"ม่อนแจ่ม"สวรรค์ของนักท่องเที่ยว
"ม่อนแจ่ม" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ จึงที่เป็นท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่อยากจะมาเยือนสักครั้ง สำหรับม่อนแจ่มนั้น เดิมทีเรียกชื่อว่า "กิ่วเสือ" เป็นป่าที่รกร้าง ชาวบ้านบางส่วนเข้าแผ้วถางทำประโยชน์และมีการแอบปลูกพืชผิดกฏหมาย ทำให้เกิดปัญหายาเสพย์ติดในพื้นที่ ทางหน่วยงานราชการ โดยโครงการหลวงได้เข้ามาซื้อพื้นที่เข้า โครงการหลวงหนองหอย คุณแจ่ม แจ่มจรัส สุชีวะ หลานของหม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้ามาพัฒนา และมีการเปลี่ยนชื่อจากม่อนกิ่วเสือ เป็นม่อนแจ่ม ตามชื่อของคุณแจ่ม แจ่มจรัส สุชีวะ ผู้ที่บุกเบิกในการพัฒนาม่อมแจ่ม นั่นเอง
สำหรับ"ม่อนแจ่ม"นั้น อยู่ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านม้ง ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวนอกจากจะได้สัมผัสอากาศหนาวแล้ว ตื่นมายังได้ชมทะเลหมอกเกือบทั้งวัน ปัจจุบันนั้นมีรีสอร์ตแบบแคมป์ปิ้งเกิดขึ้นมากมาย ให้นักท่องเที่ยวเลือกได้หลากหลายลักษณะและหลายราคา ผมอยากจะบอกเพื่อนๆ ว่า หากสามารถไปได้ช่วงปลายฝนต้นหนาวประมาณปลายเดือนกันยายน-เดือนตุลาคมจะดีมาก เพราะนอกจากจะได้ค่าที่พักที่ถูกลงแล้ว บรรยากาศก็กำลังพอดีไม่หนาวและเย็นจนเกินไป ส่วนหมอกเมยก็มีให้ชมและสัมผัสไม่ต่างจากหน้าหนาวเช่นกันครับ
ผู้เขียนและภรรยา ก็มีความฝันว่าอยากจะไปเยือนสักครั้ง เมื่อต้นเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา จึงได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเขาสักที เราเดินทางโดยรถส่วนตัวจากตัวเมืองเชียงใหม่ จุดเริ่มต้นเดินทางที่โลตัสคำเที่ยง เพื่อเดินทางไปยังม่อนแจ่ม ซึ่งเมื่อดูจากแผนที่แล้วระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตรกับใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ถือว่าใกล้มากทีเดียว เราขับรถไปเรื่อยๆ ผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เข้าไปยังถนนช้างเผือกไปยังถนนอำเภอแม่ริมเดินทางไปได้ประมาณ 20 นาที ก็เลี้ยวซ้ายขึ้นไปยังตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม ซึ่งเป็นตำบลสถานที่ตั้งของหมู่บ้านม้งบนดอยม่อนแจ่ม สถานที่ท่องเที่ยงที่เราต้องการจะไป การเดินทางไปยังม่อนแจ่มนั้น ถือว่าถนนหนทางที่ไปนั้นสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะถนนลาดยางตลอดสาย แต่สิ่งที่ต้องระวังนั้นมีอย่างเดียวคือการขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพราะเส้นทางที่ไปจะชันและขึ้นเนินเป็นจุดๆ ประกอบกับบางจุดจะคดโค้ง สำหรับผู้มาเยือนรายใหม่จะต้องคอยระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่รถคันอื่นๆ ขับสวนมา แม้จะต้องคอยระมัดระวังแต่ก็ไม่ลำบากมากสำหรับการไปเที่ยวม่อนแจ่มของเราในครั้งนี้
เมื่อมาถึงยังสถานที่ เราเลือกที่พักซึ่งเป็นรีสอร์ตเป็นหลังแบบโดรน มีชื่อว่า"แสงเหนือแคมป์ปิ้ง" ในราคาที่ไม่แพงสำหรับเราสามคนพ่อแม่ลูก ต้องบอกว่าเราโชคดีมาก เพราะเส้นทางที่เดินทางมานั้นมีเมฆครื้มๆปกคลุมตลอดเวลา เนื่องจากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่พอมาถึงอากาศปลอดโปร่งและเย็นสบาย มีเมฆสีขาวบางๆ ลอยมากลางอากาศ เรารู้สึกประทับใจมากๆ ต่อภาพที่เราพบเห็น
โดยช่วงเย็นนั้น เราได้สั่งชุดหมูกระทะ เพื่อรับประทานกันในราคาประหยัดชุดละ 599 บาท ซึ่งจะบอกกับทุกท่านที่ได้มาเยือนว่าทางรีสอร์ตเอง ก็ไม่ได้เข้มงวดกับอาหารที่นักท่องเที่ยวจะนำขึ้นมารับประทานที่พักแคมป์ปิ้ง ซึ่งเราเองก็เตรียมชุดอาหารของอีกชุดหนึ่ง เพื่อให้เพียงพอต่อการรับประทานและดื่มด่ำกับบรรยากาศสำหรับค่ำคืนนี้ ต้องบอกเลยว่าหมู่กระทะอร่อยๆ หอมๆ กับอากาศเย็นๆ ย่อมคู่กันอยู่แล้ว จากเริ่มกินกันช่วงเย็นสู่ช่วงดึกเกือบเที่ยงคืนอากาศเย็นลงเรื่อยๆ เริ่มหนาวสั่นกันประกอบกับอิ่มหมีพีมันกันเต็มพุงแล้วก็ตัดสินใจกันว่าจะนอนกันแล้ว เพื่อพรุ่งนี้ตื่นมาชมทะเลหมอกยามเช้ากันดีกว่า.
น่าเสียดายว่าดึกดื่นคืนสงัด ฝนฟ้าที่ช่วงเช้าบ่ายเย็น ไม่ได้มาเยือนพวกแรา แต่กลับเทกระหน่ำลงมาหลังจากที่พวกเราเข้านนอนกันได้ไม่นาน ทำให้คืนนั้นเรานอนฟังเสียงฝนกันทั้งคืน ฝนตกนานเท่าไรไม่รู้มาสะดุ้งตื่นอีกทีก็สว่างละ แต่ฝนก็ยังไม่หยุดตกคงมีฝนโปรยปรายลงมาเรื่อยๆ แต่ก็ไมามากนัก พอสายๆ ฝนเริ่มหยุดตก ทีนี้แหล่ะทั้งหมอกฝนและหมอกหนาวก็พัดพามาให้เราได้เชยชม พวกเราสูบเอาอากาศเต็มปอดและอิ่มเอมไปกับบรรยากาศ พร้อมๆ กันนั้นเราก็ออกเดินเที่ยวยังจุดต่างๆ บริเวณใกล้ๆ กับที่พักของเรา จนหนำใจ ช่วงบ่ายพวกเราก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน ก็เป็นอันว่าสำหรับทริปม่อนแจ่มของครอบครัวเราก็จบลงด้วยความสุขสมหวังดังที่ตั้งใจครับ
ปิดทิ้งท้ายให้สำหรับทุกคนที่จะมาเที่ยวที่นี่นะครับ "ขับขี่ปลอดภัย ก่อนออกเดินทางทั้งไปและกลับห่างไกลแอลกฮออร์กันด้วยนะครับ" เพื่อความปลอดภัยของเรา คนที่เรารักและเพื่อนร่วมทริปทุกคนนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตาม