แสงสีส้ม vs แสงสีขาว แสงแบบไหนที่เหมาะกับห้องนอน การเลือกสีแสงไฟสำหรับห้องต่าง ๆ
แสงสีส้ม vs แสงสีขาว แสงแบบไหนที่เหมาะกับห้องนอน
แสงสีขาว ทั้งจากหลอดไฟบนเพดานโดยตรง หรือจากเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หากอยู่ภายในห้องนอน จะทำให้เรานอนไม่หลับ เนื่องจากแสงสีขาวสามารถสะท้อนกับวัตถุต่าง ๆ ภายในห้องนอน ทำให้เมื่อเคลิ้มหลับเราจะมีอาการสะดุ้งตื่น เพราะการสะท้อนของแสงสีขาวที่มากจนเกินไป
การทาสีขาวเป็นสีหลักภายในห้องนอน ทำให้ยามเช้า แสงแดดที่ส่องเข้ามามีความสว่างมากกว่าปกติ ทำให้รบกวนการนอนหลับพักผ่อน ทำให้ห้องนอนและที่นอนเกิดความร้อนได้เร็ว จึงไม่ควรใช้แสงสีขาว และทาสีห้องนอนด้วยสีขาวเป็นหลัก
แสงสีส้ม เป็นแสงที่ทำให้รู้สึกสงบ และสบายตา ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่งเพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แสงสีส้มช่วยให้บรรยากาศในห้องนอนมีความละมุนละไม ไม่ตึงเครียด และทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องนอน ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ที่นอนยางพารา ผ้าม่าน และพื้นห้องดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น แสงสีส้ม จึงเป็นแสงที่คู่ควรกับห้องนอน เพราะ ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานระหว่างวัน
การเลือกสีแสงไฟสำหรับห้องต่างๆ
ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น สามารถใช้ไฟได้สี ทั้งแสงสีขาว(Day light), แสงกึ่งเหลือง-กึ่งขาว(Cool white), แสงสีเหลืองส้ม(Warm white) เพื่อตอบสนองการใช้งานให้ได้หลากหลาย เน้นประโยชน์ใช้สอยในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ดูโทรทัศน์ เป็นต้น
ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ในการประกอบอาหารจะใช้ไฟที่ให้แสงสีขาว(Day light) เพื่อแสงสว่างทั่วถึง และอาจซ่อนไฟแสงกึ่งเหลือง-กึ่งขาว(Cool white) เพื่อให้เกิดแสงผสมได้ด้วยเช่นกัน
ห้องนอน ควรเป็นแสงที่ทำให้บรรยากาศสงบ อบอุ่น และให้ความรู้สึกสบายผ่อนคลาย แสงที่เหมาะสมคือ แสงกึ่งเหลือง-กึ่งขาว (Cool white) และ แสงสีเหลืองส้ม(Warm white) โดยอาจดีไซน์ซ่อนหลอดไฟตามผนัง หรือ มุมห้องให้ได้แสงสว่างที่พอเหมาะกับการพักผ่อน
ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ ควรใช้ไฟแสงสีขาว(Day light )และ เหลือง-กึ่งขาว(Cool white) เพื่อลดแสงสะท้อนจากกระจก และ ห้องน้ำควรใช้แสงแสงสีขาว(Day light) เพื่อป้องกันการลื่นล้ม และ ควรมีหน้าต่างที่แสงส่องถึง เพื่อให้แสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย

















