Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ซีโมนิดาแห่งไบแซนไทน์ ราชินีผู้ถูกข่มขืน ขณะอายุ 5 พรรษา

โพสท์โดย น้องมิ่ง รัตนาภรณ์

            ในยุคกลางของยุโรป เหล่าเจ้าหญิง แม้ว่าจะมีชาติกำเนิดที่สูงส่ง มีราชทรัพย์ บริวารมากมาย แต่ถึงกระนั้นชะตาชีวิตส่วนใหญ่ของเจ้าหญิงก็ไม่ได้สวยงามเหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์  เนื่องจาก กษัตริย์ยามมีพระบุตร ถ้าเป็นพระราชโอรสก็จะเป็นผู้สืบบัลลังก์ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นพระราชธิดา ก็ย่อมมีประโยชน์เช่นกัน ในบางครั้ง นักประวัติศาสตร์มองว่า เหล่าเจ้าหญิงจะเป็น “สิ่งที่เป็นประโยชน์” ต่อประเทศมากกว่าเหล่าเจ้าชาย เนื่องจากการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต การสร้างพันธมิตรผ่านสายสัมพันธ์ทางราชวงศ์ เป็นสิ่งที่การันตีความแนบแน่นของความเป็นพันธมิตรที่สุด ส่วนใหญ่เหล่าเจ้าหญิงจะเป็นตัวเชื่อมมิตรไมตรีอันดี  เจ้าหญิงมีสิทธิเป็นพระราชินีของอีกประเทศหนึ่ง และให้กำเนิดทายาท สร้างความเป็นญาติกันสืบอีกหลายชั่วคน

            มีเจ้าหญิงน้อยพระองค์ในประวัติศาสตร์ ที่เสกสมรสด้วยความรัก ส่วนมากจะเป็นการเสกสมรสเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของประเทศเสียมากกว่า เจ้าหญิงบางพระองค์ต้องพลัดถิ่นไปยังอาณาจักรที่ไม่คุ้นเคย ไร้ญาติขาดมิตรคอยช่วยเหลือ และบางครั้งอาจจะถูกทำร้ายทั้งกายและวาจาจากพระสวามี หรือ ราชวงศ์ที่แต่งเข้าไป กรณีของเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ที่มีพระนามว่า ซีโมนิดา พาลาโอโลกินา (Simonida Palaiologina) ถือเป็นกรณีที่เห็นได้ชัด ในเรื่องราวที่น่าหดหู่ใจนี้

          เจ้าหญิงซีโมนิดา พาลาโอโลกินา ประสูติที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ราวปีค.ศ. 1294 เป็นพระราชธิดาองค์หนึ่งใน จักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 พาลาโอโลกอส (Andronikos II Palaiologos) กับโยลันเดอแห่งมอนต์เฟร์ราท (Yolande of Montferrat) ซึ่งดำรงเป็นจักรพรรดินีไอรีน (Empress Irene) ในปีค.ศ. 1298 จักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 พ่ายแพ้ในการสงครามกับราชอาณาจักรเซอร์เบีย ที่นำโดยกษัตริย์สเตฟาน มิลูติน (King Stefan Milutin) ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจที่สุดตราบเท่าที่มีมาในประวัติศาสตร์เซอร์เบียยุคกลาง การพ่ายแพ้ต่อเซอร์เบีย ทำให้จักรวรรดิไบแซนไทน์จำต้องผูกมิตรกับเซอร์เบีย จักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 ทรงเสนอให้กษัตริย์สเตฟาน มิลูตินอภิเษกสมรสกับพระราชธิดาองค์หนึ่งองค์ใดของพระองค์ ทั้งๆที่กษัตริย์มิลูตินอภิเษกสมรสอยู่ก่อนแล้วกับพระนางอนา เตอร์เตอร์ (Ana Terter) เจ้าหญิงแห่งบัลแกเรีย พระราชธิดาของพระเจ้าซาร์จอร์จที่ 1 แห่งบัลแกเรีย (George I of Bulgaria)

          ตอนแรก จักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 2 จะเสนอให้กษัตริย์มิลูตินอภิเษกสมรสกับยูโดเกีย พาลาโอโลกินา (Eudokia Palaiologina) จักรพรรดินีม่ายแห่งเทรบิซอนด์ (Trebizond) พระขนิษฐาของพระองค์ แต่พระนางยูโดเกียปฏิเสธอย่างเด็ดขาด โดยที่พระเชษฐาไม่สามารถบังคับได้  ดังนั้นเจ้าหญิงซีโมนิดาจึงถูกเลือกเข้ามาในข้อตกลงแทน  ฝ่ายศาสนจักรในคอนสแตนติโนเปิลต่อต้านแผนการนี้ แต่จักรพรรดิทรงมีพระประสงค์เช่นนั้น ในที่สุดก็ไม่มีใครทัดทานได้ จึงส่งเสนาบดีของพระองค์เดินทางไปเจรจาถึงเซอร์เบียในปี 1298 ทำให้กษัตริย์มิลูตินยอมรับข้อเสนออย่างกระหายในอำนาจ พระองค์รีบหย่าขาดจากพระราชินีอนา เตอร์เตอร์ พระมเหสีโดยทันที เพื่อให้ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงซีโมนิดา

          เจ้าหญิงซีโมนิดา มีพระชนมายุ 5 พรรษา ในขณะที่กษัตริย์สเตฟาน มิลูตินมีพระชนมายุเกือบ 50 พรรษา และพระองค์เคยเสกสมรสมาก่อนหน้านี้ถึง 3 ครั้ง และมีพระโอรสธิดาที่เจริญพระชันษาหมดแล้ว พระราชพิธีอภิเษกสมรสจัดที่เมืองเทสซาโลนีกา (Thessalonica) ในฤดูใบไม้ผลิปี 1299 และทั้งสองพระองค์ก็เสด็จถึงเซอร์เบียในเดือนเมษายน เจ้าหญิงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเซอร์เบีย การอภิเษกสมรสครั้งนี้ จักรวรรดิไบแซนไทน์จะยอมรับอำนาจของเซอร์เบียในบริเวณทางตอนเหนือของเขตแดนเมืองโอครีด (Ohrid) – พรีเลป (Prilep) – สติป (Štip)

          มีบันทึกของไบแซนไทน์ระบุว่า นับตั้งแต่อภิเษกสมรส กษัตริย์สเตฟาน มิลูติน ไม่ทรงรอให้พระราชินีซีโมนิดา เจริญพระชันษาในวัยผู้ใหญ่ พระองค์กลับขืนใจพระราชินีเด็กวัย 5 พรรษาหลายครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายแก่กล่องพระสกุน (มดลูก) ของพระราชินี และทำให้ต่อมาพระราชินีซิโมนิดาไม่สามารถมีพระบุตรได้ เมื่อการตรวจของแพทย์หลวงระบุว่าพระราชินีซีโมนิดาไม่สามารถทรงครรภ์ได้ ข่าวคราวได้ล่วงรู้ไปถึงจักรพรรดินีไอรีน พระชนนีของพระนางซีโมนิดา แทนที่จะทรงหาทางช่วยเหลือพระราชธิดา พระนางกลับทรงกังวลว่าเลือดเนื้อเชื้อไขของพระนางไม่สามารถให้กำเนิดรัชทายาทแก่เซอร์เบียได้ และพระโอรสองค์ที่สองของกษัตริย์มิลูติน ซึ่งลี้ภัยหลังขัดแย้งกับพระบิดายังคงมีสิทธิในบัลลังก์อยู่ จักรพรรดินีไอรีนจึงเสนอยกพระโอรสองค์หนึ่งของพระนาง ให้เป็นโอรสในกษัตริย์เซอร์เบีย เพื่อจะได้เป็นรัชทายาทสืบต่อ แต่กษัตริย์มิลูตินปฏิเสธความทะเยอทะยานของจักรพรรดินีไอรีนครั้งนี้

          พระราชินีซีโมนิดา เจริญพระชันษา เป็นสตรีผู้ทรงสิริโฉม เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว แม้ว่าจะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ และพระนางทรงสนพระทัยในด้านการศาสนา ประสงค์ที่จะครองตนเป็นนักพรตหญิง หรือ แม่ชี หลังจากจักรพรรดินีไอรีน พระชนนีสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1317 พระราชินีซีโมนิดาในวัย 22 พรรษา เสด็จมาร่วมพิธีพระศพในคอนสแตนติโนเปิลและทรงตัดสินพระทัยไม่เสด็จกลับเซอร์เบีย เมื่อทหารของกษัตริย์มิลูตินมาตามพระองค์กลับ พระนางกลับออกมาพบด้วยฉลองพระองค์นางชี เหล่าทหารต่างตกตะลึงที่พระราชินีของตนละทิ้งทางโลกและลาภยศเสียสิ้น แต่ถึงกระนั้นเจ้าชายคอนสแตนตินอส พาลาโอโลกอส (Constantine Palaiologos) พระเชษฐาต่างมารดาของพระนางซีโมนิดา ได้จับพระนางถอดเสื้อผ้าของนางชีออก และให้สวมชุดฆราวาส จากนั้นก็ให้พระนางเดินทางไปกับทหารเซอร์เบีย แต่พระนางไม่เต็มพระทัยที่จะไป เพราะทรงชิงชังในกษัตริย์ที่ทำร้ายพระนางมาตั้งแต่เด็ก หลังจากนั้นกษัตริย์มิลูตินขู่ว่าจะประกาศสงคราม จึงทำให้พระราชินีต้องยินยอมเสด็จกลับเซอร์เบีย

          กษัตริย์มิลูติน ในวัยชราทรงพระชวรหนักในปี 1321  เหล่าข้าราชสำนักต่างตกใจ เมื่อพระราชินีซีโมนิดาเสด็จมาอภิบาลข้างแท่นบรรทมของกษัตริย์มิลูตินตลอดเวลา พระราชินีทรงใช้ความเมตตาและการให้อภัย ดูแลอภิบาลกษัตริย์สเตฟาน มิลูติน พระสวามีจนวาระสุดท้าย กษัตริย์สวรรคตในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1321 สิริพระชนมายุ 68 พรรษา ในวันที่ 29 ตุลาคม พระนางซิโมนิดาเสด็จกลับคอนสแตนติโนเปิล ราชบัลลังก์เซอร์เบียตกแก่ กษัตริย์สเตฟาน เดคานสกี (Stefan Dečanski ) พระโอรสผู้ทรยศของกษัตริย์มิลูติน  พระนางซิโมนิดาเข้าสู่ทางธรรมที่วิหารเซนต์แอนดรูว์ในครีเซ (Saint Andrew in Krisei) ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแม่ชี

          หลังจากนั้นเรื่องราวของพระนางซีโมนิดา อดีตพระราชินีเซอร์เบียก็มีบันทึกถึงน้อยมาก และเป็นที่ทราบว่าพระนางทรงดำเนินการประพันธ์เพลงงานพระบรมศพของพระราชบิดาด้วยพระองค์เอง มีการกล่าวถึงพระนางซีโมนิดาครั้งสุดท้ายในปีค.ศ. 1336 ในฐานะที่ทรงเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมสภาพลเรือนและศาสนาซึ่งเป็นกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดต่อต้านรัฐบาลของจักรพรรดิอันโดรนิคอสที่ 3 พาลาโอโลกอส (Andronikos III Palaiologos)  ผู้เป็นหลานของพระนาง   และมีบันทึกว่าพระนางคงสิ้นพระชนม์หลังปี ค.ศ. 1336

          ถึงกระนั้น พระนางซีโมนิดาทรงมีคุณูปการต่อเซอร์เบีย โดยทรงเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมแบบไบแซนไทน์ในราชสำนักเซอร์เบีย ด้วยคณะผู้ติดตามชาวกรีกของพระนางที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงเซอร์เบีย พระนางทรงดำเนินการหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น พิธีกรรมแบบไบแซนไทน์ การแต่งกายแบบไบแซนไทน์ที่เอามาปรับใช้  ระบบการบริหาร ระบบการคลังและสถาบันทางกฎหมายของเซอร์เบียได้ดำเนินตามแบบของไบแซนไทน์ ทำให้เซอร์เบียจึงถูกกลืนทางวัฒนธรรมโดยไบแซนไทน์ ซึ่งกษัตริย์มิลูตินก็ทรงยินดีต่อการเปลี่ยนแปลงนี้

            นักดาราศาสตร์ชาวเซอร์เบีย ชื่อ มิโลรัด บี. โปรติก (Milorad B. Protić) ได้ค้นพบดาวเคราะห์น้อย ในปีค.ศ. 1938 และตั้งชื่อว่า ดาวเคราะห์น้อย 1675 Simonida เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชินีซีโมนิดา

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
1 VOTES (1/5 จาก 1 คน)
VOTED: น้องมิ่ง รัตนาภรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"มะละกอ กล้วย ส้ม" เพลงมันส์ๆ จาก "กฤษ บุญยะเลี้ยง" ฟีเวอร์เกินต้าน! ฟัง 10 วิ ติดหู 10 วัน"กัน จอมพลัง" ถูกตั้งค่าหัว 50 ล้านวัยรุ่นเขมร ปาถุงน้ำแตกกระจกรถ เล่นสงกรานต์หรือเปิดศึก คนดูเดือดทั้งโซเชียล
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฟังชัด!! ชาวเน็ตขุดคลิป 'โตโน่' เผย ยังไม่คิดแต่งงานมีลูกกับ 'ณิชา' ถ้ายังมีฝุ่น PM 2.5
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทยจริงหรือไม่หากเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ประเทศใดมีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายชนะ?นางสงกรานต์ ปี 2568 : นางทุงสะเทวีរឿងនិទាន នៀង ឌឿ ធំ (នាងទ្រូងធំ)
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง