วิกฤต"ทรายหมดโลก" หายนะการขาดแคลนทรัพยากรแบบใหม่
"ทราย" คือ ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกนำไปใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกและการขยายตัวของเมืองและการเพิ่มจำนวนประชากรนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดวิกฤตทราย ทรายเป็นวัสดุที่ไม่สามารถควบคุมได้ และมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางในเกือบทุกโครงสร้างบนโลกมนุษย์ในปัจจุบัน รู้หรือไม่ทุกสิ่งก่อสร้างบนโลกใช้ทรายไปประมาณ 50 พันล้านเมตริกตันต่อปี หรือมีน้ำหนักเท่ากับเรือไททานิก อาร์เอ็มเอส 10,000 ลำ และเพียงพอที่จะสร้างกำแพงสูง 88 ฟุต กว้าง 88 ฟุตรอบโลก ปริมาณการใช้ทรายของมนุษย์นั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมันเพิ่มขึ้นแบบไร้การควบคุม
โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ที่มีที่ตั้งอยู่ที่เคนยา ได้ออกมาเผยแพร่รายงานใหม่พร้อมกับคำแนะนำเพื่อการป้องกันวิกฤตการขาดแคลนทรายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ข้อมูลสรุปที่เสนอมีต้นแบบมาจากรายงานการรับรู้ของ UNEP ในปี 2019 ซึ่งตั้งใจที่จะแจ้งเตือนว่าวิกฤตทรายที่มีความสาคัญถูกละเลยไปแล้ว โดยที่ปัจจุบันมีความเสี่ยงที่ทรายจะหมดโลกจริง ๆ
ทรายเกิดขึ้นตามธรรมชาติมาหลายพันล้านปี ทรายส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาและก่อตัวเป็นแม่น้ำที่ไหลลงสู่มหาสมุทร แน่นอนว่ามันมุ่งหน้าไปยังชายหาดทั่วโลกเพื่อให้ทรายสัมผัสระหว่างนิ้วเท้าของคุณ แต่ทรายเป็นมากกว่าความสุขของผู้ที่มาเล่นชายหาดและสร้างเมือง ทรายยังมีบทบาทสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องชายฝั่งจากคลื่นพายุ สร้างที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติที่แข็งแรงสำหรับสัตว์หลากหลายชนิดและป้องกันการกัดเซาะ ความต้องการทรายของโลกเริ่มกินพื้นที่แม่น้ำและชายหาดออกไป รายงานของ NPR ปี 2017 ระบุว่า เรากำลังทำลายป่าและพื้นที่เกษตรกรรมเพียงเพื่อให้ได้ทรายมากขึ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นปัญหาที่ใหม่และได้ตระหนักถึงมันได้ไม่นาน เดี๋ยวนี้ทรายถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำนวนมากเท่ากับน้ำทะเล อย่างไรก็ตาม การใช้ทรายเพื่อพัฒนาและการขยายตัวของเมืองได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกๆ ปี นับตั้งแต่ความต้องการเพิ่มมากขึ้น เป็นไปได้ว่าถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่าง เร็วๆ นี้ ทรายอาจจะหมดในวันหนึ่งและกลายเป็นวิกฤตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ปัญหาสำคัญอีกประการคือ การไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนของการขุดทรายในแต่ละปี การแยกส่วนทั่วโลกไม่ได้รับการบันทึกไว้อย่างดีเท่าไหร่ ทำให้ยากต่อการรู้ว่าวิกฤตนั้นรุนแรงเพียงใด อย่างไรก็ตาม การประเมินแบบอนุรักษ์นิยมในการสกัดทรายทั่วโลกต่อปีคือ 40 พันล้านตัน ตามโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
การใช้ทราย กรวดและหินบดในการก่อสร้างคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2060 เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้นถึง 10 พันล้านคน ตามรายงานประจำปี 2019 โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา พื้นที่อาคารสูงถูกกำหนดให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในปี 2060 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ทุกคนบนโลกใช้ทรายโดยเฉลี่ยประมาณ 40 ปอนด์ต่อวัน
อาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ทรายในทะเลทราย คำตอบคือใช้ไม่ได้ เพราะทรายทะเลทรายเกิดจากการกัดเซาะของลม ส่งผลให้เม็ดละเอียดและกลมเกินไปสำหรับการก่อสร้าง เป็นส่วนผสมที่อ่อนไหวในการสร้างบ้านมาก ถ้าอยากได้บ้านทนแข็งแรงแบบในเมืองปัจจุบันล่ะก็นะ ทรายในคอนกรีตมักถูกขุดจากทะเลสาบ แม่น้ำ และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ซึ่งกัดเซาะทำให้เกิดทรายขรุขระ ทรายแบบนั้นต่างหากที่เหมาะสมสำหรับซีเมนต์
สรุปคือ โลกกำลังเผชิญความเสี่ยงขาดแคลนทรายที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สิ่งรอบตัวมนุษย์ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงอุปกรณ์ให้ความสะดวกสบายอย่างมือถือ ก็มีวัตถุดิบทรายทั้งสิ้น อีกทั้งหากอาศัยการทดแทนจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวก็ใช้เวลานานหลายร้อยหลายพันปี ดังนั้น การรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ทรายธรรมชาติน้อยลง และหมุนเวียนการใช้ให้มากขึ้น จะช่วยลดการขาดแคลนทรายลงได้