อยู่เฉยๆที่บ้านใช่จะรอด
อยู่เฉยๆที่บ้านใช่จะรอด
คุณป้าวัย 62 ปี มาหาด้วยอาการ ไข้ เจ็บคอ มีเสมหะ แต่ไม่ได้ไอนะ ไม่มีน้ำมูก วันนี้มาหาหมอนี่ยังไม่ได้ตรวจโควิด และก็บอกหมออย่างภูมิใจว่า เพิ่งหายโควิดมาสองอาทิตย์
ถามหมอว่า "ป่วยรอบนี้ ไม่น่าเป็นโควิดใช่ไหมคะ"
เป็นความเข้่าใจที่หลายคนยังเข้าใจผิด เพราะถึงจะป่วยโควิดมาแล้ว ก็ป่วยอีกได้่ เนื่องจากเชื้อมันกลายพันธุ์ตลอด จึงมีสายพันธุ์ใหม่ๆมาให้ติดอยู่เสมอ ดังนั้น ถึงแม้ว่าหายป่วยแล้ว แต่ถ้ายังประมาท ไม่สวมแมสก์ ไปรับเชื้อที่มองไม่เห็นในอากาศอีก ก็ติดอีกได้ ถ้าโชคดีก็หายป่วย โชคร้าย ไม่มีภูมิ หรือร่างกายอ่อนแอมากๆ ก็ปอดอักเสบ เสียชีวิตไป
คุณป้าคนข้างๆ ก็พูดมาว่า "นี่ขนาดอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ก็ยังติดเลย"
ใช่สิครับ เพราะเชื่อมันเล็กมาก สามารถไปได้ทุกที่ แค่เปิดประตู ลมพัด ก็เข้าบ้านเราได้แล้ว ไม่ต้องรอให้เชิญมันก็เข้าไป ขนาดฝุ่นที่โมเลกุลใหญ่กว่าที่เรามองเห็นได้ มันยังมีมาให้ทำความสะอาดทุกวัน แล้วเชื้อตัวเล้กๆอย่างโควิด จะไม่มาวุ่นวายเราได้ไงล่ะครับ
คุณลุงอีกคนเข้าใจว่า "ฉีดวัคซีนแล้ว ตั้ง5-6เข็ม ยังไงก็รอด"
ใช่ครับคุณลุง รอดตายนะครับ แต่ยังติดได้ ฉีดวัคซีนแค่ป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด แต่ถ้ายังจำกันได้ หมอกอล์ฟเคยบอกไว้ ว่าคาถา6 ข้อ ป้องกันโควิดก็คือ 1.สวมแมสก์ 2.ล้างมือ 3.เว้นระยะห่าง 4.ทานสมุนไพร/พ่นสเปรย์ป้องกันการแบ่งตัวไวรัส 5.ล้างจมูก และ6.วัคซีน
"แล้วคนที่ป่วยโควิดหายแล้ว ตรวจatk ทำไมยังขึ้นจางๆ" อันนี้เป็นคำถามจากน้องคนข้างๆ
การตรวจatk ชัดเจน ขึ้นสองขีด ก็ต่อเมื่อติดเชื้อ มีปริมาณไวรัสมากๆ แต่ถ้าได้ทานยาต้านไวรัส ฉีดยาต้านไวรัส หรือแม้แต่ทานสมุนไพร ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ส่วนใหญ่ให้การรักษา5-7 วัน อาการดีขึ้น ปริมาณเชื้อลดลง อาจจะตรวจเจอจางๆ หรือบางคนก็ไม่ขึ้นสองขีดแล้ว อันนี้ถือว่าไม่แพร่เชื้อแล้วครับ ยกเว้น ถ้ากลับมาตรวจเจอแล้วขึ้นขีดชัดๆอีกใหม่ๆ คราวๆนี้ แน่นอนว่า น่าจะติดซ้ำอีกรอบแล้วหละครับ
ดังนั้นคิดดีๆนะครับ ว่าไปข้างนอกเจอคนเยอะๆ พร้อมที่จะเสี่ยงรับเชื้อโควิดจากคนรอบข้างหรือยัง พร้อมที่จะเป็นพาหะ เอาเชื้อเข้าไปในทางเดินหายใจ แล้วพอหายใจร่วมกับคนสูงอายุหรือเด็กเล้กในบ้าน ก็ไปแพร่เชื้อให้เขาหรือยัง หรือมีเวลาพอที่จะนอนป่วยสัก 5 วันหรือยัง ...ถ้าคิดได้ แมสก์ เจลล้างมือ การเว้นระยะห่าง ทานสมุนไพร ล้างจมูก ก็คงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราในทุกวันนะครับ