5 เหตุผลที่ขายของไม่ดีเหมือนเดิม
ไปไหนมาไหน พ่อค้าแม่ค้าก็บ่นว่าขายของไม่ได้เลย มาดูเหตุผลจริงๆว่า ทำไม ถึงขายของได้ไม่ดีเท่าเดิม
1. มีคนขายเยอะเกินไป
ทุกวันนี้ ใครๆก็ขายของได้ บางคนทำงานประจำไปด้วยขายของออนไลน์ไปด้วย ในขณะที่คนซื้อกลับน้อยลงจากภาวะเศรษฐกิจ ตกงาน และการระบาดของโควิดอย่างยาวนาน ไม่เมื่อการค้าขายทำได้ง่ายๆแบบนี้ คนขายจึงมากกว่าคนซื้อเป็นธรรมดา
2. คนไม่กล้าใช้เงิน
เข้ายุคของการประหยัด งดซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย หลายคนเป็นหนี้สูง มีรายได้ลดลง การขายของดีเท่าเดิมมันย่อมเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ข้าวของราคาแพง ภาวะเงินเฟ้อสูงทั่วโลก คนจึงไม่กล้าไม่เงินฟุ่มเฟือยอีกแล้ว การประหยัดนั้นดีต่อตัวผู้บริโภค แต่มันไม่ดีต่อพ่อค้าแม่ค้าแน่นอน
3. ขายของที่ไม่จำเป็นในชีวิต
สินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ใช่ของกินของใช้ประจำวัน จะขายออกยากมาก เพราะคนจะตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยมีราคาสูงออกก่อน หลายคนชะลอการซื้อบ้านซื้อรถออกไปเพราะเหตุผลนี้ ทุกวันนี้ หากทำงานในกรุงเทพ รถยนต์ก็ไม่ได้มีความจำเป็น บางคนยังพูดเลยว่า การมีบ้านก็ไม่ได้จำเป็นมากในยุคนี้เช่นกัน เพราะสามารถเช่าเอาได้ ไม่มีภาระผูกพันระยะยาว แถมธุรกิจสมัยนี้ก็ไล่คนออก และใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานคนได้เสมอ การไม่มีหนี้สินระยะยาวจึงปลอดภัยกว่า
4. ผู้บริโภคซื้อของทางออนไลน์แทน
ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ ผู้บริโภคนิยมซื้อของทางออนไลน์ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไม่เดินตามตลาดร้านค้าเหมือนเดิมอีกแล้ว อีกไม่นานการซื้อของตามห้างก็จะลดลงเช่นกัน เนื่องจาก กลัวการระบาดของโควิด จึงสั่งซื้อของออนไลน์ โดยเปรียบเทียบราคาที่ถูกคุ้มค่าที่สุดจากทุกเจ้าในออนไลน์ ด้วยสเปคที่เท่ากัน คนสมัยนี้แม้แต่อาหารยังสั่งซื้อทางออนไลน์แทน
5. กลุ่มลูกค้ามีจำนวนลดลง
ตอนนี้เด็กเกิดน้อยลง คนไม่นิยมมีลูกกันแล้ว แถมคนมีอายุมากขึ้น ใช้จ่ายน้อยลง ความต้องการใช้จ่ายลดลง เพราะผู้สูงอายุไม่ค่อยใช้จ่ายอะไร ไม่ค่อยเดินทางไปไหน ของที่เคยขายดีมากๆ เหมือนเดิม จึงขายดีไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แถมลูกค้าต่างประเทศ คนตกงานมาก เกิดพฤติกรรมใหม่ที่คนเดินทางท่องเที่ยวน้อยลงทั้งโลก หลายประเทศรัฐบาลให้ช่วยเหลือตัวเอง /ม่สนับสนุนให้เดินทางท่องเที่ยว แถมมีสงคราม ภาวะเงินเฟ้อสูง ลูกค้าจึงหดเล็กลงอย่างช่วยไม่ได้