ไม่เผ็ด-ไม่หวาน สัญญาณจากลูกค้าที่ทำพ่อค้าแม่ค้าใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทุกที
พ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งและ ร้านน้ำจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ในแต่ละวันคุณต้องเจอลูกค้าที่หลากหลาย เพราะการนิยามคำว่าไม่เผ็ดไม่หวานมันเกิดการตีความจากประสบการณ์ ไม่มีหลักสากลใด ซึ่งอาจจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าทำของได้ไม่ตรงปกตามที่ลูกค้าต้องการ
ลูกค้าบางคนสั่งไม่เผ็ดก็คือไม่เอาพริกเลย สั่งไม่หวานคือไม่ใส่น้ำตาลหรือสารให้ความหวานใด ๆ เลย ซึ่งนี่คือนิยามที่ถูกต้องและตรงตัว แต่มันไม่ใช่จะได้แบบนี้ทุกครั้ง
เพราะบางคนสั่งไม่เผ็ด หมายถึงเผ็ดน้อย ไม่หวานหมายถึงหวานน้อย มันมีแบบนี้จริง ๆ คุณขา มันก็เลยทำให้พ่อค้าแม่ค้าสับสนได้ ในขณะที่ลูกค้าที่เค้าชอบแบบไม่เผ็ดไม่หวานจริง ๆ (ไม่ใส่พริกไม่ใส่น้ำตาลเลย) เค้าลำบาก 5555
ลูกค้าบางคนสั่งเผ็ดน้อย คือใส่พริกนิดเดียว หวานน้อย คือใส่น้ำตาลนิดเดียว ซึ่งมันก็มันตรงตัวแหละ แต่อีนิดเดียวนี่มันเท่าไหร่กันล่ะ เผ็ดน้อยที่แม่ค้าทำ อาจจะเผ็ดมากสำหรับลูกค้าที่สั่งเผ็ดน้อยก็ได้ งงมั้ยคะ 55555 อาจจะดูเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ถ้าเจอบ่อยก็ไม่เล็กนะคะ
แอดเจอกับตัวอยู่บ่อยๆ เวลาสั่งกาแฟในแอฟสั่งอาหาร ระบุว่าไม่หวาน คนขายยังโทรมาถามเลยว่า “ไม่หวานนี่คือไม่ใส่น้ำตาลเลยเหรอครับ ” เราก็บอกว่าใช่ค่ะ บางร้านถ้าเดินไปสั่งเองบอกว่าเอาไม่หวานเลย ไม่ใส่น้ำตาล คนขายยังถามว่าใส่ไซรัปมั้ย ก็มีเหมือนกัน ซึ่งเราก็เข้าใจได้ว่าเป็นการถามเพื่อความแน่ใจค่ะ เพราะเค้าอาจจะเจอลูกค้าหลายแบบ
จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่ความผิดใครหรอกค่ะ แต่เพราะเราอาจจะสั่งกันไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่แรกแล้ว อย่างที่บอกว่านิยามคำว่าไม่เผ็ดไม่หวาน มันเพี้ยนไป ก็เลยทำให้สับสนได้ทั้งสองฝั่ง พ่อค้าแม่ค้าบางคนจำลูกค้าตัวเองได้ รู้ว่าทานรสไหนก็สามารถทำให้ตรงตามที่สั่งได้ แต่บางคนไม่รู้ก็ต้องระบุชัด ๆ ไปเลยค่ะ
เช่น ไม่เผ็ดคือไม่ใส่พริกเลย ไม่หวานคือไม่ใส่สารให้ความหวานใด ๆ เลย, เผ็ดน้อยพริก 2 เม็ด หรือถ้าเป็นพริกบ่นก็ 1 ช้อนชา, เผ็ดปกติอิงตามรสมือแม่ค้าได้เลยจ้า, เผ็ดมากใส่พริกเพิ่มกี่เม็ด กี่ช้อนก็ระบุไป, หวานน้อยใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา นมข้ม 1 ช้อนชา, หวานปกติอิงตามรสมือแม่ค้าได้เลย, หวานมากเพิ่มนมข้น เพิ่มน้ำตาลมาอีกอย่างละกี่ช้อนก็ว่ากันไป อะไรแบบนี้ค่ะ ก็จะเคลียร์กับตัวคนขายด้วย ส่วนตัวเราก็ได้ทานรสตามที่อยากทานด้วย