ประเทศที่มี ทหารยศ นายพล เยอะที่สุดในโลก[Exclusive Content]
สื่อดังญี่ปุ่นอย่าง asia.nikkei.com โดยจั่วหัวว่า เมื่องไทย : ดินแดนแห่งนายพลนับพัน Thailand: Land of a thousand generals
ภายในเดือนกันยายนของทุกปี นายพล จอมพลอากาศ และนายพลเรืออากาศที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเกือบทั้งหมดของไทยได้รับการยืนยันในตำแหน่งใหม่
โดยอ้างว่าในปี 2562 ค่อนข้างเงียบด้วยการแต่งตั้งเพียง 789 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 980 ตำแหน่งในปี 2557 และ 944 ในปี 2560 ตามรายงานของราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานอย่างเป็นทางการ
และอ้างถึงงานวิจัยพบว่า ไทยมีนายพล 1 นาย ต่อทหารยศที่ต่ำลงมาทุก ๆ 600 นาย ถือเป็นสัดส่วนสูงกว่าประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีนายพล 1 นาย ต่อทหาร 1,600 นายฃ
asia.nikkei.com เผยอีกวาา มีนักวิเคราะห์ต่างชาติคนหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไทยมีทหารยศ 'พลเอก' เพียง 150-200 นาย ที่มีตำแหน่งบังคับบัญชาจริง ๆ และสำหรับประเทศอื่น ๆ ทหารระดับ 'นายพัน' จะทำหน้าที่หลายอย่างที่นายพลทหารไทยเป็นผู้รับผิดชอบ เลยทำให้หน้าที่ที่ไม่สอดคล้องกับตำแหน่ง
เงินเดือนของทหารไทยอยู่ที่ราว 6 หมื่นบาทต่อเดือน สำหรับทหารยศ 'พลตรี' แต่ทหารอาวุโสที่มีตำแหน่งบังคับบัญชาจะได้เงินมากกว่านี้ เพราะมีเงินตำแหน่งด้วย
อีกทั้งทหารไทยจะมีการเกษียณอายุตอน 60 ปี เช่นเดียวกับข้าราชการประเภทอื่น ๆ แต่พวกเขาสามารถมีงานที่ทำได้อีกหลังจากนี้ เช่น ตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจที่ทำเงินมหาศาลกว่า 50 แห่ง เช่น การบินไทย
กองทัพไทยมีอำนาจจัดการที่ดินมากกว่าหน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ ยังเป็นเจ้าของธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างโจ่งแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์หรือสถานีวิทยุ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ
ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 52 ระบุให้ใช้กำลังทหารเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากองทัพเข้าไปมีบทบาทในงานส่วนของข้าราชการฝ่ายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรม ป่าไม้ การสร้างอาคารสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล
พิธีสวนสนามวันกองทัพไทยปี 2557
asia.nikkei.com ตั้งคำถามว่ากองทัพไทยพร้อมสำหรับหน้าที่หลักคือการปกป้องประเทศหรือไม่ ยังเป็นที่สงสัย เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้มีความเสี่ยงต้องรับมือกับประเทศศัตรูแต่อย่างใด
ฝ่ายการเมืองเคยสนอให้ปฏิรูปโครงสร้างกองทัพให้เป็น หนึ่งในแนวทางนั้นคือการปรับลดกำลังพลลง 40% หรือจาก 330,000 นาย เหลือ 170,000 นาย และลดนายพลลง 4 เท่าตัว จาก 1,600 นาย เหลือ 400 นาย ทั้งนี้ อนค. อ้างว่าหากมีการลดขนาดกองทัพจะทำให้มีงบประมาณ 50,000 ล้านบาท ไปสร้างรัฐสวัสดิการเพื่อประชาชน
จากข้อมูลของคุณกานดา นาคน้อย กานดา นาคน้อย เป็นรองศาสตราจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยคอนเน็ตทิคัต และนักวิจัยศูนย์วิจัยราคาสินค้านานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แสดงให้เห็นจำนวนของนายพลในกองทัพไทยมีสูงถึง 1,400 นาย ส่วนนายพลในกองทัพอเมริกันมีเพียง 1,000 นายทั้งที่ขนาดประเทศ จำนวนประชากร งบประมาณและกำลังพล รวมไปถึงมวลผลิตภัณฑ์รวมของทั้ง 2 ประเทศห่างกันอะไนปานนี้
โดยที่สหรัฐอเมริกามีการปกครองแบบประชาธิปไตยเช่นเดียวกับไทย แต่กองทัพอยู่ใต้อำนาจของพลเรือน ประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการสูงสุดที่มีอำนาจจริงๆ สามารถปลดนายทหารระดับสูงได้โดยไม่มีแรงต้านหรือการคัดค้านนัก เพราะกองทัพและนายทหารยึดถือนโยบายมืออาชีพ โดยเคร่งครัด
ไม่ยอมเอาเรื่องการเมืองเข้ามาวุ่นวายในกองทัพ นอกจากนี้การปกครองของสหรัฐฯ ที่เป็นสหพันธรัฐได้ทำให้แต่ละมลรัฐมีกองทัพเป็นของตัวเองมีอำนาจขึ้นตรงกับผู้ว่าการรัฐ อันเป็นการกระจายอำนาจทางการทหาร ไม่ใช่มากระจุกตัวอยู่ภายใต้คำสั่งของคนหรือกลุ่มๆ เดียวเหมือนกองทัพไทยที่รวมศูนย์อำนาจแบบของรัฐเดี่ยว
อีกทั้ง แหล่งข่าวในกองทัพระบุไว้น่าสนใจว่า ....
"ทำไมประเทศอื่นถึงมีนายพลไม่เยอะเหมือนไทย คำตอบง่ายๆ ก็คือในการเลื่อนขั้นหรือตำแหน่ง เขามีระบบการประเมินทั้งเรื่องงานและสมรรถภาพร่างกาย มีคณะกรรมการคัดกรองพิจารณาอย่างเป็นหลักเป็นฐาน สมมติจบจากโรงเรียนนายร้อยมา พอยศถึงร้อยเอก จะขึ้นเป็นพันตรี ก็ต้องผ่านระบบการประเมินที่เข้มข้น ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งถูกคัดออก เช่นเดียวกัน พอพันโทจะเลื่อนเป็นพันเอก ก็จะมีระบบการประเมินอีก และจะมีกำลังพลส่วนหนึ่งต้องออกไป แต่บ้านเราไม่มี"
"หากมองภาพโครงสร้างกองทัพของประเทศอื่น จะเป็นเหมือนปิระมิด ส่วนยอด หรือ นายพล จะมีอยู่น้อยที่สุด แต่ประเทศไทยไม่เป็นอย่างนั้น อีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาไม่แพ้กันก็คือ กองทัพแทบไม่มีระบบจ้างงานจากหน่วยงานภาคนอก หรือ Outsourcing เลย ทั้งๆ ที่ภารกิจบางอย่างที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง กองทัพประเทศอื่นเขาผ่องถ่ายไปให้เอกชนทำ หรือจ้างพลเรือนเข้ามาทำงานแทนหมดแล้ว"
[Exclusive Content] Exclusive Content