แนะนำสองภาพยนตร์สงครามโลก รหัสลับพลิกสมรภูมินรก Six Minutes to Midnight และ พลิกแผนรบลวงโลก OPERATION MINCEMEAT

ภาพยนตร์ที่แนะนำทั้งสองเรื่องในโพสท์นี้ สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ในส่วนของประเทศอังกฤษทั้งคู่ แต่เป็นคนละงานสร้างและคนละเรื่องกัน จากเหตุการณ์จริงที่เรื่องแรกเกิดขึ้นก่อนเรื่องที่สอง ทั้งสองเรื่องเข้าฉายในประเทศไทยโดยเรียงลำดับกันและในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เพิ่มอรรถรสความต่อเนื่องให้ผู้ชื่นชอบศึกษาประวัติศาสตร์ด้วยหนังสงครามเป็นอย่างดี (ส่วนท็อปกันเขาไม่นับเป็นหนังสงครามนะครับ) ทั้งสองเรื่องนี้ไม่จัดอยู่ในประเภทแอ็คชั่น ดังนั้นจะหวังฉากสู้รบไม่ได้นะครับ ทั้งสองเรื่องแม้จะระบุว่าเยอรมันเป็นศัตรูแต่ก็ได้ฉายที่เยอรมัน และแม้จะเกี่ยวกับสงครามแต่ก็ได้ฉายที่รัสเซีย ก่อนที่จะมีปฏิบัติการยูเครน

รหัสลับพลิกสมรภูมินรก Six Minutes To Midnight ความจริงเรื่องนี้เป็นหนังเก่าตั้งแต่ปี 2020 แต่เพิ่งได้มาฉายเมืองไทยกลางเดือนที่แล้ว เรท PG-13 ความยาว 1 ชั่วโมง 39 นาที ประเภท ชีวิต ระทึกขวัญ สงคราม งานสร้างจากประเทศอังกฤษ กำกับโดย แอนดี้ กอดดาร์ด นำแสดงและเขียนบทให้ตัวเองเป็นพระเอกเองโดยเอ็ดดี้ อิซสาร์ด ร่วมด้วยสองดาราออ์สการ์ จูดี้ เดนช์ และจิม บรอดเบนท์ คะแนน IMDb ประชาชน 5.9/10 นักวิจารณ์ 48/100 เว็บมะเขือ นักวิจารณ์ชอบ 36% คนดู 48% ทำเงินทั่วโลกไป 2.9 ล้าน $

เนื้อหากล่าวถึงพระเอกผู้เป็นสายลับอังกฤษต้องไปเป็นครูที่โรงเรียนเยอรมันในอังกฤษแทนครูคนเก่าซึ่งเป็นสายลับเช่นกันได้หายตัวไป โดยจะต้องไปสืบนำรายชื่อผู้เกี่ยวข้องและปฏิบัติการที่เกี่ยวกับทางโรงเรียนมารายงานทางการ โรงเรียนนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมมิตรภาพอังกฤษเยอรมันก่อนที่จะเป็นศัตรูสงครามกันหลายปี โดยยังมีนักเรียนหญิงที่เป็นลูกหลานคนระดับสูงของเยอรมันมาเรียนอยู่หลายคน จูดี้ เดนช์รับบทครูใหญ่ชาวอังกฤษ นอกนั้นทั้งครูและนักเรียนเป็นเยอรมันทั้งหมด ส่วนพระเอกเราเป็นคนอังกฤษที่พ่อเป็นคนเยอรมันรับหน้าที่บังหน้าโดยการสอนภาษาอังกฤษ เมื่อเกิดสงคราม เยอรมันต้องนำตัวเด็กสาวทั้งหมดกลับประเทศเพื่อไม่ให้ตกเป็นเชลยในดินแดนอังกฤษ ส่วนอังกฤษก็ต้องไม่ให้เด็กสาวทั้งหลายกลับไปได้เพื่อไว้ต่อรองกับทางเยอรมัน อังกฤษต้องสกัดแผนการของเยอรมันไม่ได้ ส่วนเยอรมันก็จะปล่อยให้อังกฤษได้คนของตัวเป็นเชลยไม่ได้ หากไม่ได้ตัวเด็กสาวทั้งหมดกลับ แผนสำรองคือต้องฆ่าทิ้งทั้งหมด

ย่อหน้านี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เห็นเรื่องย่อแล้วน่าสนุกครับ เข้าไปดูในโรงจริง หนังสั้นมาก เพราะผู้กำกับคนนี้แกถนัดทำหนังทีวีเป็นตอนๆ หนังเรื่องนี้ออกมาเหมือนทีวีสามตอน ความผูกพันตัวละครยังไม่ทันมี ไปเน้นยืดยาดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนเขียนบทเขียนให้ตัวเองเป็นพระเอกก็เน้นแต่ตัวเองซะเยอะเกินไปทั้งๆ ที่ฉากแอ็คชั่นหรือตลกก็เล่นได้ไม่ถึงแถมยาวยืด ผู้กำกับก็ทำให้ดูไม่ออกว่าตั้งใจทำฉากนั้นๆ ให้เป็นแอคชั่นหรือตลกกันแน่ สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือการแสดงของดาราออสการ์ จูดี้ เดนช์ สมแล้วที่ทำให้เธอขึ้นกลางรูปใหญ่สุด เป็นความคุ้มค่าที่สุดในการดูเรื่องนี้ รองลงมาก็คือได้รับรู้ว่ามีปฏิการนี้และโรงเรียนนี้เกิดขึ้นในโลก (หลังเวลาในหนัง โรงเรียนนี้ก็ปิดตัวไปในปีเดียวกับ เท่ากับเปิดได้ไม่ถึง 10 ปี เพราะโรงเรียนเพื่อมิตรภาพสองประเทศกลับกลายเป็นศัตรูกันไปเสียแล้ว) นักแสดงสมทบอื่นๆ ในความเป็นจริงน่าจะนำเสนอให้สำคัญกว่านี้โดยเฉพาะครูสาวสายลับเยอรมัน และมือปราบสองหน้า ส่วนดาราออสการ์อีกคน จิม บรอดเบนท์ มาแบบเสียของมาก รับบทแค่คนขับรถโรงเรียนได้ช่วยพระเอกนิดนึง อุตส่าห์ไปดูเรื่องนี้รอบดึกหวังว่าจบแล้วจะได้บรรยากาศ 6 นาทีเที่ยงคืนเหมือนชื่อเรื่อง นึกว่าเป็นเวลาปฏิบัติการลักพาตัวเด็กหญิงทั้งหมด หรืออาจจะเป็นเลขนาฬิกาวันสิ้นโลก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งคู่ เป็นแค่เบอร์โทรศัพท์สายตรง 1154 มันสำคัญขนาดเอามาใช้เป็นชื่อเรื่องเลยหรือไง แล้วก็ไม่ใช้ตรงๆ นะ อยากจะเล่นคำให้คนดูงง อยากให้งงเราก็งงตั้งแต่การดำเนินเรื่องแล้ว เด็กผู้หญิง 20 คนที่ควรสำคัญเราก็แทบจำใครไม่ได้เลย น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้ ให้ 6/10 ครับ

พลิกแผนรบลวงโลก Operation Mincemeat ภาพยนตร์ของปีที่แล้วจากอังกฤษ (2021) เพิ่งฉายประเทศไทยต้นเดือนนี้ เรท PG-13 ความยาว 2 ชั่วโมง 8 นาที ประเภท ชีวิต สงคราม กำกับโดย จอห์น แมดเดน นำแสดงโดย โคลิน เฟิร์ธ ไมเคิล แม็คฟาเดียน เคลลี่ แม็คโดนัลด์ เจสัน ไอแสค และจอห์นนี่ ฟลิน คะแนน IMDb ประชาชน 6.6/10 นักวิจารณ์ 65/100 เว็บมะเขือนักวิจารณ์ชอบ 83% คนดู 64% ทำรายได้ทั่วโลกไปจนถึงขณะนี้ 14.1 ล้าน $ และยังสามารถเพิ่มได้เพราะยังอยู่ในโปรแกรมโรงภาพยนตร์หลายแห่งทั่วโลก

ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นกลางยุค 40's ว่ากันว่าเป็นปฏิบัติการที่ส่งผลไปถึงชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สองเลยทีเดียว เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยหลังจากนั้นหลายปีโดยผู้นำปฏิบัติการนำมาเขียนเป็นหนังสือตีพิมพ์ในปลายยุค 50 ชื่อ The Man Who Never Was กล่าวถึงนายทหารที่ถูกอังกฤษสร้างขึ้นเพื่อหลอกเยอรมันว่าเครื่องบินตกน้ำตายที่สเปน โดยที่ในตัวสวมเครื่องแบบ มีหลักฐานเอกสารพร้อมว่าเป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ มีทั้งรูปถ่ายและจดหมายจากคนรัก ที่สำคัญคือมีเอกสารระบุว่าอังกฤษจะบุกกรีซ เพื่อลวงให้เยอรมันถอนกำลังจากอิตาลีมากรีซแทน อังกฤษจะได้บุกซิซิลีอิตาลีได้สะดวก หนังสือเล่มนั้นกล่าวถึงชายที่ถูกสร้างขึ้น(สร้างเป็นหนังด้วย) ส่วนหนังเรื่องใหม่นี้ว่าด้วยสิ่งที่ทำให้เกิดปฏิบัติการ วิธีการ และอุปสรรคโดยละเอียดยิบๆ เริ่มตั้งแต่การค้นหาศพที่ตรงสเปคเพื่อเอาไว้เกยตื้น สร้างหลักฐานเท็จที่ทำเป็นขบวนการร่วมกันรู้กันไปทั่วหลายประเทศ(ไม่รั่วเข้าหูฮิตเลอร์บ้างเลย ในหนังอธิบายว่าเยอรมันที่รู้เรื่องนี้เป็นพวกต่อต้านฮิตเลอร์)

หนังดูสนุกจริงครับเรื่องนี้ ลุ้นไปตลอดเรื่องว่าจะราบรื่นไหม แผนจะแตกได้ตรงไหนบ้างซึงที่จริงก็สามารถแตกได้ทุกจุด นอกจากหลอกฮิตเลอร์แล้วยังต้องหลอกคนจำนวนมากให้เชื่อในสิ่งที่โกหกนี้อีก แถมพระเอกยังมีน้องชายเป็นสปายผู้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์อีก แต่หนังไม่ได้เน้นมากนักเพราะเท่านี้ก็ออกทะเลอยู่แล้ว (หมายถึงต้องทิ้งศพลงทะเลให้ไปเกยตื้นที่สเปนซึ่งมีสายลับเยอรมันจับตาอยู่) แต่ส่วนที่ไม่ชอบคือความรักกุ๊กกิ๊กหัวงูของนายทหารผู้มีครอบครัวแล้วกับเพื่อนร่วมงานสาว นี่น่าจะเป็นเรื่องแต่ง มีอีกจุดที่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่คือในปฏิบัติการนี้ มีเอียน เฟลมมิ่ง ผู้แต่งนิยายชุดเจมส์บอนด์ 007 ร่วมอยู่ด้วย ให้ 8/10 ครับ