ที่มา "ขนมสายไหม" ขนมแห่งเทศกาล อร่อยแสนหวาน ดั่งปุยเมฆ
สายไหม เป็นขนมที่มีรสชาติหวาน อร่อยและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน มักพบเห็นตามงานวัด สวนสนุก หรือเทศกาลต่างๆ มีขายอยู่เกือบทุกงาน
ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์หวาน เหนียว ๆ มีสีสันที่สวยงามหลากหลาย มีการเติมสีผสมอาหารทั้งสีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีเขียว สีฟ้า ฯลฯ เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ
จุดเด่นของขนมสายไหม เมื่อรับประทานแล้ว จะละลายในปาก มีลักษณะคล้ายปุยเมฆ หรือก้อนเมฆ เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆ อย่างมาก
หลายคนอาจคิดว่าสายไหมเป็นขนมไทย แต่แท้จริงแล้ว สายไหมถือกำเนิดขึ้นในอเมริกา ทวีปยุโรป โดยประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1904 โดย วิลเลียม มอร์ริสัน และ จอห์น วราตัน ในงานมหกรรมซื้อขายหลุยส์เซียอานา (Louisiana Purchase Exposition) ในชื่อ Fairy Floss และเป็นขนมที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยก็ว่าได้
ซึ่งสมัยนั้นจะใช้หม้อใบเล็ก สำหรับใส่น้ำตาลและสารแต่งสีอาหาร เป็นเครื่องสำหรับทำสายไหม
ใช้เครื่องทำความร้อนบริเวณขอบจะทำให้น้ำตาลหลอมละลายและน้ำตาลเหลวจะถูกปั่นให้ไหลผ่านรูเล็ก ๆ และจะแข็งตัวในอากาศ
เมื่อถูกจับไว้ในหม้อใบใหญ่ คนทำก็จะจะแหย่แท่งไม้หรือมือลงไปในหม้อใหญ่เพื่อให้สายไหมจับตัวเป็นก้อน
สายไหม นับว่าเป็นขนมโบราณที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสีสันให้กับงานเทศกาลต่างๆ ให้มีชีวิตชีวาอีกด้วย
อ้างอิงจาก: ข้อมูลวิกิพีเดีย