นางเสือสมิงยอดรักตอนที่32 วิถีโจร
ตอนที่ 32
ชื่อตอน วิถีโจร
เมื่อวันนัดหมายทำการแลกเปลี่ยนได้มาถึง ดาเธอมาตามนัดของหม่องซา ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งที่นอกเมืองโดยพวกเขานั้น เอารถมา 2 คันคันที่ 1 เป็นรถกะบะน้าศักดิ์เป็นคนขับมา ส่วนอีกคันนั้นดากับเทพมาด้วยกัน เมื่อพวกเขามาถึงโดยทั่วๆไป บรรยากาศด้านข้างๆกับโกดังร้าง เป็นสวนผลไม้และคลองน้ำ ดาเดินทางมาพร้อมกับน้าศักดิ์และเทพเข้ามาในโกดังร้างแห่งนั้น ส่วนหม่องซาและเหล่าบรรดาลูกน้องของเขานั้น รอ อยู่ก่อนแล้วเพราะเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เมื่อนึกถึง วิชาสมิงเทพ ที่เขานั้นอยากได้มาตลอดชีวิต เมื่อทุกคนมาถึงสถานที่นัดหมาย หม่องซาเขาให้ดาเข้าไปคุยกับเขาที่ห้องส่วนตัว เพราะเขานั้นต้องการสิ่งที่พิเศษและไม่อยากให้ลูกน้องคนอื่นๆของเขารู้เรื่องนี้โดยไม่จำเป็น เขานั้นอนุญาตให้แค่ซาเดและแดนลูกชายของเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในห้องนั้นกับเขา ภายในห้องหม่องซาเขานั่งลงที่เก้าอี้ไม้ เขาจ้องมองสังเกตพฤติกรรมของดาและเริ่มถามคำถามเธอ
ว่ายังไงล่ะ แม่สาวน้อย เธอตกลงเอาสิ่งของที่ฉันต้องการมาแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวพ่อกับแม่ของเธอหรือเปล่า เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงแข็งไร้อารมณ์ และจ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาอันก้าวร้าว
เอามาสิ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะสำคัญไปกว่าความปลอดภัย ของพ่อและแม่ของฉันหรอกค่ะ ว่าแต่ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า เมื่อฉันให้สิ่งที่คุณต้องการแล้ว คุณจะทำตามสัญญา และยอมปล่อยตัวพ่อของแม่ฉันให้เป็นอิสระตามที่คุณบอกค่ะ
ฮ่าๆๆ หม่องซา เขาหัวเราะแบบเค้นเสียง เธอไม่มีทางเลือกมากนักหรอกนะ แม่สาวน้อย พ่อแม่ของเธอได้อยู่ในกำมือของฉัน เธอทำได้ก็แค่การทำตามในสิ่งที่ฉันต้องการก็เท่านั้นแหละ เธอก็น่าจะรู้นะ ว่าถ้าเธอทำให้ฉันอารมณ์เสีย มันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของพ่อแม่ของเธอนะ
ดาเธอรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย กับความอียวนกวนประสาทของหม่องซา ถ้านายอยากได้มากนัก ก็เข้ามาเอาไปสิ ดาเธอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาและยื่นมันให้กับหม่องซา ซาเดเดินมาหยิบกระดาษจากมือของดาไปส่งมอบให้กับหม่องซาเจ้านายของเขา หม่องซาหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านดูแล้วเขาก็ยิ้มอย่างพออกพอใจ เอาแบบนี้นะฉันจะลองใช้วิชาที่เธอเขียนให้ฉันดูก่อน ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะก็เธอก็รู้นะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้ามันได้ผลดี ฉันถึงจะยอมปล่อยพ่อกับแม่ของเธอไป เขาเอ่ย กับเธอแบบข่มขู่ในท่าที
ได้สิค่ะ คุณก็ลองใช้วิชาที่ฉันให้คุณไปดูสิ มันต้องได้ผลอยู่แล้วแหละ เพราะมันเป็นของจริง ดาพูดยืนยันกับหม่องซาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเขา
หม่องซาเขานั่งลงบนพื้นและเริ่มท่องคาถาตามที่ดานั้นเขียนและส่งมอบให้เขาประมาณ 15 นาที ก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อมากๆ ร่างกายของเขานั้นแปลเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาๆกลายเป็นเสือโคร่งลายพาดกลอนขนาดใหญ่ยักษ์ ต่อหน้าต่อตาของทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น โฮกๆโฮกๆๆๆ เสียงของเสือโคร่ง คำรามและตะปบอุ้งเท้าลงบนพื้น ในขณะนั้นเสมือนว่ามีพลังมหาศาลที่สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ซาเดเขามองดูเจ้านายของเขาที่กลายร่างเป็นเสือโคร่งแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ประมาณ 5 นาทีต่อมาหม่องซา เขาก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ดังเดิม
ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ ในที่สุดฉันก็ได้ครอบครองวิชาสมิงเทพ ที่ไอ้อาจารย์เฒ่าฤาษีเตียวเม มันหวงไม่ยอมสอนฉันแล้ว ยอดเยี่ยมจริงๆ ตอนที่ใช้วิชานี้รู้สึกเหมือนร่างกายนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เข้ามาในร่างกายมันยอดเยี่ยมมากๆเลย สมกับที่ฉันอยากได้มาตลอดชีวิต เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ที่ได้ดังที่เขานั้นต้องการ
ในเมื่อคุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว ก็ปล่อยพ่อแม่ของฉัน ให้เป็นอิสระตามที่เราตกลงกันได้แล้วน่ะสิ ใช่ไหมคุณหม่องซา ดาเธอทวงคำสัญญาจากหม่องซาอีกครั้ง
ก็ได้ แต่ฉันว่าพวกเราออกไปคุยกันข้างนอกห้องดีกว่านะ ซาเดเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาก็เดินไปเปิดประตู และเดินออกไปจากห้องก่อน ส่วนหม่องซา เขาเดินออกจากห้องนั้นเป็นคนสุดท้าย เมื่อดาเดินออกมา เทพและน้าศักดิ์ ก็ยืนรอเธออยู่ ส่วนหม่องซาเขาให้คนของเขาไปเอาตัวพ่อและแม่ของดาออกมา สักพักลูกน้องของหม่องซาก็พาตัวพ่อและแม่ของดาออกมาแสดงตัวต่อหน้าของหญิงสาว หม่องซาพยักหน้าให้ลูกน้องของเขาปล่อยตัวสายใจ ไปก่อนแต่ผู้ใหญ่ทองดีเขายังไม่ยอมปล่อยตัว
แม่ !! แม่ !! แม่เจ็บตรงไหนไหมคะ แม่สบายดีไหมคะ ดาเธอรีบโผล่เข้ากอดแม่ของเธอด้วยความรักและความเป็นห่วงสุดหัวใจ
แม่ไม่เป็นอะไรลูก แม่สบายดีทุกอย่าง แต่ว่าทำไมคนร้ายถึงไม่ยอมปล่อยพ่อของลูกล่ะ สายใจถามลูกสาวของเธอด้วยความสงสัย ใคร่อยากรู้ เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ของเธอพูดทำให้ดาได้ฉุกใจคิดขึ้นมา เธอจึงหันกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าคนร้ายอีกครั้ง และเอ่ยถามหม่องซาถึงเรื่องที่เขานั้นยังจับตัวพ่อของเธอเอาไว้
ทำไมคุณถึงยังไม่ยอมปล่อยตัวพ่อทองดีของฉันล่ะ ในเมื่อฉันก็ยอมมอบสิ่งที่คุณต้องการให้คุณไปหมดแล้ว หรือว่าคุณจะไม่รักษาคำพูดที่คุณได้สัญญาไว้
ฮ่าๆๆ ใครว่าฉันไม่รักษาคำพูด ก็นั่นยังไงล่ะ ฉันก็ปล่อยแม่ของเธอไปแล้วยังไง เพื่อแลกกับ วิชาสมิงเทพ เธออย่าโลภสิของ 1 อย่างก็ต้องแลกได้แค่หนึ่งคนเท่านั้น ถ้าเธออยากให้ฉันปล่อยพ่อของเธอก็มอบสิ่งที่ฉันต้องการเอามาให้ฉันอีกสิ
ของที่นายต้องการอะไรอีกล่ะ มันคืออะไรกัน หญิงสาวเธอเอ่ยถามเขา
ของที่ฉันต้องการอีกอย่างนะหรือ มันก็คือพลังมหาธาตุทั้ง 4 ที่อยู่ในร่างกายของเธอยังไงล่ะ ว่ายังไง เธอจะมอบมันให้ฉันตามที่ฉันขอไหมแล้วฉันจะปล่อยพ่อของเธอไป ตกลงไหมล่ะ ว่ายังไงล่ะ ฉันให้เวลาเธอคิดแค่ 5 นาทีนะ หม่องซาเขาพูด ด้วยท่าทีที่เป็นต่อ
เห็นไหมล่ะครับ คุณดา นายหม่องซา เขาเจ้าเล่ห์เหมือนที่น้าศักดิ์พูดเอาไว้ไม่มีผิดเลย พวกเราเดาถูกเป๊ะเลย ว่าพอเขาได้ทุกอย่างที่เขานั้นต้องการ ขั้นต่อไปเขาก็คงจะทำการกำจัดพวกเราทุกคนทั้งหมดที่นี่
เลวที่สุดเลยนะหม่องซา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ นายก็เลวไม่เปลี่ยนเลยนะ น้าศักดิ์ส่ายหัว พวกเรากำลังเล่นกับโจรเราก็ต้องเล่นในแบบวิธีของโจรและหนูดาก็ไม่จำเป็นต้อง ซื่อสัตย์กับพวกโจรร้ายหรอกจัดการทุกอย่างตามที่พวกเราวางแผนกันมาให้เรียบร้อยนะหนูดา
ค่ะ น้าศักดิ์ ทุกอย่างจะได้จบๆสักที ทุกคนจะได้ปลอดภัยด้วย เมื่อพูดคุยกัน ตามเวลาที่หม่องซา เขาอนุญาตให้แล้ว ดาเธอก็หันกลับมาคุยตกลงกับหม่องซาอีกครั้ง
โอเค ฉันตกลงให้ตามที่นายต้องการ แต่ว่าฉันมีเงื่อนไขนะ นายจะต้องยอมปล่อยให้พ่อแม่ของฉันขับรถกระบะของน้าศักดิ์กลับบ้านไปก่อนฉันถึงจะให้ในสิ่งที่นายต้องการ ว่ายังไงล่ะ ตกลงหรือเปล่า
แดน เขาหันไปมองดูใบหน้าพ่อของเขาที่ทำหน้าตาใช้ความคิดอยู่สักครู่ ผมว่านะครับพ่อ พวกเราให้ตามที่พวกเขาต้องการ ปล่อยพ่อและแม่ของนักร้องสาวคนนั้น ไปพวกเขาก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่มีวิชาอาคม อะไร เหมือนลูกสาวของเขา เพราะฉะนั้นสองผัวเมียนั่นไม่มีทางที่จะทำอะไรพวกเราได้อยู่แล้ว แค่พวกเรากำจัดนักร้องสาวคนนี้กับลูกชายของพ่อเลี้ยงอดิศรไปซะ และไอ้น้าศักดิ์ด้วยอีกคน ทุกอย่างก็จบ ใครจะกล้ามาต่อกรกับพ่อได้อีกล่ะครับ จริงไหมครับ แดนเขาเสนอความคิดเห็น กับหม่องซาพ่อของเขา
อืม มันก็จริงเหมือนที่ลูกว่า เฮ้ย พวกมึง ปล่อยผู้ใหญ่ทองดีไป หม่องซา เขาบอกกับลูกน้องของเขาเสียงดัง เพื่อให้ปล่อยตัวผู้ใหญ่ทองดีตามที่ดาเธอต่อรอง เมื่อได้รับการปล่อยตัวแล้วผู้ใหญ่ทองดีก็รีบเดินตรงเข้ามาหาลูกสาวของเขา ส่วนน้าศักดิ์นั้นเขารีบยื่นกุญแจรถกระบะให้กับผู้ใหญ่ทองดี นายพาสายใจเมียของนายไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดนะ ทองดี ขับออกไปจากที่นี่โดยเร็วซะ เพื่อจะได้ไม่ทำให้ดาเธอเสียสมาธิห่วงหน้าพะวงหลัง น้าศักดิ์พูดกับผู้ใหญ่ทองดี แต่ผู้ใหญ่ทองดีเขานั้น ไม่อยากจะไปเลยเพราะความรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวของเขา
พ่อทำตามที่น้าศักดิ์บอกเถอะนะคะ ดากอดพ่อของเธอและกระซิบข้างหูเบาๆอย่าทำให้เสียแผนการนะค่ะ เพราะถ้าพ่อกับแม่ยังอยู่ที่นี่หนูจะห่วงหน้าพะวงหลังไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือใครบ้าง พวกเราวางแผนกันไว้แล้ว หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอรับพ่อกับแม่ไปส่งในที่ปลอดภัยนะคะ แล้วดาก็ให้โค้ดลับกับพ่อของเธอไปเพื่อใช้ติดต่อระหว่างตำรวจกับพ่อของเธอ แล้วพวกเราค่อยเจอกันนะคะพ่อ
โอเค ดูแลตัวเองนะลูก ผู้ใหญ่ทองดี เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเขาก็เข้าใจ เพราะเขาเองก็มีความมั่นใจ ในตัวลูกสาวของเขาถึงจะมีความเป็นห่วงอยู่บ้างก็ตามที และเขาเองก็รู้สึกไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงให้ลูกสาวต้องเสียสมาธิด้วย เขาจึงรีบเข้ามาหาสายใจผู้เป็นเมียและพาเธอขึ้นรถกระบะไป พร้อมกับขับออกไปจากโกดังร้างอย่างรวดเร็ว เขานั้นมีความมั่นใจ พอสมควรว่าลูกสาวของเขาจะต้องไม่เป็นอะไร เพราะเคยเห็นแล้วในตอนเด็กๆว่าลูกสาวของเขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่เธอมีพลังวิเศษคุ้มครองร่างกายเมื่อขับรถกระบะออกมาจากโกดังร้างแห่งนั้นได้ประมาณ 15 นาที เขาก็ได้กดพิมพ์ ข้อความส่วนตัวส่งมาที่แชทส่วนตัวไลน์ มาหาลูกสาวของเขาว่าเจอกับตำรวจที่จะพาไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้วเพื่อให้ดาทำตามแผนการขั้นต่อไปของเธอ
แดนเขามองดู นาฬิกาข้อมือและรีบเอ่ยเตือนพ่อของเขา พ่อครับ 15 นาทีแล้วครับ ตามที่ตกลงกัน
ว่ายังไงล่ะ แม่สาวน้อย ในเมื่อพ่อกับแม่ของเธอก็ออกไป ได้ 15 นาทีแล้ว เธอจะมอบพลังมหาธาตุทั้ง 4 ให้พ่อของฉันได้หรือยัง ครบ 15 นาทีแล้วนะ พวกฉันทำตามที่พูดแล้วคราวนี้ก็ถึงตาเธอบ้างแล้วแหละ สาวน้อยที่จะต้องทำตามคำพูดของเธอ แล้วก็อย่าคิดเบี้ยวนะ เพราะถึงตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอจะปลอดภัยรอดไปได้ แต่ถ้าเธอผิดคำพูด แล้วล่ะก็ฉันจะไม่มีทางใจดีแบบนี้อีกแน่นอน ฉันสาบานได้ แดนเขาพูดจาขู่ดาไม่หยุดหย่อน
ฉันนะรักษาคำพูดของฉันอยู่แล้วล่ะ นายจะได้ในสิ่งที่นายต้องการดาพูดพลางกำหนดจิตใจให้เป็นสมาธิตั้งมั่น ทางด้านหม่องซาเองก็เช่นกันสักพักก็มีลำแสงสีทองออกจากร่างกายของดาลอยอยู่กลางอากาศ แดนเขาจ้องมองลำแสงเหล่านั้นด้วยความลิงโลดดีใจว่าต่อไปนี้พ่อของเขาจะเป็นที่สุดที่ไม่มีใคร กล้ายุ่งด้วยอีก เก่งกล้าเหมือนเสือติดปีกหม่องซาเองก็กระหยิ่มยิ้มย่องในใจเช่นเดียวกัน เขาใช้วิชาที่เล่าเรียนมาเรียกก้อนพลังนั้นให้เข้ามาในร่างกายของเขาด้วยความโลภ เมื่อก้อนพลังสีทองเข้าสู่ร่างกายของเขา ผิวหนังนั้นก็มีสีสันความสมบูรณ์ขึ้นและมีความรู้สึกว่าร่างกายกระชุ่มกระชวยเป็นอย่างมากเหมือนหนุ่มขึ้นมาเป็น 10 -20 ปี
ฮ่าๆๆ สุดยอดมากๆยอดเยี่ยมที่สุด หม่องซาหัวเราะอย่างพึงพอใจมากมาย ในที่สุดเขาก็ได้สมหวังในสิ่งที่เขาต้องการเอาไว้ทั้งหมดทุกๆอย่าง
ดาเธอลืมตาขึ้นมา เทพเขารีบมาช่วยพยุงร่างกายของดา เป็นอะไรไหมครับ คุณดา โอเคไหมครับ ชายหนุ่มถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ดา โอเคดีค่ะ ขอบคุณนะคะคุณเทพ
ดาหันไปมองหม่องซา พวกเราทำตามที่นายต้องการเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับบ้านได้แล้วใช่ไหม น้าศักดิ์ตะโกน ถามหม่องซาเสียงดัง
กลับบ้านเหรอ กลับได้นะ แต่ต้องกลับไปแบบไร้ลมหายใจ หม่องซา เขายิ้มแสยะมุมปาก พร้อมกับยืนยกแขนบิดร่างกายโยกไปมา ส่ายไปด้านขวาทีส่ายไปด้านซ้ายทีและพูดตอบกับน้าศักดิ์อย่างอารมณ์ดี
กลับไปแบบไร้ลมหายใจเหรอ นี่มันหมายความว่านายจะไม่รักษาคำพูดใช่ไหม น้าศักดิ์ ถามหม่องซาด้วยความโมโห
ฮ่าๆๆอะไรกัน ฉันก็บอกว่าจะปล่อยพ่อแม่ของเด็กสาวคนนี้ไป แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะปล่อยเด็กสาวคนนี้ไปนี่หว่า ถึงเธอจะให้วิชาสวิงเทพกับฉัน แต่คนอย่างฉันที่เก่งกล้าจะต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นพวกนายทั้ง 3 คน ก็ต้องตายไปซะ ฉันถึงจะเป็นหนึ่งเดียวจริงไหม เฮ้ยพวกมึงจัดการพวกเขาซะ หม่องซาเขาสั่งลูกน้องของเขาให้เล็งอาวุธมาที่เทพ ดา และน้าศักดิ์
นายมันชั่วร้ายตั้งแต่เด็กจนโตเลยนะ “ไอ้พี่ชาย” หม่องซา น้าศักดิ์ ตะโกนด่า หม่องซา
ไอ้พี่ชาย หรือนี่นายเป็นใครกันแน่ ถึงได้เรียกฉันว่า ไอ้พี่ชายหม่องซา รู้สึกประหลาดใจและสมองของเขานั้นเริ่มจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ว่าคนที่เรียกเขาแบบนั้น มีอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งคน คนนั้นก็คือ…..หรือว่านายคือ “วิรุณ” หม่องซา เขาอุทานเรียกชื่อของน้องชายต่างแม่ของเขาออกมา และจ้องเขม็งมองน้าศักดิ์ ด้วยความสงสัย
จบตอนที่ 32. ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะค่ะ











