ลำนำแห่งความเหงาของวาฬ 52 เฮิรตซ์ สิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก
ในพื้นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของโลกมีสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งเพื่อนฝูงญาติมิตรว่ายผ่านส่วนลึกอันดำมืดอย่างเหงาหงอย วาฬที่โดดเดี่ยวพยายามกู่ร้องและรอคอยการตอบกลับอย่างไร้ความหมายเพราะเป็นเสียงที่ไม่สามารถสื่อไปถึงพวกฟ้องของตัวเองได้ ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกปริศนาของวาฬที่โดดเดี่ยวที่สุด สำรวจท่วงทำนองที่หลอกหลอนของมัน และคำถามที่เกิดขึ้นว่าจริงๆ แล้ว ลำนำที่มันร้องสามารถไปถึงวาฬตัวอื่นหรือไม่
วาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดซึ่งมักเรียกกันว่าวาฬ 52 เฮิรตซ์ อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบวาฬความถี่ 52 เฮิรตซ์ครั้งแรกโดยบังเอิญในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ในช่วงสงครามเย็น โดยกองทัพอเมริกาได้วางระบบไฮโดรโฟน (Hydrophones) ข้ามพื้นมหาสมุทรเพื่อดังฟังและติดตามการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำจากโซเวียต ระหว่างที่กองทัพกำลังตรวจตราอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงครวญครางความถี่ต่ำที่พวกเขาเข้าใจในตอนแรกว่าเป็นเสียงสัตว์ประหลาดเยเซเบล (Jezebel) ต่อมานักวิทยาศาสตร์พบว่าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของวาฬและเลิกสนใจเสียงดังกล่าวในที่สุด
ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เมื่อสงครามเย็นสิ้นสุดลง กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้เปิดเครือข่ายดังกล่าวให้นักวิจัยวาฬสามารถเข้าถึงได้ ซึ่ง William Watkins นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลได้เข้าร่วมใช้งานโครงข่ายนี้ด้วย คุณ Watkins สังเกตว่าเสียงที่ดูไม่น่ามีอะไรกลับมีความแตกต่างอย่างชัดเจน แม้ว่าวาฬส่วนใหญ่จะสื่อสารกันในช่วงความถี่ 15 ถึง 30 เฮิรตซ์ แต่สิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวนี้กลับส่งเสียงร้องด้วยความถี่สูงผิดปกติที่ 52 เฮิรตซ์ เสียงที่ต่างกันออกนี้เชื่อกันว่ามีความถี่สูงเกินกว่าที่วาฬอื่นจะได้ยิน ทำให้วาฬตัวดังกล่าวได้รับการตั้งชื่อว่าวาฬ 52 เฮิรตซ์ และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในทะเล
เรื่องราวของเจ้าของบทเพลงที่เหงาหงอย
ตั้งแต่นั้นมา คุณ Watkins และทีมงานนักวิจัยก็ติดตามวาฬตัวนี้มานานกว่าทศวรรษ ในปี 2004 พวกเขาตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนำระบบเสียงใต้น้ำ (Underwater Sound System) เพื่อใช้ในการจำแนกวาฬแต่ละตัว ซึ่งเมื่อบทความดังกล่าวไปถึงสื่อกระแสหลัก วาฬ 52 เฮิรตซ์ ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ของประชาชน ผู้คนเริ่มสงสัยว่า ถ้าวาฬส่งเสียงด้วยความถี่ที่แตกต่างจากตัวอื่น วาฬตัวอื่นจะได้ยินเขาไหม และจะเขาได้ยินวาฬตัวอื่นหรือไม่? เขากำลังว่ายอย่างโดดเดี่ยวหรือเปล่า? และที่สำคัญ... วาฬ 52 เฮิรตซ์เหงาแทบขาดใจหรือไม่?
เสียงที่ไม่มีใครได้ยินนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน นักดนตรี และผู้สร้างภาพยนตร์มากมาย มีการสร้างภาพยนตร์สารคดี Finding 52 ว่าด้วยภารกิจเพื่อค้นหาวาฬ 52 เฮิรตซ์ นอกจากนี้นักดนตรีได้ประพันธ์บทเพลงต่างๆ ออกมา ในปี 2015 วง BTS วงเคป็อปชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามได้เปิดตัว Whalien 52 ที่เล่าถึงวาฬไม่สามารถเข้าถึงคนอื่นได้เลย ไม่ว่าจะตะโกนดังแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์บางท่านได้ให้เหตุผลว่าแท้จริงแล้ววาฬ 52 เฮิรตซ์อาจไม่ได้ลำพังอย่างที่คิด คุณ Christopher Clark แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนล หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกด้านการสื่อสารเกี่ยวของวาฬให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าวาฬสีน้ำเงิน วาฬฟิน และวาฬหลังค่อม สามารถได้ยินเสียงวาฬ 52 เฮิรตซ์ตัวนี้ได้ แม้ว่าจะเป็นความถี่ที่สูงแต่พวกวาฬก็รับรู้ได้ ในขณะที่คุณ Ana Širović รองศาสตราจารย์ที่ Texas A&M University ได้เสริมว่าคำถามที่น่าขบคิดมากกว่าคือวาฬตัวอื่นๆ มองเสียงความพี่สูงนี้อย่างไร? มันมีความหมายอะไรสำหรับพวกวาฬ?
สุดท้ายนี้วาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดยังคงเป็นปริศนา ว่ายน้ำผ่านมหาสมุทรอันกว้างใหญ่พร้อมท่วงทำนองที่หลอกหลอน เรื่องราวดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงความลึกลับที่ยังคงมีอยู่ในโลกธรรมชาติ และความสำคัญในการทำความเข้าใจและการอนุรักษ์ระบบนิเวศอันละเอียดอ่อนและความซับซ้อนของท้องทะเลลึกต่อไป
Ref: https://en.wikipedia.org/wiki/52-hertz_whale
Ref: https://www.iflscience.com/fact-check-has-the-world-s-loneliest-whale-finally-found-a-friend-65797
Ref: https://www.scientificamerican.com/podcast/episode/inside-the-nail-biting-quest-to-find-the-loneliest-whale/