รถจอดติดไฟแดงต้องใส่เกียร์นี้ ประหยัดน้ำมันแน่นอน
ผ้ใช้รถใช้ถนนทุกคนคงทราบกันดีว่าการที่ต้องพบเจอกับไฟจราจรเขียวแดงทุกวันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อเราพบเจอกับมันจนเกิดเป็นความเคยชินก็อาจทำให้เรามองข้ามที่จะสังเกตบางสิ่งไป
เคยสังเกตกันไหมว่า ในขณะที่เราจอดรถติดไฟแดง เราเลือกที่จะใส่เกียร์เดินหน้า หรือเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกเพื่อช่วยให้รถหยุด หรือเลือกที่จะใส่เกียร์ว่าง(N)ลงไปเลย แล้วดึงเบรกมือหรือเหยียบเบรกค้าง ในรถบางรุ่นอัตตราสิ้นเปลืองที่ได้จากการใช้ในวิธีการทั้งสองวิธีนี้ ก็จะมีการผลาญน้ำมันที่ต่างกันนะคะ
สำหรับเกียร์ออโต้ทั่วไปก็จะมีตำแหน่งดังนี้
P ใช้จอดรถแบบปกติ เมื่อจอดแล้วเราก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
R ใช้ในการถอยหลัง
N คือตำแหน่งเกียร์ว่าง
D ใช้ในเวลาขับรถเดินหน้าปกติ
L ใช้ในช่วงที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ สำหรับใช้ในการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก
แล้วแบบไหนละที่ประหยัดน้ำมันมากกว่า
เทคนิคนี้เหมาะกับสภาพจราจรที่มีความแอดอัดสูง รถติด เหมาะมากสำหรับคนที่ทำงานอยู่กรุงเทพมหานครเมืองแห่งการจราจรติดขัด
ได้มีการทดสอบในรถ BMW 325ci โมเดล E93 รุ่นปี 2009 เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ซึ่งเคลมอัตราสิ้นเปลืองที่ 13.33 กม./ลิตร และ 9.8 กม./ลิตร
จากการทดสอบพบว่า การใส่เกียร์ N ประหยัดน้ำมันกว่าการใส่เกียร์ D อยู่ 0.8 ลิตร/ชั่วโมง เนื่องจากเมื่อใส่เกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 2.8 ลิตร/ชั่วโมง
ขณะที่เราใส่เกียร์ว่างหรือเกียร์ N อัตราสิ้นเปลืองลดลงเหลือ 2 ลิตร/ชั่วโมง
แม้ว่าตัวเลขแค่ 0.8 ลิตร จะดูน้อยนิด แต่ถ้าเราดูจากราคาของน้ำมันในปัจจุบัน และในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ จะพบว่าเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ทำการทดสอบได้บอกว่า เป็นเพียงการทดสอบกับรถแค่ในบางรุ่น และขึ้นอยู่กับความมั่นใจในการขับขี่ของผู้ขับ เพราะถ้าหากจอดรถติดไฟแดงในเวลาที่ไม่นานมาก ก็ควรเหยียบเบรกค้างไว้ เพื่อความสะดวก หากรถคันหน้าเริ่มขยับเราก็จะได้เริ่มขยับได้ง่าย
แต่ถ้าหากเหลือเวลานานพอสมควรเราเองผู้ขับขี่ก็ต้องมีความมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเกียร์ และเคลื่อนที่ไปได้ตามปกติ
ซึ่งวิธีการที่กล่าวมานี้ก็สามารถนำไปปรับใช้เมื่อต้องขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดอย่างยาวนาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้สบายกระเป๋ามากขึ้น