สงครามระหว่างประเทศครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในอาณาเขตของไทย
Cambodian–Thai border dispute หรือ ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2551 เป็นความขัดแย้งที่สำคัญระหว่างกัมพูชาและไทย เกี่ยวกับดินแดนใกล้กับปราสาทพระวิหาร มีการปะทะระหว่างกำลังทหารทั้งสองฝ่ายหลายครั้ง พร้อมกับการอ้างสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายเหนือดินแดนพิพาทดังกล่าว
ในปี พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร เป็นของกัมพูชา แต่คำตัดสินดังกล่าวไม่ได้ปักปันเขตแดนที่แน่นอน ของดินแดนพิพาทรอบปราสาทพระวิหาร ความคลุมเครือนี้นำไปสู่ความตึงเครียด และข้อพิพาทระหว่างสองประเทศเป็นระยะๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 เมื่อองค์การยูเนสโกประกาศให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา จารึกทำให้ไทยแสดงความกังวล เนื่องจากปราสาทพระวิหารและพื้นที่ใกล้เคียง ยังคงอยู่ภายใต้ข้อพิพาท ไทยแย้งว่าจารึกอาจส่งผลเสียต่อเขตแดน และส่งผลต่อการอ้างสิทธิ์อธิปไตยของตน ความตึงเครียดนี้นำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรง มีการใช้อาวุธสงครามและการโจมตีเกิดขึ้นในหลายจุด
ความขัดแย้งทางอาวุธส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่าย และสร้างความกังวลในหมู่ประชาคมระหว่างประเทศ สหประชาชาติ และประเทศอื่นๆ เรียกร้องให้กัมพูชาและไทยใช้ความยับยั้งชั่งใจ และแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี
กรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา กินระยะเวลารวม 3 ปี 5 เดือน มีรายงานการเสียชีวิตในฝั่งไทยที่ 18 คน และฝั่งกัมพูชา 22 คน เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ประเทศไทยได้มีการประกาศให้มี 'พื้นที่ภัยสงคราม' โดยครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ