การลดน้ำหนักแบบ IF ทำผิดชีวิตเปลี่ยน
คาดว่าหลายคนคงเคยเห็นข่าวเด็กวัย 14 ปี ที่ทำการลดน้ำหนักเเบบ IF หรือ Intermittent fasting 23/1 บวกกับการกินเเบบ Low carb หรือการกินเเป้งน้อยลง ติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปีเพื่อตั้งใจลดน้ำหนัก ส่งผลให้ร่างกายรับไม่ได้ เกิดอาการช็อค วูบ เเละป่วยเจอภาวะเสี่ยงโรคธาลัสซีเมียเเละไขมันในเลือดสูง ซึ่งอันตรายมาก ๆ การลดน้ำหนักเเบบนี้ควรทำยังไงถึงจะพอดี เเละใครบ้างไม่ควรทำ วันนี้มีคำตอบค่ะ
Intermittent fasting ก็คือการเเบ่งช่วงกินเเละงดอาหาร โดยจะมีการเเบ่งช่วงกินหรือ Feeding กับช่วงงดอาหาร หรือ fasting อย่างสมดุลกัน เพื่อร่างกายจะดึงเอาไขมันที่สะสมตามร่างกายมาใช้ในช่วงที่เรางดอาหาร เเละเเน่นอนว่าจะมีต้องเวลากับมัน เพราะฉะนั้นช่วง fasting ก็จะยาวนาน อาจจะเป็น 18/6 คืองดอาหาร 18 ชั่วโมง เเละสามารถทานได้ 6 ชั่วโมง หรือจะใช้สูตร 12/12 หรือ 16/8 สำหรับผู้เริ่มต้นก็ได้ อยากทำอย่าเริ่มด้วยความหักโหมเกิน
สำหรับข้อจำกัดของ IF ก็มีนะคะ เช่น คนที่เป็นเบาหวาน เพราะการทำ IF อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราต่ำ คนเป็นเบาหวานจึงควรเลี่ยงทำ เป็นโรคหัวใจความดัน หรือคนที่มีระบเผาผลาญไม่ปกติ จะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุดค่ะ
ส่วนอาการที่อาจจะตามมาตอนทำ IF ก็เเล้วเเต่บางคนนะคะ บางคนก็ไม่เป็นอะไร เเค่หิว เเต่บางคนจะเวียนหัว อารมรณ์อาจจะเเปรรปรวนได้ ถ้าทำเเบบเคร่งเเละเครียดเกินไป
หากเราจะลดน้ำหนักเเบบ Intermittent fasting ช่วงที่ทานได้ พยายามจัดมื้ออาหารดี ๆ ใครครบห้าหมู่ เเละต้องควบคุมปริมาณด้วย ไม่ใช่กินเต็มที่เเบบปกติเลย ยัดมันเข้าไปให้หมดภายใน 6 ชั่วโมง มันก็ไม่ลดอยู่ดีนะสู
ในขณะเดียวกันก็อย่าหักโหมเเบบโหดเกินไปเหมือนเด็ก 14 ที่เป็นข่าว นอกจากจะกินได้เเค่วันละชั่วโมงเเล้ว ยังใจร้ายกับร่างกายเกินไป โดยการลดกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงอีก เเบบนี้มันเกินไปเด้อ ทุกอย่างมันต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดี มันถึงจะเห็นผล เเละเราก็รู้สึกมีความสุขด้วย เพราะมันไม่ทรมานกับร่างกายตัวเองจนเกินไป