กราบพระสารีริกธาตุ วัดพระธาตุดอยเกิ้ง
วัดพระธาตุดอยเกิ้ง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัวคำ หมู่ที่ 5 ตำบลท่าเดื่อ อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นวัดที่สำคัญ เนื่องจากเป็นวัดที่มีพระเจดีย์ดอยเกิ้งที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งตามประวัติเมื่อปี พ.ศ.1200 พระนางจามเทวี ได้ขึ้นมานมัสการพระบรมธาตุดอยเกิ้งครั้งสมัยที่พระนางทรงครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม จนกระทั่งเมื่อปีพ.ศ.2463-2464 ท่านพระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ได้ขึ้นมาบูรณะสร้างเจดีย์ครอบเจดีย์องค์เก่าไว้ แต่หลังจาก พ.ศ.2464 พระธาตุดอยเกิ้งก็ถูกปล่อยรกร้างจนถึงปี พ.ศ. 2529 ครูบาบุญศรี อภิปุณโณ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้บูรณะซ่อมแซมและสร้างศาสนะสถานต่าง ๆ จนกลายเป็นสถานที่ที่มีศาสนิกชนไปกราบไว้มากที่สุดอีกที่หนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับการเดินทางสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ จากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปตามถนนหลัก 108 เชียงใหม่-ฮอด ขับรถผ่านแยกหอนาฬิกาอำเภอฮอด ขับตรงต่อไปตามถนนหมายเลข 1012 ฮอด-วังลุงผ่านโรงพยาบาลฮอด และขับรถไปเรื่อย ๆ ตามถนนหมายเลข 3068 ฮอด ถึงบ้านบ้านห้วยหินดำ ตำบลนาคอเรือ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นก็เดินทางต่ออีกประมาณ 14 กิโลเมตรก็จึงวัดดอยเกิ้ง
เมื่อปีที่แล้วผู้เขียนและครอบครัว ได้มีโอกาสขึ้นไปกราบไหว้องค์พระธาตุเจดีย์ดอยเกิ้งและไปทำบุญที่วัดนี้กับกับครอบครัว เรามีความตั้งใจที่จะขึ้นไปกราบไหว้องค์พระธาตุเจดีย์ดอยเกิ้ง เพื่อเป็นศิริมงคลให้กับชีวิตและครอบครัว เราเดินทางออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้าผ่านถนนลาดยาง ผ่านหมู่บ้านแม่งูดขับไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้านห้วยหินดำ ตำบลนาคอเรือ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถไปต่อจากถนนลาดยางสีด สู่ถนนคอนกรีตในหมู่บ้านและตามด้วยถนนลุกรังไม่ไกลมากประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงเส้นทางคอนกรีตที่คณะศรัทธาจากวัดพระธาตุดอยเกิ้ง ได้สร้างให้กับทางวัดเพื่ออำนวยยความสะดวกสำหรับพระสงฆ์และผู้ที่จะขึ้นไปกราบไว้พระธาตุดอยเกิ้ง การเดินทางเส้นนี้ก็ต้องระมัดระวังหน่อย สำหรับคนที่ไม่ชินเส้นทาง เพราะถนนค่อนข้างแคบ แต่หากเดินทางมาช่วงฤดูฝนก็จะได้สัมผัสบรรยากาศที่ดี ๆ เพราะตลอดสองข้างทางจะมีต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่ แต่ร่มรื่นสีเขียวสบายตาตลอดสายจนถึงหน้าวัดเลยทีเดียว ช่วงที่ผู้เขียนไปนั้นเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวถือว่าอากาศกำลังดี เราเดินทางต่อไปทางถนนคอนกรีตอีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็ถึงยังวัดพระธาตุดอยเกิ้ง หลังจากที่เราลงจากรถเราเดินทางไปที่กุฏิเจ้าอาวาสเตรียมของคาวหวานและสังฆทานถวายพระทำบุญ พอเราเสร็จพิธีทำบุญกับครอบครัว เราก็ชวนกันเดินขึ้นไปยังองค์พระธาตุเจดีย์ดอยเกิ้ง ซึ่งในการเดินขึ้นไปยังองค์พระธาตุนั้นสำหรับผู้สูงอายุจะต้องใช้ความระมัดระวัง ค่อย ๆ เดินขึ้นไป
ผู้เขียนและครอบครัวได้ขึ้นมาถึงยังองค์พระธาตุ เราได้นมัสการกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัว ตรงลานพระธาตุดอยเกิ้งนั้นเราจะมองเห็นทิวทัศน์สวยงามเป็นบริเวณกว้าง ข้างล่างลงไปจะเห็นทะเลสาบดอยเต่าเป็นบริเวณกว้างเป็นภาพที่สวยงามและประทับใจสำหรับพวกเรามาก ต่างก็ชวนกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากนั้นพวกเราก็ไปกรายบพระพุทธรูปในวิหารขนาดใหญ่ที่ติดกับองค์พระธาตุ โดยผนังของวิหารหลังนั้น จะรูปวาดจะมีเรื่องราวต่าง ๆ สมัยพุทธกาล เป็นภาพวาดศิลปะที่สวยงามชวนหลงไหลสำหรับนักท่องเที่ยวมาก เราได้ใช้เวลาพอสมควรกับการชมภาพวาดต่าง ๆ ในวิหารนั้น จากนั้นเราก็ออกจากวิหารและเดินลงจากองค์พระธาตุเจดีย์ลงมายังข้างล่าง นอกจากองค์พระธาตุดอยเกิ้งที่ศาสนิกชนส่วนใหญ่จะเดินขึ้นมาชมความงามและกราบไหว้แล้ว
ภายในบริเวณวัดแห่งนี้ก็ยังมี พระนอนขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นตั้งอยู่ใกล้บริเวณทางเข้าซุ้มประตูในวัด อีกทั้งยังมีสถานที่ที่น่าชมอีกหลายที่ สำหรับใครที่ชอบการเดินทางชมบริเวณวัดก็สามารถเดินชมได้ ทางวัดก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องอยู่ในความสงบเพื่อไปไปรบกวนสำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่จะทำกิจของสงฆ์ เราเดินชมบริเวณต่าง ๆ ของวัดพอสมควร อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นมากพวกเราจึงได้ชวนกันกลับ
ทุกคนรู้สึกอิ่มบุญอิ่มใจกับการมาทำบุญถวายพระ รวมถึงได้มากราบองค์พระธาตุเจดีย์ดอยเกิ้ง ซึ่งเป็นที่บรรจุพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า จึงเป็นศิริมงคลให้ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง หากใครที่สนใจและอยากมากราบไว้องค์พระธาตุเจดีย์ดอยเกิ้ง ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกตามเส้นทางที่ให้ไว้ตั้งแต่ต้น โดยช่วงที่บรรยากาศดีที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม เพราะนอกจากจะอิ่มบุญอิ่มใจแล้ว ท่านจะอิ่มตาอิ่มใจกับบรรยากาศเขียวขจีของต้นไม้ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้แล้วช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่น้ำในทะเลสาบดอยเต่าเอ่อขึ้นมาเต็มอ่าง จะมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบดอยเต่าอีกด้วย ฉะนั้นอย่าลืมมากราบไหว้พระสารีริกธาตุและมาทำบุญที่วัดพระธาตุดอยเกิ้งนะครับ