ปลูกแตงโมอย่างไรปลอดสารพิษ รับประทานแตงโมอย่างไรปลอดภัยที่สุด ?
แตงโมเป็นผลไม้ที่คนไทยชอบรับประทาน เนื่องจากมีรสหวานฉ่ำน้ำ รับประทานแล้วสดชื่น สามารถนำมาทำน้ำแตงโม หรือรับประทานเป็นผลไม้ก็ได้ และแตงโมยังมีประโยชน์หลายอย่างได้แก่ ดื่มน้ำแตงโมบรรเทาอาการไข้ คอแห้ง หากเป็นแผลในปาก ให้ใช้น้ำแตงโมอมบ่อย ๆ อาการก็จะบรรเทาลงได้
ด้วยความที่คนนิยมรับประทานเช่นนี้ ทำให้เกษตรกรจำนวนมาก เลือกปลูกแตงโมเป็นอาชีพ แต่เมื่อต้องการเร่งผลผลิตให้ได้ปริมาณที่มากก็มักจะเลือกใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ซึ่งจะหากใช้ในปริมาณไม่เหมาะสม หรือใช้ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ก็มักจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ต่อสิ่งแวดล้อม และกลายเป็นสารตกค้างบนแตงโมได้ เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ปลูก และผู้รับประทาน ควรที่จะเลือกวิธีปลูกแตงโมด้วยระบบพืชหมุนเวียน ซึ่งแตงโมเอง ก็เป็นพืชหมุนเวียนที่เหมาะสำหรับชาวนาที่ไม่สามารถปลูกข้าวได้ในช่วงหน้าแล้ง และแตงโมเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด จึงเหมาะที่จะปลูกเป็นพืชหมุนเวียนแทนข้าวได้ นอกจากนี้การปลูกแตงโมยังช่วยในการปรับปรุงบำรุงให้ดินดี มีคุณภาพ ช่วยตัดวงจรศัตรูพืชให้หมดไปหรือลดน้อยลงได้
ขั้นตอนการปลูกแตงโมแบบปลอดสารพิษ ทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอน ดังนี้
1.เลือกฤดูที่เหมาะ แตงโมเป็นพืชที่สามารถโตได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ต้องไม่มีน้ำขัง ชอบดินร่วนปนทราย ชอบอากาศแห้งและอุณหภูมิสูง ถ้าปริมาณน้ำฝนสูงและความชื้นสูง จะสร้างความเสียหายให้กับแตงโมได้มาก ฤดูที่เหมาะคือฤดูหนาวตอนปลาย โดยอยู่ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมิถุนายน โดยแปลงต้องได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดทั้งวัน
2.การเตรียมดิน ให้ไถพริกดิน ให้พื้นที่เป็นสันร่องสูง 1 คืบหรือ 30 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร แล้วตากไว้ 1 อาทิตย์ เพื่อกำจัดวัชพืช โรค และแมลง หลังจากนั้นให้ดินผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปรับดินให้เสมอกัน แล้วรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกที่เตรียมไว้พอประมาณ
3.การปลูก ให้ขุดดินเป็นหลุมปลูกกว้างและลึกพอประมาณ นำต้นกล้าพันธุ์แตงโมลงปลูก เกลี่ยดินกบ แต่ละหลุมจะมีระยะห่างกัน 30 เซนติเมตร รอประมาณ 3 วันจะเกิดใบเลี้ยงคู่งอกขึ้นมา จนต้นกล้าอายุ 7 วัน ก็เริ่มฉีดน้ำหมักจุลินทรีย์เพื่อป้องกันแมลงได้ทันที
4.ดูแลเรื่องน้ำ ถึงแม้แตงโมขาดน้ำจะไม่ตาย แต่ก็ทำให้ชะงักการเจริญเติบโตได้ ดังนั้นควรติดตั้งระบบการให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด โดยต้นแตงโมขนาดเล็ก ได้ให้น้ำวันละนาน 30 นาที และระยะก่อนเก็บผล 7 ถึง 10 วันให้น้ำทุกวัน แต่ละครั้งนาน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ผลแตงโมมีคุณภาพมากที่สุด
5.การรักษาความชุ่มชื้นในดิน เมื่อเถาแตงโมเจริญได้นิดหน่อย ควรคลุมดินด้วยฟาง จะรักษาความชุ่มชื้นในดิน และให้แตงโม ไม่ชะงักในการเจริญเติบโต
6. การทำให้ผลแตงโมมีสีสวย และรสหวาน เมื่อแตงโมมีขนาดโตพอประมาณ ควรเอาฟางรองใต้ผลให้หนาพอสมควรเพื่อไม่ให้ผลสัมผัสกับดินโดยตรง ควรกลับผลแตงโมด้านที่ไม่โดนแสงแดดให้ขึ้นมาถูกแสงแดด ในช่วง 10 วันก่อนการเก็บเกี่ยว จะทำให้ผลแตงโมมีสีสม่ำเสมอ มีรสหวานขึ้น
การรับประทานแตงโมที่ปลอดภัยที่สุด ควรเลือกซื้อแตงโมเป็นลูก ๆ มาหั่นเอง แทนการซื้อแบบหั่นสำเร็จแล้ว หรือไม่เช่นนั้น ต้องเลือกแบบที่หันแล้วแช่เย็น ล้างเปลือกแตงโมทุกครั้งก่อนการผ่า ล้างให้สะอาด ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้น้ำยาล้างจานล้างเบา ๆ เพื่อเอาเศษดินออกให้มากที่สุด เพราะมีรายงานว่าเชื้อบางชนิดสามารถก่อไบโอฟิล์ม ทำให้ยึดติดกับเปลือกได้ ซึ่งล้างไม่ค่อยออก และเมื่อผ่าแตงโมแล้วให้รับประทานทันที