ปวดหัวแบบไหน ถึงจะใช่ไมเกรน
ปวดศีรษะ อาจจะไม่ใช่แค่ไมเกรน
หลายคนที่ปวดศีรษะแล้วมาหาหมอ ก็บอกหมอเลยว่า หมอ ฉันเป็นไมเกรน ขอยาแก้ไมเกรนหน่อย เพราะคิดว่ายาแก้ปวดไมเกรนเท่านั้นที่ตรงกับโรค จะรักษาอาการให้ดีขึ้น
ทั้งๆที่อาการปวดศีรษะอาจมาได้จากหลายโรค ไม่ว่าจะ ปวดฟัน เป็นหวัด มีไข้ ไซนัสอักเสบ ปวดตา ปวดหู ความเครียด หรืออื่นๆสารพัดโรค ที่ไม่ใช่ไมเกรน
แล้วทำไม ถ้าจะกินยาไมเกรน มันจะเสียหาย อะไรเหรอ?
เสียหายสิครับ เพราะว่า การปวดศีรษะแบบไมเกรน จะต้องปวดแบบตุ๊บๆ เท่านั้น ไม่ปวดจี๊ด ไม่ปวดตื้อ ไม่ปวดตึง ไม่ปวดหน่วง เหมือนโรคอื่น ดังนั้นการปวดตุ๊บๆ เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือด ถ้าไปกินยาแก้ไมเกรน จะทำให้หลอดเลือดหดตัว แล้วถ้าไม่ได้ปวดไมเกรนจริงๆ แต่ทานยาไมเกรนไปนานๆ ก็จะเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจตีบได้นั่นเอง
ไมเกรน จะปวดตุ๊บๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ เป็นการขยายตัวหลอดเลือด สัมพันธ์ กับความเครียด อดหลับอดนอน ควันบุหรี่ กลิ่นหอมฉุนเกินไป แสงกระพริบๆ และอาหารที่กระตุ้นไมเกรน ได้แก่ คาเฟอีน(ชา กาแฟ น้ำอัดลม) ช็อกโกแล็ต หมูแฮม เบคอน ไส้กรอก กระถิน ชะอม ของหมักดอง (น้ำส้มสายชู กิมจิ แอลกอฮอลล์) และผงชูรส
ก่อนมีอาการ บางคนจะมีอาการนำ เรียกว่า ออร่า เช่น ชาตามปลายมือ ลิ้นรับรสแปลกๆ หรือกระตุกที่แขน แล้วพอมีอาการก็จะปวดตุ๊บๆแบบทรมานมาก กว่าจะหายก็นานเลยทีเดียว นอกจากการรับประทานยาแก้ไมเดรนแล้ว การหลบไปพักในมุมสงบ บีบนวดเบาๆ ทานน้ำเก๊กฮวยที่เย็นจัดๆ เชื่อว่าจะผ่อนคลาย ทำให้หลอดเลือดไม่ขยายตัวจนเกินไปนะครับ
ต่อไปนี้ปวดหัว ก็จะได้ไม่เข้าใจว่าเป็นไมเกรน กันซะทีเดียว ถ้าปวดตึงจากความเครียดก็ยอมรับว่าเครียดซะดีๆ นะทุกคน หรือไม่งั้นก็ให้หมอตรวจแล้วหมอสรุปเอง อย่าเพิ่งไปบอกหมอก่อนว่าเป็นไมเกรน ไม่งั้นนอกจากยาไม่ตรงโรค แต่จะได้โรคเพิ่มนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีจากหมอกอล์ฟ เพจคุณหมอสตอรี่