7 ปลาฉายา "โสมใต้น้ำ" มีสารอาหารสูงกว่าเนื้อสัตว์ถึง 10 เท่า
เมื่อพูดถึงแหล่งอาหารประเภทโปรตีน ตามหลักโภชนาการห้าหมู่ เรามักนึกถึงเนื้อสัตว์ต่างๆและพืชจำพวกถั่วต่างๆ แต่ความจริงแล้ว ยังมีปลาหลายชนิดมีสารอาหารมากกว่าเนื้อ แถมเนื้อปลาสามารถย่อยง่าย และดีต่อหัวใจ สมอง กระดูก ข้อต่อ และผิวพรรณ
โดยผู้เขียนจะกล่าวถึงปลา 7 ชนิด ที่หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่คุณค่าทางด้านสารอาหารมีมากกว่าเนื้อสัตว์ถึง 10 เท่า เราลองมาทายกันดูมั้ยคะ ว่าผู้อ่านจะนึกถึงปลาอะไรกันบ้าง และคำตอบของท่านผู้อ่านจะติดโพลด้วยหรือเปล่า ไปดูพร้อมกันค่า
ปลา 7 ชนิด ที่ได้รับฉายาว่า “โสมใต้น้ำ” และมีสารอาหารสูงกว่าเนื้อสัตว์ ถึง 10 เท่า
1. ปลาซาร์ดีน
ตามข้อมูลจาก Healthyline ปลาซาร์ดีนราคาย่อมเยา แต่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะปริมาณโอเมก้า-3 สูงเทียบเท่าปลาที่มีราคาแพงอย่างปลาแซลมอน ช่วยลดไขมันในเลือด ต้านการอักเสบ ป้องกันหลอดเลือดตีบ และส่งเสริมความจำ ลดความเสี่ยงสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น
นอกจากนี้ ปลาซาร์ดีนมีกระดูกนุ่ม สามารถกินได้ทั้งตัว จึงให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีสูง ดีต่อกระดูกและข้อ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงวัย อีกทั้งยังมีวิตามินบี 12 และซีลีเนียม ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และชะลอวัย เมื่อเทียบกับเนื้อแดง ปลาซาร์ดีนมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า อุดมด้วยไขมันดี ปราศจากสารพิษ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเต็มที่โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงโรค
2. ปลาไน
ปลาไน หรือ อยู่ในตระกูลปลาคาร์ป ไม่เพียงเป็นอาหารคุ้นเคยในมื้อครอบครัว แต่ยังเป็นสุดยอดอาหารบำรุงสุขภาพ เนื้อปลาอุดมด้วยโปรตีนย่อยง่าย กรดอะมิโนจำเป็น โอเมก้า-3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และแร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส
ปลาไนจัดเป็นเนื้อปลาที่ดีที่สุด สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงครรภ์ เสริมน้ำนม ลดอาการบวม และสนับสนุนพัฒนาการสมองของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ โอเมก้า-3 และสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงผิวพรรณ และเสริมการทำงานของตับและไต
3. ปลากะพงขาว
ปลากะพงขาว หรือที่รู้จักในชื่อปลาวัว เป็นปลาเนื้อขาวที่ได้รับการยกย่องด้านคุณค่าทางโภชนาการ และความปลอดภัยต่อสุขภาพ เป็นปลาที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป เนื้อปลานุ่ม หวาน กระดูกน้อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังฟื้นตัวจากอาการป่วย หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้สูงวัย และเด็ก
ในแง่โภชนาการ ปลากะพงขาวอุดมด้วยโอเมก้า-3, DHA และ EPA ช่วยบำรุงสมองและลดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีวิตามิน A, D, B12 และแร่ธาตุ เช่น เหล็ก แคลเซียม สังกะสี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ด้วยสารอาหารหลากหลายและดูดซึมง่าย ปลากะพงขาวสมควรเป็นสุดยอดอาหารธรรมชาติที่ควรมีในเมนูประจำสัปดาห์
4. ปลากุแล
ปลากุแล มี EPA และ DHA กรดไขมันจำเป็นที่ช่วยลดไขมันในเลือด ควบคุมความดัน ปกป้องหัวใจ และบำรุงสมอง โอเมก้า-3 ยังต้านการอักเสบ ช่วยบำรุงสายตาและเสริมความจำ เหมาะสำหรับเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ใช้สมองหนัก
นอกจากนี้ ปลากุแลยังให้โปรตีนคุณภาพสูง วิตามิน D, B12 แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี ด้วยสารอาหารสูงแต่แคลอรีและคอเลสเตอรอลต่ำ ปลากุแลจึงดีต่อสุขภาพกว่าเนื้อแดง เหมาะสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนัก ผู้สูงวัยที่มีภาวะสมองเสื่อม หรือผู้ที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย เป็นอาหารที่ทั้งอร่อย บำรุงร่างกาย และช่วยป้องกันโรคได้อย่างดีเยี่ยม
5. ปลาไหลนา
ปลาไหลนาได้รับการยกย่องในแพทย์แผนตะวันออกว่าเป็น “โสมใต้ท้องน้ำ” ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยา ในปลาไหลนา 100 กรัม มีโปรตีน 16 กรัม น้ำตาล 3.2 กรัม ไขมัน 2 กรัม พร้อมวิตามิน A, B1, B12, P และกรดอะมิโน 17 ชนิดที่ร่างกายดูดซึมง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดเลือด อ่อนเพลีย หรือฟื้นตัวจากอาการป่วย
6. ปลาตะเพียน
ปลาตะเพียนเป็นปลาน้ำจืดที่มีรสชาติหวาน มีสรรพคุณบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร เสริมเลือด และช่วยให้จิตใจสงบ ตามตำราแพทย์แผนโบราณ เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ นอนไม่หลับ หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะจากภาวะขาดเลือด
เนื้อปลาตะเพียนอุดมด้วยโปรตีน 17.7% ไขมัน 1.8% แคลเซียม 70 มก.% เหล็ก 0.8 มก.% ฟอสฟอรัส 152 มก.% และวิตามินกลุ่ม B แม้มีไขมันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง ช่วยบำรุงเลือด ลดความเหนื่อยล้า มักนำไปปรุงเป็นซุปสมุนไพรหรือต้มกับผักเพื่อบำรุงผู้ป่วย
ที่กำลังฟื้นตัว ถึงตัวเล็กแต่คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณของปลาตะเพียนเปรียบดั่งยาอร่อยในมื้ออาหารครอบครัว
7. ปลาแมคเคอเรล
ปลาที่อุดมด้วยโอเมก้า-3 มากกว่าปลาแซลมอน ช่วยบำรุงหัวใจ เสริมความจำ และบำรุงสายตา การกินปลาแมคเคอเรลเป็นประจำช่วยลดไขมันในเลือด ควบคุมความดัน และป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดสมองและอัลไซเมอร์
นอกจากนี้ ปลาแมคเคอเรลยังเต็มไปด้วยวิตามิน D, B12 โปรตีนคุณภาพสูง และแร่ธาตุ เช่น เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ผิวพรรณสดใส ผมเงางาม และเสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยรสชาติเข้มข้น คุณค่าทางโภชนาการสูง และประโยชน์ต่อสุขภาพรอบด้าน ปลาแมคเคอเรลสามารถปรุงเป็นเมนูอร่อยหลากหลาย สมควรเป็นขาประจำในมื้ออาหารครอบครัว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เมื่ออ่านจบข้อมูลปลาทั้ง 7 ชนิด ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณค่าทางสารอาหารจะมหาศาลขนาดนี้ แล้วท่านผู้อ่านทายชนิดชื่อปลาติดโพลกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย ดังนั้นเมื่อเรารู้แบบนี้แล้ว คนที่้ชื่อว่าเนื้อปลาแซลมอลแพงเพราะมีโภชนาการทางสารอาหารสูงนั้น เปลี่ยนความคิดยังทันนะคะ แต่ถ้าอยากทานเพื่อความอร่อย นานๆสักครั้งก็ไม่เสียหายค่า ดังนั้นเราหันมาทานเนื้อปลาแทนเนื้อสัตว์กันดีกว่า เพื่อสุขภาพที่ดีของพวกเราทุกคน






















