เหตุการณ์เขื่อนแตกครั้งร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศลาว
เหตุเขื่อนแตกที่ลาว พ.ศ. 2561
(Laos dam collapse 2018)
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 เมื่อเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย
ซึ่งตั้งอยู่ที่แขวงอัตตะปือ ประเทศลาว ประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรง
เขื่อนอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่า
จะกลายเป็นหนึ่งในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในลาว
การพังทลายทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านหลายแห่งที่อยู่ท้ายน้ำ
และสร้างความเสียหายและสูญเสียชีวิตจำนวนมาก จำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอนยังไม่ชัดเจน
เนื่องจากสถานที่ห่างไกลและความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 71 คน
และอีกหลายพันคนต้องพลัดถิ่นจากที่อยู่อาศัย
ความล้มเหลวของเขื่อนนำไปสู่การปล่อยน้ำปริมาณมหาศาลอย่างกะทันหัน
ซึ่งไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านใกล้เคียงและพื้นที่เกษตรกรรม น้ำท่วมทำให้บ้านเรือน
โครงสร้างพื้นฐาน และการดำรงชีวิตเสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความกังวล
เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น
จากการปล่อยน้ำที่มีวัสดุก่อสร้างและตะกอนออกจากเขื่อน
โครงการเขื่อนเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทจากลาว ไทย และเกาหลีใต้
การสืบสวนในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความล้มเหลว
รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการก่อสร้างที่ไม่ดี มาตรการด้านความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ
และปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักซึ่งเกินความสามารถในการออกแบบของเขื่อน
การพังทลายของเขื่อนในลาวดึงความสนใจไปที่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด
การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย และการมีส่วนร่วมของชุมชน
ในกระบวนการตัดสินใจสำหรับโครงการดังกล่าว
มีความพยายามในการบรรเทาเหตุฉุกเฉินและสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
รวมถึงการจัดหาที่พัก อาหาร และความช่วยเหลือทางการแพทย์
รัฐบาลลาวพร้อมกับองค์กรระหว่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน
ได้มีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์และริเริ่มมาตรการ
เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต