รีวิว อัพกูจอง Men of Plastic หนังตลกร้ายตีแผ่วงการนักเลงความงามเกาหลี นำโดยดอน ลี (มาดงซอก)
ดอน ลี หรือ มาดงซอก เจ้าของผลงาน THE ROUNDUP หนังทำเงินเกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรื่องเดียวจากเกาหลีในปีนี้ที่เขาทั้งเขียนบทเองและรับบทนำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีผลงานเป็นดาราเกาหลีคนเดียวที่โกอินเตอร์รับบทฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวลโดยเป็นหนึ่งในสมาชิกอีเทอร์นอล คู่กับ แองเจลิน่า โจลี่ ก่อนหน้านี้อีกทีหลายคนเริ่มรู้จักเขาในฐานะ สามีผู้น่ารักใน ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง เทรนทูปูซาน
ล่าสุด ปลายปี 2022 เขากลับมามีผลงานอีกครั้งในฐานะนักแสดงนำเรื่อง อัพกูจอง Men of Plastic หนังตลก ดราม่า ความยาว 1 ชั่วโมง 52 นาที ทำเงินไปแล้วจากเกาหลี 4.5 ล้าน เข้าฉายในประเทศไทยตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2565 ได้ฉายยาวข้ามปีมาจนถึงต้นปี 2566 โดยลงโปรแกรมพร้อมกับหนังเกาหลีสุดฮิตอีกเรื่อง CHRISMAS CAROL จากซุปเปอร์สตาร์เช่นเดียวกัน คือ จินยอง GOT7
เรื่องนี้ดอนลี แสดงเป็นคนธรรมดา เป็นนักเลงประจำย่านที่ไต่เต้าด้วยการจับแพะชนแกะหากำไรจากส่วนต่างในการติดต่อประสานงานผู้คนต่างๆ ไม่ได้เป็นฮีโร่ ไม่มีฉากแอ็คชั่น แม้ว่าจะมีต่อยตีก็เหมือนเป็นคนธรรมดาไม่มีโหดเวอร์เกินเบอร์แบบเรื่องอื่นๆ วันหนึ่งหลังจากที่เขาจับหมอศัลยกรรมคนเก่งผู้ถูกยึดใบอนุญาตไว้เป็นพวกได้(นำแสดงโดยคยองโฮ) เขาก็วางแผนเปิดกิจการสถาบันความงามอย่างใหญ่โต ท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่ซื่อ ดอนลีและหมอต้องฝ่าฟันเสือสิงห์ทางธุรกิจทั้งผิดและถูกกฎหมายมากมาย เรื่องราวสมจริงชวนติดตามไปตั้งแต่ต้นจนจบ มีเหตุการณ์คับขันพลิกไปพลิกมาตลอดเรื่อง ฝ่ายคนดูก็เลือกได้ว่าจะเชียร์ใครและอินกับใคร เรื่องนี้เราจะไม่ขอสปอยล์จุดสำคัญนะครับ
แม้ว่าหนังจะขึ้นป้ายออกตัวชัดเจนว่าชื่อบุคคลหรือเหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นการแต่งขึ้นมาโดยไม่มีมูลความจริงใดๆ แต่ดูแล้วกลับรู้สึกได้รับข้อมูลที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือมากมายในวงการนักเลงความงามว่า เขาหากินกันอย่างไร หักหลังกันอย่างไร ทุกอย่างดูเป็นเหตุเป็นผลมีที่มาที่ไปมีแรงบันดาลใจแรงผลักดันของทุกตัวละครได้ดีมาก คะแนนเฉลี่ยจากเรื่องนี้ใน IMDb ได้อยู่ 7.8 คนโพสท์ให้ 8 ไปเลยครับ
หนังน่าจะสนุกกับคนที่ชอบหนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมทางธุรกิจ ชอบเรื่องความสวยความงาม ชอบแรงบันดาลใจจากการได้เห็นคนสู้ชีวิต แต่ก็น่าจะมีกลุ่มคนที่ดูเรื่องนี้แล้วไม่ชอบได้ โดยเฉพาะคนที่หวังหนังแอ็คชั่นจากดอนลี หรือหวังจะให้เป็นหนังตลกฮากลิ้ง แต่ที่จริงเป็นเพียงหนังตลกร้ายเรื่องหนึ่งเท่านั้น ดนตรีประกอบก็ชวนอึดอัดไม่เร้าใจ บางฉากไม่มีดนตรีหรือเสียงประกอบเลยด้วยซ้ำ
อ้างอิงจาก: IMDb