"I Modi" หนังสือโป๊เล่มแรกของโลก โดยจิตรกรยุคเรอเนซองส์
ถ้าจะเอ่ยถึง "หนังสือโป๊" สมัยก่อนๆยุคในอดีตเชื่อว่า..ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงจะเคยดูกันมาก่อน แต่รู้หรือไม่ ? หนังสือโป๊ฉบับแรกของโลกคืออะไร ? มีที่มาที่ไปยังไง ? ถ้าใครอยากรู้และรักในการอ่านล่ะก้อ งั้นเรามาติดตามเพื่อเป็นความรู้กันดีกว่า
หนังสือ "อี โมดี" (I Modi)
อี โมดี ถือเป็นหนังสือโป๊ฉบับแรกของโลก ซึ่งแปลว่า "วิถีต่างๆหรือท่าต่างๆ" มันคือหนังสือโป๊รุ่นแรกๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์อย่างแพร่หลาย ซึ่งเริ่มต้นราว ค.ศ. 1524 โดยมาจากฝีมือจิตรกรชาวอิตาเลียนนามว่า "จูลิโอ โรมาโน" (Giulio Romano) เป็นศิลปินจิตรกรยุคเรอเนซองส์ เขาเป็นลูกศิษย์เอกของ "ราฟาเอล" (Raphael) หรือชื่อเต็ม "รัฟฟาเอลโล ซานซีโอ ดา อูร์บีโน" (Raffaello Sanzio da Urbino)
ซึ่งเขากำลังวาดภาพตกแต่ง "พาลัซโซ เดล เท" (Palazzo del Te) ในวังฤดูร้อนของ "เฟเดริโกที่ 2 แห่งตระกูลกอนซากา ดยุกแห่งแมนชัว" (Federico II Gonzaga, Duke of Mantua) โดยเขาได้เขียนภาพโป๊จำนวนหนึ่งไว้เป็นสมบัติส่วนตัวของดยุก ซึ่งในสมัยนั้นผู้ที่มีฐานะเท่านั้น ที่จะสามารถซื้อหาภาพโป๊ไว้เชยชมอย่างเสรีในบ้านของตนเองได้
Mantova-Palazzo-Te-Camera-dei-Giganti-4-1000x666-11
Federico II Gonzaga, Duke of Mantua
จุดเริ่มการตีพิมพ์หนังสือ
เริ่มจาก "มาร์คันโทนิโอ ไรมอนดี" (Marcantonio Raimondi) ซึ่งอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1480-1534 โดยเป็นช่างแกะสลักลายชาวอิตาเลียน เขาได้เดินทางไปยัง พาลัซโซ เดล เท และได้เห็นภาพโป๊เหล่านี้เข้า เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจแกะลายเป็นภาพกระบวนท่าร่วมเพศ 16 ท่า และรวมพิมพ์เป็นเล่มด้วยแท่นพิมพ์ในกรุงโรม และก็ได้ตั้งชื่อหนังสือนี้ว่า "อี โมดี" ในปี ค.ศ. 1524
หนังสือถูกเผาทำลาย
แต่สุดท้ายหนังสือโป๊เล่มนี้ส่งผลทำให้ "สันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7" (Pope Clement VII) ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1523-1534 สั่งให้เผาทำลายทิ้งทั้งหมดที่หาได้ และจับเขาเข้าคุกและสั่งห้ามว่าการพิมพ์ซ้ำถือเป็นความผิดร้ายแรง จนไม่มีการแกะสลักดั้งเดิมชิ้นใดหลงเหลืออยู่ แม้จะมีชิ้นส่วนยุคแรกๆเพียง 2-3 ชิ้นใน "บริติชมิวเซียม" ที่ตัดส่วนที่อนาจารออกหมด โดยรุ่นแรกสุดที่ยังหลงเหลืออยู่มาจากปี ค.ศ. 1527 และมีลายไม้แทนการแกะสลักนั่นคือพื้นฐานสำหรับฉบับหนังสือโป๊นี้
ถูกตีพิมพ์ฉบับที่ 2
พอผ่านมา "พิเอโทร อเรทิโน" (Pietro Aretino) ซึ่งเป็นนักเขียนและกวีชาวอิตาเลียน เกิดชื่นชอบหนังสือรวบภาพของ มาร์คันโทนิโอ ไรมอนดี เขาจึงช่วยให้ไรมอนดีได้พ้นคุก และได้ติดต่อ "โรมาโน" เพื่อขอแต่งร้อยกรอง "ซอนเน็ต" (Sonnet) เพื่อเป็นร้อยกรองคู่กับภาพกระบวนท่าร่วมเพศทั้ง 16 ท่า
และได้ตีพิมพ์หนังสืออี โมดี ฉบับที่ 2 ขึ้นในปี ค.ศ. 1526 เป็นท่าร่วมเพศ 16 ท่า โดยมีตัวละครจาก..เทพกรีก, โรมัน และบุคคลในประวัติศาสตร์ หรือตัวเซเทอร์กับพรายนิมฟ์ เทพมารส์กับเทพีวีนัส หรือมาร์ก แอนโทนีกับคลีโอพัตรา ร่วมกันแสดงท่าร่วมเพศต่างๆ เช่น ท่านอนตะแคง, ท่าสุนัข, ท่ามิชชันนารี ฯลฯ และมีร้อยกรอง "โซเน็ตตี ลุสโซริโอซี" (Sonetti Lussuriosi) ประกอบเนื้อหาตามภาพด้วย
Sonetti lussuriosi Aretino Book
ถึงแม้ว่า อี โมดี ฉบับที่ 2 จะถูกสันตะปาปาสั่งเผาทำลายทั้งหมดอีกครั้ง แต่สำเนาหนังสือฉบับที่ 2 บางส่วนก็ยังหลงเหลือจนถึงปัจจุบัน รวมถึงชิ้นส่วนสำเนาฉบับที่ 1 ด้วย ในขณะที่ "พิเอโทร อเรทิโน" และ "มาร์คันโทนิโอ ไรมอนดี" ทั้ง 2 คน ก็ได้หนีออกจากกรุงโรมเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกตัดสินโทษจากศาสนจักร
โดยหนีไปยังเวนิส ซึ่งที่นั่นเปิดกว้างเรื่องเพศมากกว่า ดังนั้นจึงถือว่าพวกเขาคือ "ผู้เผยแพร่สื่อลามก" (Pornographer) ในยุคแรกๆของประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้
ขอบคุณภาพสวยๆต่างๆจาก : google, wikipedia