ไขข้อสงสัย ผลไม้ร้อยตา ธรรมดาซะที่ไหน อะไรเอ่ย?
ไขข้อสงสัย ผลไม้ร้อยตา ธรรมดาซะที่ไหน อะไรเอ่ย?
ถ้าตั้งคำถามแบบนี้ คงมีอึ้งนิดๆ แต่คงไม่ยากเกินจะตอบใช่มั๊ยคะ ที่กำลังจะพูดถึงก็คือ "สับปะรด" เป็นคำตอบสุดท้าย
ผลไม้ที่ทำให้หลายคน ที่รับประทานสับปะรดเข้าไปแล้ว เกิดอาการลิ้นขม ลิ้นแสบๆ คันๆ กินข้าวไม่อร่อยไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว หรือบางคนมีอาการกลัวตาสับปะรด รับประทานได้ แต่ปอกเองไม่ได้ด้วย ซึ่งเพื่อนของผู้เขียนเป็นคนกลัวตาสับปะรดแต่ชอบรับประทานสับปะรดมากๆ เข้าตำราที่ว่า เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
เหตุผลหลัก ก็เนื่องมาจากใน สับปะรด มีสารที่ชื่อว่า บรอมีเลน (Bromelain) เป็นเอนไซม์ตามธรรมชาติจากพืช ที่เราสามารถพบได้ทุกส่วนของสับปะรดเลย ไม่ว่าจะเป็นลำต้น ใบ หรือผล มีมากที่สุด อยู่ที่เหง้า และ แกนลำต้น
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีน จะเห็นได้ว่า มีการนำสับปะรดหั่นใส่ในอาหาร ตุ๋นรวมกับน้ำซุป เพื่อให้เนื้อสัตว์เปื่อยเร็วขึ้นอีกด้วย เอนไซม์บรอมีเลน เป็นสารที่สามารถย่อยโปรตีนในเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา มีคุณสมบัติคล้ายตัวยาแอสไพริน ซึ่งสามารถลดการจับตัวของเกล็ดเลือดได้
ประโยชน์ของเอนไซม์ โบรมีเลนในสับปะรดนั้น จะเป็นตัวช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องผูก ช่วยขับปัสสาวะแก้ขัดเบา ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
และเหตุผลนี้เอง ลิ้นของเรามีโปรตีนตามธรรมชาติเคลือบอยู่ เมื่อเรารับประทานสับปะรดเข้าไป จึงทำให้มีผลกับโปรตีนที่ลิ้น เมื่อเอนไซม์บรอมีเลน ไปสัมผัสกับลิ้น มันจึงเริ่มสลายโปรตีน ทำให้เกิดลิ้นขม ลิ้นแสบๆ คันๆ นั่นเอง
แต่เราสามารถรับประทานสับปะรดให้อร่อยได้ ด้วยการใช้ "เกลือแกง" นี่ละค่ะ ซึ่งเกลือจะช่วยลดความเข้มข้นของเอนไซม์บรอมีเลนได้ ทำให้มันทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงช่วยลดอาการแสบลิ้นขณะกินสับปะรดได้เป็นอย่างดี
วิธีนำเกลือมาทำได้ง่ายมากๆ เพียงนำสับปะรดที่ปอกเปลือกบั้งตาออกแล้ว แช่ลงในน้ำเกลืออ่อนๆ ประมาณ 2-3 นาทีก่อนจะที่จะนำสับปะรดมารับประทาน สูตรคุณแม่ก็จะนำเกลือป่นคลุกเคล้าลงไปก่อนช่วยได้จริงๆ หรือหากใครชอบเป็นเครื่องจิ้ม จะจิ้มเกลือ ก่อนทานสดๆ ก็ช่วยได้เช่นเดียวกับน แถมอร่อยด้วย
เห็นมั๊ยคะ!! เพียงแค่นี้
ก็สามารถรับประทานสับปะรดได้อย่างอร่อยแล้ว ใครยังไม่เคยทำต้องลองนำวิธีนี้ไปใช้
และมาแจ้งผลกันนะคะ🍍
















