นิทาน เรื่องบ่อน้ำทะเลาะกับหิน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ชายฝั่งทะเลอันเงียบสงบ มีบ่อน้ำใสสะอาดอยู่บ่อนหนึ่ง บ่อน้ำนี้แม้จะเล็ก แต่ก็ภาคภูมิใจในความใสสะอาดของตนเอง มันสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับ ดึงดูดฝูงปลาเล็กๆ และแมลงน้ำมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
วันหนึ่ง มีก้อนหินก้อนใหญ่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นอยู่ใกล้ๆ บ่อน้ำ ก้อนหินนี้มีรูปทรงแปลกตา ผิวหยาบกร้าน และเต็มไปด้วยรอยแผลจากการถูกคลื่นซัดสาดมาอย่างยาวนาน บ่อน้ำมองดูแล้วรู้สึกไม่พอใจ มันคิดว่าก้อนหินก้อนนี้ทำให้ทัศนียภาพของมันดูไม่สวยงาม
“นี่คุณ! ไปให้พ้นจากที่นี่ซะ!” บ่อน้ำตะโกนใส่ก้อนหิน เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ
ก้อนหินไม่ตอบโต้ มันนิ่งเงียบ ทนต่อคำด่าทอของบ่อน้ำอย่างอดทน มันรู้ดีว่าตนเองเป็นเพียงก้อนหิน ไม่มีทางสู้กับบ่อน้ำได้
บ่อน้ำยิ่งโมโห มันพยายามกระเพื่อมน้ำ หวังจะพาก้อนหินให้ไหลออกไป แต่ก็ไร้ผล ก้อนหินยังคงนอนนิ่งอยู่กับที่ เหมือนกับไม่รู้สึกอะไร
วันแล้ววันเล่า บ่อน้ำก็ยังคงทะเลาะกับก้อนหิน มันไม่ยอมรับความจริงที่ว่า ก้อนหินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เช่นเดียวกับตัวมันเอง มันมัวแต่โกรธแค้น จนลืมไปว่า ความใสสะอาดของมันกำลังค่อยๆ ลดลง เพราะความโกรธเกรี้ยวของมันเอง
ในที่สุด ฝูงปลาเล็กๆ และแมลงน้ำก็เริ่มทยอยหนีไป เพราะพวกมันไม่ชอบบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง บ่อน้ำเริ่มรู้สึกเหงา และเศร้าใจ มันเริ่มเข้าใจว่า ความใสสะอาด และความสงบสุข นั้นสำคัญกว่าความสวยงามภายนอก
บ่อน้ำจึงขอโทษก้อนหิน และขอให้ก้อนหินอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ก้อนหินยอมรับคำขอโทษ และตั้งแต่นั้นมา บ่อน้ำและก้อนหินก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข กลายเป็นภาพที่งดงาม และสมดุล ของธรรมชาติ
ข้อคิด: ความขัดแย้งไม่นำมาซึ่งความสุข การยอมรับความแตกต่าง และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ คือหนทางสู่ความสงบสุข
