"Mata Hari" นางระบำ, นางบำเรอ, และเป็นสายลับสองหน้า
เธอคือนักเต้นระบำสุดเซ็กซี่อันโด่งดังในตำนานคนหนึ่ง นามของเธอคือ "มาตา ฮารี" (Mata Hari) และยังเป็นฉายาที่มอบให้กับบรรดาสายลับหญิงที่ใช้เสน่ห์เป็นอาวุธ ในการล้วงข้อมูลความลับจากเหยื่อเพศชาย ที่มักหลงใหลในเรือนร่างของเธอจนยากที่จะปฎิเสธ แต่จริงๆแล้วเธอนั้นอาจเป็นเพียงแค่เหยื่อของระบบ ในสายทางการทหาร ที่ตัวเธอเองต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดให้ได้
ประวัติของเธอ
เธอเป็นชาวฮอลันดา เธอเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2419 เลวาร์เดิน, เนเธอร์แลนด์ สัญชาติดัตซ์ เธอเกิดในครอบครัวช่างทำหมวกที่มีอันจะกิน บ้านอยู่ใกล้กับชายแดนเยอรมนี ชื่อเดิมของเธอคือ "มากาเรธา เกียร์ทรูดา เซลล์" (Magaretha Geetruida Zelle)
โดยพ่อแม่เลิกกันหลังจากพ่อของเธอล้มละลายจากการเล่นหุ้นน้ำมัน จากนั้นแม่ก็มาเสียชีวิตตั้งแต่เธอมีอายุแค่ 14 ปี การขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็กจึงทำให้เธอต้องรับผิดชอบตัวเองหลายอย่างเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
ชีวิตสมรส
พออายุได้ 18 ปี เธอได้เจอประกาศหาคู่ในหนังสือพิมพ์ของนายทหารแก่คนหนึ่ง ที่ประจำการอยู่ในชวาซึ่งอายุก็พอจะเป็นพ่อเธอได้เลยทีเดียว เธอลองสมัครไปดูเล่นๆ แต่ปรากฎว่านายทหารแก่กลับเอาจริง เธอจึงได้แต่งงานกับเขาคือ "รูดอล์ฟ แมคเลาด์" (Rudolph MacLeod)
เป็นนายทหารแห่งกองทัพอาณานิคมดัตซ์เชื่อสายสก๊อต ซึ่งมีอายุ 39 ปีแล้ว ชีวิตคู่ก็ดูราบรื่นดีทำให้เธอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทั้งคู่ก็เดินทางไปใช้ชีวิตร่วมกันที่ชวา ซึ่งเป็นอาณานิคมของฮอลันดาในสมัยนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438)
เธอมีลูก 2 คน คือ "นอร์แมน-จอห์น แมคเลาด์" (Norman John MacLeod) (ลูกชาย) และ "ลูอีซ เจน แมคเลาด์" (Jeanne Louise (Non.) (ลูกสาว) และที่ชวานี่เองที่ทำให้เธอได้ฝึกฝนการเต้นระบำแบบพื้นเมืองชวา จึงกลายเป็นความสามารถของเธอในภายหลัง
Margaretha_and_Rudolph MacLeod
ร่วมกันวางแผนกรรโชกทรัพย์
ทั้งคู่คบหากันก็มีการกล่าวหาว่าเธอและสามี ได้ร่วมกันกรรโชกทรัพย์หนุ่มๆหลายรายที่ถูกเธอยั่วตัณหา โดยที่สามีแกล้งเข้ามาในขณะที่เห็นเธอทำการเล่นชู้โดยบังเอิญ แต่จริงๆเป็นการเตี๊ยมกันไว้ เพื่อจะได้กรรโชกขู่เอาเงินจากชายที่มาเล่นชู้กับเธอนั่นเอง
โดนสามีทุบตีกับติดโรค
ชีวิตสมรสเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ว่ากันว่า..ตัวเธอเองก็มักชอบโปรยเสน่ห์ให้กับหนุ่มๆทั้งเศรษฐีพื้นเมือง หรือแม้แต่ทหารที่ถูกส่งมาประจำการ ส่วนสามีก็ใช่ย่อยก็ตอบโต้เธอด้วยการไปมั่วกับหญิงอื่นเช่นกัน และก็ยังใช้กำลังทุบตีเธอ และเคยคิดจะฆ่าเธอด้วยมีดหั่นขนมปัง
แต่เธอเอาชีวิตรอดมาได้เลยวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือได้ทัน ไม่พอเธอยังติดเชื้อซิฟิลิสจากสามีอีก และนี่คือสาเหตุที่เธอเคยบอกว่า..
"จริงๆแล้วเธอไม่ได้ชอบการร่วมเพศ"
ลูกชายเสียชีวิต, การแยกกันอยู่
ลูกชายคนโตและลูกสาวของเธอเริ่มป่วยหนัก บ้างก็ว่าน่าจะมาจากการป่วยด้วยเชื้อซิฟิลิสที่ติดจากพ่อและแม่ หรือบ้างก็ว่าเกิดจากฝีมือพี่เลี้ยงวางยาลูกเธอ จึงทำให้ลูกชายเธอเสียชีวิต แต่ลูกสาวรอดตายมาได้แบบหวุดหวิด ทั้งคู่เดินทางกลับมายังฮอลันดาในปี ค.ศ. 1902 (พ.ศ. 2445) และตัดสินใจแยกกันอยู่ เธอได้สิทธิในการเลี้ยงดูลูกสาว
Rudolph MacLeod and Norman John
Rudolph MacLeod and Jeanne Louise (Non)
หนีไปปารีสเป็นนักเต้นระบำ
หลังจากหย่าร้างก็ไม่รู้จะประกอบอาชีพอะไร เธอจึงเดินทางไปกรุงปารีสตามลำพังในปี ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448) ที่ปารีสเธอสร้างชื่อเสียงด้วยการเป็น "นักเต้นระบำแบบตะวันตก" ใส่ชุดประดับด้วยอัญมณีแพรวพราวทั่วตัว
ในวงการใช้ชื่อว่า "คุณหญิงแมคเลาด์" (Lady Macleod) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "มาตา ฮารี" (Mata Hari) เป็นภาษามาเลย์ที่หมายถึง "แสงสว่างของดวงอาทิตย์" พอในปี ค.ศ. 1906 (พ.ศ. 2449) เธอก็หย่าขาดกับสามีอย่างเป็นทางการ
เป็นนักเต้นที่โดดเด่น
เธอโดดเด่นจากท่วงท่ายั่วยวน และพร้อมที่จะโชว์เนื้อหนังร่างกายอันเปลือยเปล่าได้อย่างมั่นใจ และเธอก็อ้างว่าเป็นนักเต้นระบำในวิหารฮินดู ต้องเต้นเปลือยต่อหน้ารูปปั้นพระศิวะตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี ซึ่งหน้าตาของเธอก็คล้ายคลึงกับชาวตะวันออก จึงทำทุกคนพากันหลงเชื่อเธอ ซึ่งจริงๆเธอเริ่มต้นระบำก็ตอนอายุจะย่างเข้าวัยเลขสามแล้วด้วยซ้ำไป
หันมาเป็นนางบำเรอ
แต่ยุคทองของเธอก็อยู่ไม่กี่ปี เพราะรูปร่างที่เริ่มจะมีไขมันสะสมตามวัย เธอจึงหันมาเอาดีเป็นนางบำเรอให้กับชนชั้นสูง ทั้งนักการเมือง ทั้งนายทหารในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึง "จูลส์ คัมบง" (Jules Cambon) นักการทูตระดับสูงของฝรั่งเศส และมกุฎราชกุมารวิลเฮล์มแห่งปรัสเซีย
ถูกทางการสงสัย
เพราะการที่เธอไปคลุกคลีอยู่กับชนชั้นสูง ที่มีอำนาจทางการเมืองและทางทหารหลายประเทศ และเดินทางเข้าๆออกๆหลายประเทศ ก็เลยทำให้เธอเป็นที่ต้องสงสัยว่า....เธอมีเบื้องหลังอะไรหรือไม่ ? ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มขึ้นเธออยู่ในเยอรมนี แต่พอเดินทางไปฝรั่งเศส (ชาติศัตรู) ทางเยอรมนีก็ยึดทรัพย์สินของเธอจนหมด
ถูกจ้างให้เป็นสายลับจากเยอรมนี
พอเธอเดินทางกลับไปฮอลันดา ฝ่ายข่าวกรองของเยอรมนีก็ได้เข้าหาเธอและขอให้เธอเดินทางไปฝรั่งเศสในฐานะสายลับกับค่าจ้าง 5 หมื่นฟรังซ์ เธอจึงรับปากเพื่อที่จะได้ชดเชยกับทรัพย์สินที่เคยถูกพวกเยอรมนียึดไป แต่ในใจเธอไม่ได้อยากช่วยเหลือพวกเยอรมนีแต่อย่างใด
ถูกจ้างให้เป็นสายลับจากฝรั่งเศส
ตอนอยู่ปารีสเธอก็ตกหลุมรักกับ "วาคิม มาสลอฟ" (Vakim Maslov) นักบินรัสเซียที่ประจำการในกองทัพฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาคนรักเธอก็ได้รับบาดเจ็บจาการรบจนสูญเสียดวงตาไป 1 ข้างจากการโดนแก๊สพิษจากฝั่งเยอรมนี เธอต้องการไปเยี่ยมคนรักที่รักษาตัวอยู่
ฝ่ายข่าวกรองฝรั่งเศสก็ยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นสายลับ เพื่อล้วงความลับจากเยอรมนี เพื่อจะได้แลกกับการได้พบคนรัก เพราะเนื่องจากเธอสามารถเข้าถึงตัวผู้นำระดับสูงของเยอรมนีได้ รวมถึงองค์มกุฎราชกุมาร จึงเสนอค่าตอบแทนอีกต่างหาก 1 ล้านฟรังซ์ เธอจึงยอมรับตกลง
ได้ข้อมูลเท็จ
ช่วงเธอไปปฎิบัติหน้าที่ก็ถูกทางอังกฤษกักตัวและถูกสอบสวนอยู่นานก่อนจะถูกปล่อยตัว พอช่วงปลายปี ค.ศ. 1916 (พ.ศ. 2459) เธอเดินทางไปสเปนเพื่อจะไปล้วงความลับจาก "อาโนลด์ เคลเลอ" (Arnold Kalle) ทูตทหารเยอรมันในกรุงมาดริดของกรุงเบอร์ลิน
และขอให้ช่วยจัดการให้เธอได้พบกับมกุฎราชกุมารแห่งรัสเซียที่เธอเคยมีสัมพันธ์ด้วย แต่ทูตทหารเยอรมนีรู้ทันเธอจึงบอกข้อมูลที่ล้าสมัยและข้อมูลเท็จให้เธอไป ส่วนเธอก็เล่าเรื่องทางฝั่งฝรั่งเศสที่ไร้สาระไม่มีราคาอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน
ถูกจับกุมและโทษประหารชีวิต
ไม่นานทูตทหารเยอรมนีรายนี้ก็ส่งข้อความลับจาก "H21" ว่าสายลับลักษณะตรงกับ "มาตา ฮารี" ส่งกลับไปยังเบอร์ลิน ราวกับว่าจะเล่นงานเธอกลับในการให้ข้อมูลขยะกับเขาเพื่อเป็นการเอาคืนเธอ เมื่อเธอมาถึงกรุงปารีสก็ไม่สามารถติดต่อผู้ดูแลของเธอได้ เธอถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสข้อหา "จารกรรม" ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 (พ.ศ. 2460)
และถูกพิจารณาคดีเป็นการลับ ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้เธอมีความผิดต้องโทษประหารชีวิต ซึ่งว่ากันว่า..เธออาจจะเป็นเพียงแพะรับบาปของรัฐบาลฝรั่งเศส โดนกล่าวหาเธอว่าเธอขายความลับของทางฝรั่งเศสให้เยอรมนีส่งผลทำให้ทางฝรั่งเศสเสียท่า
ในวาระสุดท้าย..เธอเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความตายอย่างกล้าหาญ เธอบอกให้เพชฌฆาตไม่ต้องปิดตาเธอขณะที่ลั่นไก เธอจึงจบชีวิตลงในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1917 (พ.ศ.2460) เธอจึงกลายเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณภาพต่างๆจาก : google, wikipedia