อวตาร AVATAR ภาพยนตร์อันดับ 1 ของโลก กลับมาทำเงินเพิ่มเป็นกอบกำทำรายได้มุ่งสู่ 3000 ล้าน$ เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวของโลก

ตำนานรักทหารพิการหนุ่มที่ถูกเรียกว่า "เจ๊ก" กับลูกสาวชาวนาแดนไกล กลายเป็นภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ทำรายได้มุ่งสู่ 3 พันล้าน

อันนี้มุกคนโพสท์เองครับ พระเอกชื่อ Jake เขียนเป็นภาษาไทยได้ว่า เจค ออกเสียงแบบใส่อารมณ์จะได้ยินเป็น เจ๊ก ส่วนนางเอกเป็นชาวนาจริง ชื่อเต็มๆ คือชาวนาวี ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทหารเรือเลย พระเอกสิเป็นนาวิกโยธิน ทหารเรือตัวจริง

อวตาร กลับมาฉายซ้ำทั่วโลกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการฉายทั่วโลกพร้อมกันที่สุดนับตั้งแต่การฉายครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว คือปี 2009 หลังจากนั้นกลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของโลกแทนที่ ไททานิค TITANIC ที่ออกฉายในปี 1997 ซึ่งทั้งสองเรื่องต่างก็เป็นผลงานของผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ และผู้เขียนบท คนเดียวกัน คือ เจมส์ คาเมรอน (คนนี้ก็เป็นเจ้าของเรื่องคนเหล็ก TERMINATOR)

อวตาร ครองอันดับหนึ่งของโลกต่อเนื่องมาจนถึงปี 2019 เท่ากับเจมส์ คาเมรอน ครองสถิติการเป็นเจ้าของผลงานภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของโลกต่อเนื่องมาถึง 22 ปี จากนั้นต้นปี 2020 ภาพยนตร์เรื่อง AVENGERS END GAME อเวนเจอร์ส เผด็จศึก ฮึดเฮือกสุดท้ายด้วยการฉายซ้ำเพิ่มตัวอย่างสไปเดอร์แมนฟาร์ฟรอมโฮมแถมเข้าไปทำให้ขึ้นมามีรายได้รวมเป็นอันดับ 1 ของโลกแทนที่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ด้วยตัวเลข  2797 ล้าน เอาชนะอวตารไป 4 ล้าน พอใจแล้วจึงถอดโปรแกรม

จากนั้นในปี 2021 โลกเกิดวิกฤตโควิดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่เตรียมฉายในช่วงเวลานี้ต่างพากันงดและเลื่อนฉาย ภาพยนตร์เก่าๆ จึงถูกนำกลับมาฉายเพื่อช่วยเหลือทางโรง ขณะที่ประเทศจีนเริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้นแต่ภาพยนตร์ใหม่ยังไม่กล้าเสี่ยง แฮรี่ พอตเตอร์ และอวตาร ถูกนำกลับมาฉายใหม่ ทำรายได้เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล จนทำให้แฮรี่ พอตเตอร์ ภาคมีรายได้รวมทั่วโลกครบพันล้านได้เสียที หลังจากฉายครั้งแรกมา 20 ปี และทำให้อวตาร กลับมามีรายได้รวมเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง หลังจากทำเงินที่จีนได้ 54 ล้านในครั้งนี้ จึงกลับมาเผด็จศึกชนะเอ็นเกม โดยตัวเลขรายได้ทิ้งห่างไปถึง 50 ล้าน

ปลายปีนี้ได้ฤกษ์ที่อวตารภาค 2 จะออกฉายเสียที คนดูส่วนใหญ่อาจพากันลืมประสบการณ์ในการชมภาคแรกในโรงภาพยนตร์ไปแล้ว จึงได้มีการนำภาคแรกกลับมาฉายใหม่เพื่อกระตุ้นความทรงจำ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์อีกครั้ง (ครั้งนี้ปรับปรุงเป็น HFR ไฮเฟรมเรท 120 เฟรมต่อวินาที ภาพเคลื่อนไหวเร็วขนาดไหนก็ไม่เบลอ แต่บ้านเราไม่มีเครื่องฉายระดับนี้ ดีที่สุดก็ทำได้แค่ 60 เฟรมต่อวินาที สามารถเลือกชมแบบ IMAX 3D 4K และ 4DX ได้) และนอกจากจะเป็นการกลับมาขึ้นจอใหญ่เพื่อโปรโมทภาค 2 แล้ว (มีตัวอย่างหนังปะหัว และบางส่วนจากภาคสองอยู่ระหว่างเอ็นเครดิต) ยังอาจทำให้อวตารภาคแรก ทำรายได้ทั่วโลกมุ่งสู่ 3 พันล้าน เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวของโลกได้ด้วย ขณะนี้สรุปรายได้ 4 วันแรกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รวม 30 ล้าน ทำให้ตัวเลขของโลกเพิ่มเป็น 2,877 ล้าน ทิ้งห่างอันดับ 2 ไปเป็น 80 ล้าน หมดโปรแกรมนี้จะถึง 3 พันล้านหรือไม่ยังไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ทะลุ 2,900 ล้านเป็นเรื่องแรกของโลกแน่นอนครับ

ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีดราม่าเรื่องคนกดซื้อตั๋วผิดเพราะคิดว่าอวตารที่กำลังฉายในโรงขณะนี้เป็นภาค 2 จึงพากันด่าค่ายหนังและโรงหนังว่าฉายหนังหลอกคนดู ทั้งที่เขาก็โฆษณาชัดเจนมีการขยายความละเอียดยิบ โฆษณาล่วงหน้าทั่วโลกมาแล้วเป็นเดือนๆ เหตุการณ์นี้ ชวนให้สรุปได้ว่าคนไทย เป็นคนที่อ่านหนังสือน้อยที่สุดในโลก ชอบฟังไม่ได้ศัพท์ และชอบดราม่ามากที่สุดในโลก ไม่ถูกใจอะไรก็ด่าไว้ก่อน ตัวเองจะถูกหรือผิดไม่ต้องคิด แสดงความเห็นตรงนี้เชื่อว่าเราปลอดภัยครับ เพราะคนอ่านหนังสือน้อยไม่อ่านมาถึงตรงนี้แน่

ย่อหน้าสุดท้ายนี้นอกเนื่องไปนิดครับ จบดีกว่า ขอให้ชมอวตาร"ภาคแรก"กันอย่างมีความสุขอีกครั้งนะครับ ก่อนที่จะชมภาค 2 ธันวาคมนี้