เจาะคนละที่คนละเวลาก็ค่าต่างกัน
เจาะคนละที่คนละเวลา ค่าต่างกัน
เคสผู้ป่วยหญิง59ปี เป็นเบาหวาน เคยเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว120 แล้ววันนี้เจาะน้ำตาลในเส้นเลือดใหญ่ได้ 124 แต่ที่สำคัญน้ำตาลสะลม 7.2 (ปกติไม่ควรเกิน5.9) และโพแทสเซียม 5.9 (ปกติไม่เกิน5.1)
เนื่องจากเกลือแร่โพแทสเซียมสูง ต้องระวัง อาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ จึงแนะนำให้ลดผงไม้บางอย่าง เช่น ส้ม ฝรั่ง และมะม่วง (ที่ผู้ป่วยชอบทาน)
คุณน้าเล่าให้ฟังว่า เธอมีที่เจาะหลายนิ้วที่บ้าน เมื่อเช้าเจาะได้ 118 เอง แต่ทำไมผลเลือดมันสูง และที่สำคัญบางทีเจาะที่นิ้วชี้ได้ค่าสูง แต่ที่นิ้วนางได้ค่าไม่สูง แบบนี้ต้องเชื่อตัวไหน
การเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว เหมือนการสุ่มดูรถติดที่แยกไฟแดง ถึงแม้จะแยกเดิม แต่เวลาต่างกัน จำนวนและปริมาณรถก็ไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ แยกอื่นๆ ในเขตเดียวกัน (เทียบนิ้่วอื่นๆ) ปริมาณรถก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเจาะปลายนิ้วก็เหมือนการสุ่ม ถ้าเจาะได้หลายนิ้วหลายค่า ก็เอามาหารเฉลี่ยกัน ก็ได้ครับ
ที่น่าห่วงคือ น้ำตาลสะสม ที่ได้ 7.2 ซึ่งปกติไม่ควรเกิน5.9 นั่นหมายถึงน้ำตาลที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งมีอายุ90-120วัน แสดงว่าในสามเดือน ระดับน้ำตาลที่แท้จริงน่าจะสูง ยังคงกินของหวาน ของมัน ของทอดอยู่ และค่าตัวนี้ถ้าสูงมากๆ มีงานวิจัยมาว่าเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อน เช่น โรคตา โรคไต หลอดเลือดหัวใจและสมอง บางทีถ้าสูงมากๆหมอตกใจยังจะต้องรีบให้ยาฉีดแทนยากินเสียด้วยซ้ำ
คนไข้สงสัยว่า ถ้าน้ำตาลปลายนิ้วมันดี ค่าไม่สูง แต่ทำไม น้ำตาลสะสมยังสูง นี่แหละครับๆ คือการจับโจรที่แท้จริง คือบางทีก่อนวันที่จะมาเจาะปลายนิ้วกับหมอ ก็ทำเป็นคุมอาหารมาดี ไม่กินหวานเลย พอเจาะน้ำตาลก็ดี แต่วิถีชีวิตประจำวันไม่เคยขาดหวาน...ค่าน้ำตาลสะสมนี่แหละคือตัวฟ้องได้เป็นอย่างดี นี่เอง
ดังนั้นการเจาะเลือดดูน้ำตาล มันก็เหมือนการสุ่มดูชีวิตของเรา ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่การดำรงชีวิตที่เหลือเป็นหน้าที่ของเราแล้วหละ ว่าจะเลือกคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือเลือกที่จะนอนติดเตียงในอนาคต ครับ