2. การพึ่งพิงจากต่างชาติมากเกินไป อาจทำให้ไม่รอด:

ประเทศจีนได้รับบทเรียนที่สำคัญจากการโดนอเมริกาแบนด้านเทคโนโลยี ที่เห็นชัดมากคือ Huawei ห้ามใช้ Google services โดยเด็ดขาด ผลคือยอดจำหน่ายของ Huawei ตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้หากจีนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกต่อไป ก็เหมือนถูกรังแกไปเรื่อย ๆ หนทางแก้ชั่วคราว เช่น การปรับ software ให้สามารถทะลุออกไปได้นั้นไม่ยั่งยืน ทางแก้ที่ดีที่สุดคือพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองคือคำตอบสุดท้าย

3. ความมั่นคงก็เป็นสิ่งสำคัญ:

อเมริกาและชาติตะวันตกแบนอุปกรณ์สื่อสารเนื่องจากกังวลว่าทางการจีนจะแอบดักข้อมูลส่งกลับแผ่นดินใหญ่ ในทางกลับกันทางการจีนก็เริ่มวิตกกังวลเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน หากมีการใช้งานอุปกรณ์หรือระบบของทางตะวันตกมากๆ เข้า ก็มีโอกาสโดยสอดแนมด้วยเช่นกัน การใช้ของจีนน่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

อนาคตและความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้นจากนโยบายดังกล่าว

หากมองที่ตัวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เอง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศจีนเป็นเหมือนโรงงานประกอบอุปกรณ์และแปะตราของบริษัทต่างชาติ เช่น Dell, HP หรือบริษัทอื่น ๆ อุปกรณ์สำคัญด้านในหลายชิ้น เช่น CPU หรือส่วนประกอบของ mainboard มาจากเทคโนโลยีต่างชาติ นั่นหมายความว่านโยบายดังกล่าวอาจไม่ครบวงจรในเร็ววันหากทางจีนไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ให้ดีเทียบเท่า แต่ในอนาคตอันใกล้ บริษัทของจีน เช่น Lenovo, Inspur, Founder, Tsinghua Tongfang จะได้รับอนิสงค์ทางบวกจากยอดซื้อของหน่วยงานจีนไปไม่มากก็น้อย

หากหันมามองที่ขาของ Software อาจเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะตัว Operating system และ Application ต่างๆ ของทางฝั่งชาติตะวันตก เช่น Windows, Linux, ไปจนถึง Adobe, Microsoft Office, CAD และอื่นๆ ฝังรากลึกลงไปในการใช้งานของคนจีนเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีตัวทดแทน เช่น Linux เวอร์ชันปรับปรุงของจีน หรือ Software ทดแทนอื่นๆ แต่ความเชื่อถือได้ ประสิทธิภาพ ก็ยังเป็นรองเทคโนโลยีของชาติตะวันตกพอสมควร

นอกจากนี้ Software หลักที่ใช้งานในโรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ IT หรือการพัฒนา Software ก็ใช้ platform ของชาติตะวันตกในการควบคุมเครื่องจักรหรือเขียนโปรแกรมเช่นกัน หากต้องการให้เหล่าบริษัทจีนหันมาแทนที่เทคโนโลยีทั้งหมดด้วยของจีน อาจต้องมีการเตรียมความพร้อมค่อนข้างมากเพื่อให้ระบบห่วงโซ่อุปทานและการผลิตในอุตสาหกรรม IT จีนสามารถเดินต่อได้โดยไม่ติดขัด

จุดสุดท้ายที่มองข้ามไม่ได้คือเรื่องของขยะ IT ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากมายมหาศาล โดยปกติอุปกรณ์ IT สามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 3 – 5 ปี หากแต่นโยบายดังกล่าวจะต้องทำให้แล้วเสร็จในกลางปี 2024 นั่นหมายความว่าเหล่าหน่วยงานราชการจีนและบริษัทที่ทางการจีนหนุนหลังจะมีอุปกรณ์ IT ที่เลิกใช้ออกมาเป็นจำนวนมาก แนวทางการนำไปใช้ต่อ หรือการ recycle ชิ้นส่วนอาจเป็นอีกเรื่องที่ต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างใกล้ชิด

ท้ายที่สุดแม้จะมีหลายเหตุและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นไปได้ของนโยบายดังกล่าว แต่ในอดีตทางการจีนสามารถพัฒนา Search Engine ระบบ E-commerce หรือ Social Media ของตนเองขึ้นมาได้ ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน นอกจากนี้หากเทคโนโลยีของจีนสามารภทำได้ทัดเทียมชาติตะวันตกและสามารถส่งออกเทคโนโลยีออกไปได้ การขยายอิทธิพลของแดนมังกรต่ออุตสาหกรรม IT ของโลกคงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ