พริกเกลือแบบไหนตรงใจคุณ
วันนี้ผู้เขียนขอเขียนถึง พริกกะเกลือ หรือ พริกเกลือ หรือ น้ำปลาหวาน เครื่องจิ้มที่มีไว้ทานคู่กับผลไม้เปรี้ยวๆ หรือ ไม่เปรี้ยวแต่ของก็ต้องมีคู่กันอะนะ
ว่าคุณผู้อ่านแต่ละท่านชอบเครื่องจิ้มแบบไหนมากที่สุดเวลาทานผลไม้นะคะ มาดูกันเลยค่ะว่าคนไทยมีเครื่องจิ้มกันกี่เมนูให้เลือกคะ
1 พริกเกลือพริกสด
สำหรับพริกเกลือพริกสด จะมีรสชาติหวานนำและตัดด้วยรสเผ็ดของพริกสดตำหยาบ โดยส่วนมากคนไทยจะชอบกินคู่กับ ฝรั่ง มันแกว หรือ มะม่วงมัน
ส่วนผสม พริกเกลือ พริกสด
พริกขี้หนูสวน 2-3 เม็ด
น้ำตาลทรายขาว 3-4 ช้อนโต๊ะ
เกลือปลายช้อน
วิธีทำพริกเกลือ พริกสด
ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปโขลกในครกให้พอละเอียด หรือ ตำพริกสดให้ละเอียด ใส่น้ำตาลทราย ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายจนไม่แฉะ จากนั้นค่อยใส่เกลือชิมความเค็มตามชอบ
2 พริกเกลือพริกป่น
พริกเกลือพริกป่น จะมีรสชาติที่ เค็ม นำ ซึ่งจะต่างกับพริกเกลือพริกสด ที่มีรสชาติหวานนำ คำเตือนสำหรับผู้ที่จะจิ้มพริกเกลือพริกป่นก็คือ ให้จิ้มแต่น้อยๆ เพราะระวังลิ้นจะแห้งโดยเฉียบพลันได้
ส่วนผสม พริกเกลือพริกป่น
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาว 3-4 ช้อนโต๊ะ
เกลือปลายช้อน
วิธีทำพริกเกลือพริกป่น
ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันชิมรสชาติตามชอบ
3 พริกเกลือบ๊วย
พริกเกลือบ๊วย เป็นเครื่องจิ้มโปรดของเหล่าเด็กๆ หรือคนที่ชอบรสหวานๆ สำหรับพริกเกลือบ๊วยนั้น คนส่วนมากนิยมทานคู่กับฝรั่ง
ส่วนผสม พริกเกลือบ๊วย
เนื้อบ๊วยแห้ง 10 เม็ด หรือ ผงบ๊วย
น้ำตาลทรายขาว 4 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำพริกเกลือบ๊วย
เอาส่วนผสมทุกอย่างไปปั่นจนเป็นผงให้เข้ากันดี
4 พริกเกลือชูรส
สำหรับคนอยากกินพริกเกลือแบบอูมามิ ขอนำเสนอพริกเกลือชูรส ใส่พริกป่นกับผงชูรส เติมน้ำตาลทรายขาวหน่อย แค่นี้ก็เรียบร้อย
ส่วนผสม พริกเกลือชูรส
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาวป่น 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
ผงชูรส 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/4 ช้อนโต๊ะ ( ถ้าชอบพริกเกลือร่วน ๆ ก็ไม่ต้องใส่ )
วิธีทำพริกเกลือชูรส
ผสมพริกกับเกลือ เติมน้ำตาลทรายและผงชูรส คนพอเข้ากัน เติมน้ำลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันพอดี อย่าแฉะเกินไป
5 น้ำปลาหวานกุ้งแห้ง
ที่สุดของเครื่องจิ้มที่เป็นซิกเนเจอร์ของคนไทยเลยก็ว่าได้ น้ำปลาหวาน หาซื้อได้ง่ายแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อยังมีขาย เก็บไว้กินได้นานหลายเดือน รสชาติหวานๆ เผ็ดๆ มีเนื้อของกุ้งป่นและหัวหอมไว้เคี้ยวกรุบๆ
ส่วนผสม น้ำปลาหวานกุ้งแห้ง
น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา
น้ำปลาอย่างดี 4 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งตำพอหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
หอมแดงซอยบาง 5 หัว
พริกขี้หนูสวนซอยปริมาณตามชอบ
วิธีทำ น้ำปลาหวานกุ้งแห้ง
1 ใส่น้ำตาลปี๊บ กะปิ และน้ำปลา ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บละลาย
2 ใส่กุ้งแห้ง หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย เคี่ยวจนน้ำปลาหวานมีลักษณะใสขึ้น ปิดไฟ ยกลง ทิ้งไว้สักพักให้ฟองหายไป
3 ตักใส่ถ้วย โรยด้วยหอมแดงซอยและพริกขี้หนูซอยเล็กน้อย
6 พริกสดน้ำตาลปี๊บ
เครื่องจิ้มสูตรนี้ เป็นที่นิยมจิ้มคู่กับมะม่วงมันกับฝรั่ง ซึ่งจะมีผิวสัมผัสแบบน้ำเช่นเดียวกับน้ำปลาหวาน มีรสชาติที่กำลังพอดี ทั้งหวานและเผ็ดที่ไม่มากเกินไป ส่วนผสมก็หาได้ง่ายๆ
ส่วนผสม พริกสดน้ำตาลปี๊บ
พริกสด 5 เม็ด
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
เกลือหยิบมือ
น้ำร้อน 1 ช้อนชา
วิธีทำพริกสดน้ำตาลปี๊บ
1 ผสมน้ำตาลปี๊บกับน้ำร้อนเล็กน้อย คนให้พอละลาย ( หรือถ้าน้ำตาลปี๊บละลายอยู่แล้วไม่ต้องเติมน้ำร้อน )
2 ตำพริกกับเกลือให้พอแหลกใส่ลงไปในน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน ชิมรส พร้อมเสิร์ฟ
7 กะปิหวานน้ำตาลทราย
มาต่อกับอีกวิธี ทำกะปิหวานสูตรนี้ใส่น้ำปลาผสมกับน้ำตาลทราย เติมกะปิ ใส่หอมแดงกับพริกขี้หนู กินกับ มะม่วงเบา ตะลิงปลิง หรือมะยมก็เหมาะจ้า
ส่วนผสม กะปิหวานน้ำตาลทราย
พริกขี้หนู
หอมแดง
กะปิอย่างดี
น้ำตาลทราย
น้ำอุ่น
น้ำปลา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ กะปิหวานน้ำตาลทราย
1 หั่นพริกกับหอมแดง เตรียมกะปิ ถ้าเอาไปจี่ได้จะดีมาก เพราะจะหอมสุด ๆ
2 ตักน้ำตาลทรายมาคนผสมกับกะปิ คนผสมจนเข้ากัน ลองชิมดูก่อนว่าเค็มมากไหม ถ้าไม่เค็มก็เติมน้ำปลา แต่ถ้าเค็มแล้วก็ไม่ต้องใส่น้ำปลา
3 ใส่พริกกับหอมแดง เติมน้ำอุ่นนิดหน่อย คนผสมให้เข้ากัน ถ้าใครชอบเค็มให้เติมน้ำปลาแทนน้ำอุ่นได้ เสร็จเรียบร้อย
8 กะปิหวานแห้ง
กะปิหวานแห้ง ส่วนมากจะกินคู่กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอย่าง มะม่วงเปรี้ยว กระท้อน หรือ มะยม เพราะกะปิหวานจะมีความเข้มข้นของกะปิที่มีรสชาติเค็ม และความหวานจากน้ำตาล เสริมด้วยพริกป่น ช่วยเพิ่มความแซ่บและลดความเปรี้ยวจี๊ดของผลไม้ได้อย่างกลมกล่อม
ส่วนผสม กะปิหวานแห้ง
กะปิอย่างดี 2+1/2 ช้อนโต๊ะ (ย่างไฟพอหอม)
น้ำตาลทรายขาว 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ผงชูรส 1/4 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ กะปิหวานแห้ง
ตักกะปิใส่ภาชนะ เติมน้ำตาลทราย พริกป่น และผงชูรส คลุกเคล้าส่วนผสมพอเข้ากัน
9 กะปิหวานน้ำ
สองสูตรนี้จะมีส่วนผสมต่างกันตรงที่ น้ำตาล กะปิหวานแห้งจะใช้น้ำตาลทรายขาว แต่กะปิหวานน้ำ จะใช้น้ำตาลปี๊บ ซึ่งน้ำตาลทั้งสองแบบมีรสหวานที่ต่างกัน แต่ผลไม้ที่นำมากินคู่กันเป็นผลไม้รสเปรี้ยวเช่นเดียวกัน
ส่วนผสม กะปิหวานน้ำ
กะปิอย่างดี
น้ำตาลปี๊บ
หอมแดงซอย
พริกซอย / พริกป่น ( ตามชอบ )
น้ำต้มสุก (เล็กน้อย)
วิธีทำกะปิหวานน้ำ
1 นำกะปิ น้ำตาลปี๊บ และน้ำต้มเล็กน้อย ผสมเข้าด้วยกัน แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว
2 ใส่พริกซอยลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามชอบ หากไม่เค็มให้เติมเกลือหรือเหยาะน้ำปลาลงไป
3 ตักใส่ถ้วย โรยด้วยหอมแดงซอย เสิร์ฟพร้อมมะม่วงเปรี้ยว
10 น้ำปลาร้าหวาน
ปิดท้ายด้วยน้ำปลาร้าหวานนัวกรุบกริบ เครื่องจิ้มผลไม้รสเปรี้ยวที่แค่เห็นก็รู้สึกได้ถึงความอร่อย สำหรับน้ำปลาร้าหวานจะใช้วัตถุดิบไม่ต่างกับน้ำปลาหวานเลยค่ะ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือน้ำปลาร้า
ส่วนผสม น้ำปลาร้าหวาน
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
หอมแดงซอย
พริกขี้หนู
กุ้งแห้ง
น้ำปลาร้า
วิธีทำ น้ำปลาร้าหวาน
1 ใส่น้ำตาลปี๊บ ปลาร้า และน้ำปลา ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บละลาย
2 ใส่กุ้งแห้ง หอมแดงซอย และพริกขี้หนูซอย เคี่ยวจนน้ำปลาหวานมีลักษณะใสขึ้น ปิดไฟ ยกลง ทิ้งไว้สักพักให้ฟองหายไป
3 ตักใส่ถ้วย โรยด้วยหอมแดงซอยและพริกขี้หนูซอยเล็กน้อย
น้ำปลาร้าหวาน รสชาติก็จะหวานนำ ตามด้วยเค็ม และเผ็ดนิด ๆ พร้อมหอมกลิ่นน้ำปลาร้าเบา ๆ เข้ากันได้ดีกับ มะม่วงเบา / มะดัน / มะยม / ตะคร้อ / มะขามอ่อน / มะไฟ หรือจะนำองุ่นเปรี้ยวมาจิ้มก็อร่อยไม่แพ้กันคะ
LOMA🐬🐬