'คลื่นทะเลดูด' อันตรายที่เราเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดได้
เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อน คนทั่วไปเลยนิยมเที่ยวตามแหล่งน้ำกันมาก ทั้งน้ำตก ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ ตามเกาะและหาดทรายริมทะเล และด้วยความนิยมนี้เอง ในแต่ละปีเราจะได้ยินข่าว 'การจมน้ำเสียชีวิต' เป็นจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งปกติแล้วเราสามารถเรียนรู้และฝึกฝนเพื่อเอาตัวรอดได้
และหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตจากการจมน้ำ
ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ และถือว่าอันตรายมากหากเราเป็นผู้ประสบเหตุแต่ไม่มีความรู้มาก่อน
ก็คือการเผชิญหน้ากับ 'คลื่นทะเลดูด หรือ RIP Current' ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับชายฝั่งทะเล
คลื่นทะเลดูดมักจะเกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งที่มีสิ่งกีดขวาง
อย่างโขดหินหรือสันทราย ที่จะทำให้น้ำที่จะไหลกลับทะเล
มีความเร็วเพิ่มขึ้น และหากเราบังเอิญไปอยู่ในแนวที่น้ำกำลังจะไหลกลับทะเล
(ที่มีความเร็วมากกว่าปกติ) เราก็จะถูกคลื่นดูดให้ลอยห่างออกจากชายฝั่งอย่างรวดเร็ว
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จากคลื่นทะเลดูด คือคนที่พยายามว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นมาตรงๆ
แต่เพราะกระแสน้ำนั้นมีความเร็วมาก ส่วนใหญ่คนจะสู้แรงคลื่นนี้ไม่ไหว
และจะจมน้ำเสียชีวิตไปในที่สุด (ที่เป็นข่าวบ่อยๆคือบริเวณหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง)
เราจำเป็นต้องฝึกสังเกตุการเกิดคลื่นดูด เพื่อจะได้จำแนกได้หากเกิดขึ้นในบริเวณที่เราเล่นน้ำ ให้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ชายฝั่งก่อนว่าบริเวณที่เรากำลังจะเล่นปลอดภัยพอหรือไม่ หรือหากเราเกิดตกอยู่ในรัศมีของคลื่นดูดแล้ว และกำลังถูกคลื่นดูดให้ไหลลงทะเล
สำคัญที่สุดคือการ 'ตั้งสติ' และปล่อยให้ตัวเอง 'ลอยตามน้ำไปก่อน'
อย่าใช้กำลังพยายามว่ายทวนน้ำ เพราะอาจหมดแรงก่อนได้ จากนั้นคือการพยายามสังเกตหาแนวคลื่นปกติ(ตัดกับแนวคลื่นดูด) และว่ายน้ำออกไปหาแนวคลื่นปกติในแนวว่ายขนานกับชายฝั่งหรือชายหาด จนหลุดออกจากแรงดูด แล้วค่อยๆว่ายกลับเข้าฝั่งปกติ
สามารถดูวิดีโอที่สอนรายละเอียดได้ตามลิงก์ด้านล่างนะครับ
รู้ไว้ เตรียมตัวไว้ จะได้ปลอดภัยหากเจอเหตุการณ์จริงครับ
https://www.youtube.com/watch?v=WWwVbMKXeUU
https://www.youtube.com/watch?v=w8eIcPDlHJY