ก้าวสำคัญในการต่อสู้ HIV อย.สหรัฐฯ อนุมัติยาฉีดป้องกัน HIV ฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง!
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อ HIV ด้วยการอนุมัติยา Lenacapavir (เลนาคาปาเวียร์) ซึ่งจะวางจำหน่ายภายใต้ชื่อ Yeztugo เป็นยาป้องกัน HIV (Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP) ชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์ยาวนาน โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ HIV สามารถรับการฉีดได้เพียงปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่งที่อาจพลิกโฉมสถานการณ์การแพร่ระบาดของ HIV ทั่วโลก
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในแนวทางการป้องกัน HIV
ที่ผ่านมา การรักษาและป้องกัน HIV อาศัยยาต้านไวรัสที่ผู้ติดเชื้อหรือผู้มีความเสี่ยงต้องรับประทานยาเม็ดทุกวัน (Daily Oral PrEP) แม้ว่ายาเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถควบคุมไวรัสให้อยู่ในระดับที่ตรวจไม่พบได้ (Undetectable = Untransmittable: U=U) และช่วยป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ผลเลือดเป็นลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การต้องรับประทานยาทุกวันก็เป็นความท้าทายด้านความสม่ำเสมอในการรับยา (Adherence) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิผลของการป้องกัน
Lenacapavir ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Gilead Sciences และได้รับการอนุมัติจาก FDA ครั้งแรกในปี 2565 เพื่อใช้รักษาผู้ป่วย HIV ที่ไวรัสเริ่มดื้อยาต้านไวรัสชนิดอื่น ๆ ระหว่างการวิจัย นักวิทยาศาสตร์ของ Gilead ได้ค้นพบคุณสมบัติสำคัญสองประการของ Lenacapavir ที่ทำให้ยาตัวนี้มีศักยภาพในการป้องกัน HIV ด้วยเช่นกัน ได้แก่ ความสามารถในการคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่ายาต้านไวรัสอื่น ๆ และกลไกการออกฤทธิ์ที่เข้าไปยับยั้งหลายขั้นตอนในวงจรชีวิตของไวรัสในการเพิ่มจำนวนตัวเอง
ดร. เดวิด โฮ (Dr. David Ho) ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา ภูมิคุ้มกันวิทยา และการแพทย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้บุกเบิกการใช้ยาร่วมกันเพื่อยับยั้งไวรัส HIV และการดื้อยา ได้กล่าวว่า "Lenacapavir เพียงอย่างเดียวสำหรับการป้องกันถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ศักยภาพของมันในการควบคุมการแพร่ระบาดมีสูงมาก"
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ทำไม หมาแมว ดมฝุ่นตลอดถึงไม่เป็นอะไรเหมือนคน?
✪ ต่อยท้องเล่นๆ ลำไส้ทะลุ-ตับแตก เสี่ยงตาย และมีปัญหาช่องท้องระยะยาว อย่าเล่นพิเรนทร์! มีลูกเตือนลูก!
ประสิทธิผลที่น่าทึ่งจากผลการศึกษา
จากการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ 2 การศึกษา (PURPOSE 1 และ PURPOSE 2) ที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ของ Gilead พบว่า Lenacapavir มีประสิทธิผลที่โดดเด่นในการป้องกันการติดเชื้อ HIV:
- 100% ประสิทธิผลในสตรีข้ามเพศ (Cisgender Women): ในการศึกษา PURPOSE 1 พบว่า Lenacapavir มีประสิทธิผล 100% ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ในสตรีข้ามเพศ เมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานยา PrEP รายวัน
- 96% ประสิทธิผลในชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ: ในการศึกษา PURPOSE 2 พบว่า Lenacapavir มีประสิทธิผล 96% ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ
ข้อมูลเหล่านี้ตอกย้ำถึงศักยภาพของ Lenacapavir ในการเป็นเครื่องมือสำคัญในการยุติการแพร่ระบาดของ HIV ในอนาคต โดยกลไกการออกฤทธิ์ของ Lenacapavir คือการไปจับกับโปรตีนแคปซิดของ HIV ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของไวรัส ทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนหรือประกอบร่างเป็นไวรัสตัวใหม่ได้ ซึ่งแตกต่างจากยาต้านไวรัสส่วนใหญ่ที่ออกฤทธิ์เพียงขั้นตอนเดียวในวงจรชีวิตของไวรัส
อุปสรรคและความท้าทาย: ราคาและการเข้าถึง
แม้จะเป็นข่าวดีที่สร้างความหวัง แต่กลุ่มผู้เคลื่อนไหวและองค์กรด้านเอดส์ทั่วโลกยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำศักยภาพของยาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:
- ราคา: แม้ว่า Gilead จะไม่ระบุราคาที่ชัดเจนสำหรับ Lenacapavir แต่โฆษกของบริษัทระบุว่าราคาน่าจะ "สอดคล้องกับยา PrEP ยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีอยู่" ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า Lenacapavir อาจมีราคาสูงถึง $28,218 ต่อปี (ประมาณ 1 ล้านบาท) สำหรับการป้องกัน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด Kevin Frost ซีอีโอของ amfAR (The Foundation for AIDS Research) กล่าวว่า ยาตัวนี้อาจ "เอื้อมไม่ถึง" สำหรับประชากรในประเทศเหล่านี้
- โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ: ยา Lenacapavir จำเป็นต้องได้รับการฉีดโดยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้รับยาจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ HIV ก่อนการฉีดแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ติดเชื้อ HIV อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางในประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่การเข้าถึงบริการสุขภาพทำได้ยาก
ฮุย หยาง (Hui Yang) หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการจัดหาของกองทุนโลกเพื่อต่อสู้กับ HIV, วัณโรค และมาลาเรีย กล่าวว่า การฉีดยาด้วยตนเองที่บ้านได้ (Self-injectable) ปีละ 2 ครั้ง จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงได้อย่างมาก ซึ่ง Gilead กำลังวิจัยยา Lenacapavir ชนิดฉีดเพียงปีละครั้ง เพื่อลดจำนวนครั้งในการเข้ารับบริการที่คลินิก
- การลดงบประมาณสนับสนุน: เควิน ฟรอสต์ เน้นย้ำถึงความกังวลอย่างยิ่งต่อการลดงบประมาณโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ สำหรับการรักษาและป้องกัน HIV ทั่วโลก เช่น โครงการ USAID, PEPFAR (President's Emergency Plan for AIDS Relief) และ National Institutes of Health ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่า "เราเพิ่งสร้างเครื่องบินที่ดีที่สุดในโลก แต่กลับทำลายรันเวย์ทั้งหมด" การลดงบประมาณเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึง Lenacapavir ในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม Gilead ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยได้ลงนามในข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิแบบไม่ผูกขาดและไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ (Royalty-Free Licensing Deals) กับผู้ผลิตยาสามัญ 6 ราย เพื่อผลิต Lenacapavir สำหรับการป้องกันใน 120 ประเทศที่มีภาระโรคสูงและมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร นอกจากนี้ Gilead ยังวางแผนที่จะจัดหายาในราคาไม่แสวงหากำไรจนกว่าผู้ผลิตยาสามัญจะสามารถผลิตได้เต็มที่
ผลกระทบต่อการพัฒนาวัคซีน HIV
Lenacapavir ไม่ใช่วัคซีนป้องกัน HIV แต่มีผลในการป้องกันการติดเชื้อที่คล้ายคลึงกับวัคซีน โดยยาจะคงอยู่ในร่างกายเพื่อต่อสู้กับไวรัสที่อาจเข้าสู่ร่างกาย ในขณะที่วัคซีนจะฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้รู้จักและต่อสู้กับเชื้อโรค
เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วนับตั้งแต่ค้นพบ HIV แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันได้สำเร็จ ดร. โฮ ระบุว่า "วัคซีนที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนายังไม่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ในระดับนี้"
ด้วยการอนุมัติ Lenacapavir ที่มีประสิทธิผลสูง ทำให้มาตรฐานสำหรับการพัฒนาวัคซีนยิ่งสูงขึ้น การทดลองวัคซีนในอนาคตอาจเผชิญกับความท้าทายทางจริยธรรมในการใช้ยาหลอก เนื่องจากทั้งยา PrEP แบบกินและ Lenacapavir แบบฉีดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน HIV การไม่ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองวัคซีนเข้าถึงการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้อาจเป็นปัญหาได้ ซึ่งอาจทำให้การวิจัยวัคซีนชะลอตัวลง ดร. โฮ กล่าวว่า "สิ่งนี้อาจทำให้การวิจัยวัคซีนหมดกำลังใจไปบ้าง เพราะมียาที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว"
อนาคตของการรักษาและการป้องกัน HIV
การที่ Lenacapavir ออกฤทธิ์ได้ยาวนานเป็นทิศทางใหม่สำหรับยาต้าน HIV ซึ่งสามารถทำให้การป้องกันการติดเชื้อเป็นไปได้จริงและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้คนจำนวนมาก ฮุย หยาง กล่าวเสริมว่า "เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์หลายทศวรรษว่าในโครงการป้องกัน การยึดมั่นในการรับยาเป็นประเด็นสำคัญ และนั่นคือสิ่งที่เราหวังว่าจะได้รับการแก้ไขด้วยการนำ Lenacapavir มาใช้เป็น PrEP" กองทุนโลกมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการป้องกันอีก 2 ล้านคนในอีกสามปีข้างหน้า และ Lenacapavir อาจช่วยเร่งให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้
โดยสรุปแล้ว การอนุมัติ Lenacapavir ถือเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการป้องกัน HIV อย่างสิ้นเชิง แต่การจะทำให้ศักยภาพนี้เป็นจริงขึ้นมาได้นั้น จำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาด้านราคา การเข้าถึง และการสนับสนุนโครงการด้าน HIV ทั่วโลกอย่างจริงจัง
ราคายา Lenacapavir ต่อโดส
ตามรายงานล่าสุด ยา Lenacapavir (Yeztugo) สำหรับการป้องกัน HIV อาจมีราคาราว $28,218 ต่อปี (ประมาณ 1 ล้านบาท) สำหรับการฉีดสองครั้งต่อปีในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ราคาจริงสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการประกันสุขภาพและโปรแกรมช่วยเหลือผู้ป่วย และสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง ทางบริษัท Gilead Sciences ได้ริเริ่มโครงการอนุญาตให้ผลิตยาสามัญและจัดหายาในราคาไม่แสวงหากำไร เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาในระดับโลก
FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยา Lenacapavir เพื่อการป้องกัน HIV
1. Lenacapavir (Yeztugo) คืออะไร และแตกต่างจาก PrEP รูปแบบเดิมอย่างไร? Lenacapavir หรือที่จำหน่ายในชื่อ Yeztugo เป็นยาป้องกัน HIV (PrEP) ชนิดฉีดตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกา ซึ่งแตกต่างจาก PrEP รูปแบบเดิม (ยาเม็ดรายวัน) ตรงที่ Lenacapavir ออกฤทธิ์ยาวนาน ผู้ใช้ต้องการรับการฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง (ทุก 6 เดือน) เท่านั้น ทำให้สะดวกและช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอในการป้องกันการติดเชื้อ HIV
2. ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่ควรใช้ Lenacapavir เพื่อป้องกัน HIV? Lenacapavir เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ HIV ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
- ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM)
- สตรีข้ามเพศและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ
- ผู้ที่คู่มีผลเลือด HIV เป็นบวก (Serodifferent Couples)
- ผู้ที่ไม่สามารถรับประทานยา PrEP รายวันได้อย่างสม่ำเสมอ
3. Lenacapavir มีประสิทธิผลในการป้องกัน HIV มากน้อยแค่ไหน? จากการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ Lenacapavir มีประสิทธิผลสูงมาก โดยพบว่า:
- มีประสิทธิผล 100% ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ในสตรีข้ามเพศ
- มีประสิทธิผล 96% ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ในชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ
4. มีผลข้างเคียงอะไรบ้างจากการใช้ Lenacapavir? เช่นเดียวกับยาทั่วไป Lenacapavir อาจมีผลข้างเคียงได้ แต่โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยและทนทานได้ดี ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคืออาการปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่วนใหญ่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลางและหายได้เองภายในหนึ่งสัปดาห์ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
5. จะต้องมีการตรวจหาเชื้อ HIV ก่อนการฉีด Lenacapavir หรือไม่? ใช่ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ที่ต้องการรับ Lenacapavir เพื่อการป้องกัน จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ HIV ก่อนการฉีดแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผลเลือดเป็นลบ หากผู้ป่วยติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว การใช้ Lenacapavir เพียงอย่างเดียวเพื่อการป้องกันอาจนำไปสู่การดื้อยาได้ และผู้ป่วยจำเป็นต้องเริ่มการรักษา HIV ด้วยยาต้านไวรัสแบบครบสูตรทันที
6. Lenacapavir จะมีผลต่อการพัฒนาวัคซีน HIV ในอนาคตอย่างไร? Lenacapavir มีประสิทธิผลในการป้องกัน HIV สูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้การพัฒนาวัคซีน HIV เผชิญกับความท้าทายทางจริยธรรมในการทดลองทางคลินิกที่ต้องใช้ยาหลอก อย่างไรก็ตาม Lenacapavir ไม่ใช่วัคซีนและไม่ได้ฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับไวรัส แต่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ทำให้การวิจัยวัคซีนยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการยุติการแพร่ระบาดในระยะยาว
7. Lenacapavir จะเข้าถึงได้ง่ายในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางหรือไม่? แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะสูง แต่บริษัท Gilead Sciences ได้พยายามเพิ่มการเข้าถึงยาในประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยได้ลงนามข้อตกลงอนุญาตให้ผลิตยาสามัญกับผู้ผลิต 6 ราย และวางแผนจัดหายาในราคาไม่แสวงหากำไรจนกว่าผู้ผลิตยาสามัญจะสามารถผลิตได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการเข้าถึงในวงกว้างยังคงขึ้นอยู่กับการสนับสนุนทางการเงินและโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพในแต่ละประเทศ
8. คาดการณ์ว่าเมื่อไรที่ Lenacapavir จะมีให้ใช้ในประเทศไทย? ปัจจุบัน Lenacapavir สำหรับการป้องกัน HIV เพิ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกา และอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านการขึ้นทะเบียนยาในประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย บริษัท Gilead Sciences ได้ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 18 ประเทศที่มีภาระโรค HIV สูงที่พวกเขาให้ความสำคัญในการขึ้นทะเบียนยาเพื่อจัดหายา Lenacapavir จนกว่ายาชื่อสามัญจะพร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม กำหนดการที่ชัดเจนในการวางจำหน่ายในประเทศไทยยังคงต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของไทย (อย.)
9. ยา Lenacapavir มีข้อจำกัดในการใช้สำหรับกลุ่มบุคคลใดบ้าง? โดยทั่วไป Lenacapavir มีข้อจำกัดการใช้คล้ายกับยา PrEP ชนิดอื่น ๆ คือ ผู้ใช้จะต้องมีผลตรวจ HIV เป็นลบก่อนเริ่มใช้และก่อนการฉีดแต่ละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะดื้อยา หากผู้ป่วยมีการติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว ควรใช้ยาต้านไวรัสแบบผสมผสานสำหรับการรักษา นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางประการหรือกำลังรับประทานยาบางชนิดร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
สรุปบทความ
การอนุมัติยาฉีด Lenacapavir (Yeztugo) โดย FDA สหรัฐอเมริกา ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการต่อสู้กับ HIV โดยนำเสนอทางเลือกใหม่ในการป้องกันที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง ยานี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการยึดมั่นในการรับยาของผู้ที่ใช้ PrEP รายวันได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิผล อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญยังคงเป็นเรื่องของราคาและการเข้าถึงยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด การลดงบประมาณสนับสนุนโครงการ HIV ทั่วโลกยังเป็นอุปสรรคที่ต้องจับตา การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ผ่านความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหากำไร จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพเต็มที่ของ Lenacapavir เพื่อยุติการแพร่ระบาดของ HIV ทั่วโลกอย่างแท้จริงในอนาคต
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ สิทธิบัตรยาในประเทศไทย การผูกขาดที่ส่งผลต่อราคายาและการเข้าถึงการรักษา
✪ เลือดเทียม นวัตกรรมการถ่ายเลือดสังเคราะห์ในมนุษย์
✪ ความหวังใหม่ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ชายออสเตรเลียคนแรกของโลกที่ใช้หัวใจเทียมทั้งหมด
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ
อ้างอิงจาก:
https://newsdailyth.com/archives/2395
https://time.com/7295343/fda-hiv-shot-lenacapavir-yeztugo/
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
พุทธ อภิวรรณ’ โพสต์ หลัง ‘ธนกฤต’ เปิดประเด็นสงสัย ’วางยา?’ กรณีการเสียชีวิตของ ณัฐวุฒิ ปงลังกา นักข่าวช่อง 8
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"เจ้าหญิงซัมซุง" ยิ่งโตยิ่งสวย! แถมยังรวยล้นฟ้า..บอกเลยดีกรีไม่ธรรมดา
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
จากผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สู่ผู้ต้องลุ้นชะตา ฮุนเซน กับเกมหนีคุกสหรัฐฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
แรคคูนเมาแอ๋! บุกร้านเหล้าอเมริกัน ฉกวิสกี้ดื่มจนหลับคาห้องน้ำ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ปริศนาแห่งห้วงลึก เผยโฉม "ปลาหมึกเจ็ดแขน" สัตว์ยักษ์ที่หาตัวยากที่สุดในโลก
"บัวนางกวัก"ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครกลีบเลี้ยงโผล่ออกมาเหมือนนางกวัก น่ามีไว้ในบ้านสักกอ
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?









