รีวิวหนังดัง THE BEEKEEPER นรกเรียกพ่อ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากินด้วยหลอกลวงสารพัดรูปแบบ ทั้งทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตโดยใช้การแอบอ้าง หลอกให้โลภ หลอกให้กลัว เพื่อการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะรหัสผ่านเข้าบัญชีธนาคาร เพื่อโอนเงินไปเข้าบัญชีม้าอีกหลายทอดให้ยากต่อการแกะรอยสืบหาที่มาของเงิน
ความจริงอันขมขื่นของคนทำผิดที่ไม่ได้รับการลงโทษ ถูกถ่ายทอดผ่านวิสัยทัศน์โดยผู้กำกับ David Ayer ที่เคยฝากผลงานอย่าง SUICIDE SQUAD (2016) มาแล้ว และครั้งนี้จะเป็นผลงานระห่ำเรื่องล่าสุดที่คนไทยต่างจับตามอง
เรื่องย่อ
Adam Clay คนเลี้ยงผึ้งและรับจ้างทำสวน ได้รับการว่าจ้างจากคุณนายที่เป็นหญิงสูงอายุ Clay ให้การเคารพคุณนายคนนี้มาก ภายหลังพบว่าเธอฆ่าตัวตาย เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มัลแวร์ล็อกการใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก จนต้องโทรตามที่หน้าจอปรากฏขึ้น ต้องกดปุ่มตามคำสั่งเพื่อหวังว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กจะกลับมาใช้งานได้
แต่ไม่มีความหมาย...เงินในบัญชีถูกโอนหายไปทั้งหมด
Adam Clay ต้องการแก้แค้นให้เธอ โดยยอมสืบหาว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง และก็พบว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลทางกฎหมายหนุนหลัง ไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานใดจะหยุกยั้งคนพวกนี้ได้ แถมยังมีอดีตหัวหน้า CIA เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย
Adam Clay ถูกตามไล่ล่า ขณะเดียวกัน เขาก็ไล่ล่าศัตรูอย่างไม่ลดละเช่นกัน จนกระทั่งตัวตนของเขาถูกเปิดเผยว่า Adam Clay คืออดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษของโครงการ BEEKEEPER นั่นเอง
นักแสดงนำ
- Jason Statham รับบทเป็น Adam Clay
- Josh Hutcherson รับบทเป็น Derek Danforth
- Emmy Raver-Lampman รับบทเป็น Agent Verona Parker
- Bobby Naderi รับบทเป็น Agent Matt Wiley
- Jeremy Irons รับบทเป็น Wallace Westwyld
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.ความสนุกน่าติดตามของเรื่อง แค่เห็นในตัวอย่างก็น่าดูแล้ว เนื้อเรื่องสอดคล้องกับความเป็นอยู่ของสังคมไทย เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักมากจริงๆ แถมมีอุบายที่ทำให้เราไม่ทันคิดให้รอบด้าน เพราะมันอาศัยช่วงที่เรากำลังทำธุระอย่างอื่นอยู่ ไม่ว่างที่จะคิดอะไรมากมาย แค่ต้องการให้ธุระตรงหน้าเสร็จสิ้นก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว การหลอกลวงแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัว หากวันนี้มันหลอกไม่สำเร็จ วันหน้ามันก็จะหาแผนใหม่ในการหลอกลวงต่อไปเรื่อยๆ
2.หนังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานอย่างแข็งขัน มีการเปรียบเทียบว่าใครทำผลงานมากกว่า ใครหลอกคนแล้วได้เงินมากกว่าก็จะได้รับการยอมรับ พวกมันทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
3.การต่อสู้ประชิดตัวของ Jason Statham ไม่เป็นที่กังขา แต่ติดอยู่ตรงที่การต่อสู้ของ Adam Clay ดูไม่ค่อยจะลำบากอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักฆ่า หรือเจ้าหน้าที่หน่วยจู่โจมพิเศษ Adam Clay ก็จัดการพวกมันหน้าคว่ำพื้นได้หมดทุกราย ต่อให้เจ้าหน้าที่สวมหมวกกันน็อกอยู่ Adam Clay ก็ศอกปักหัวได้โดยที่ตัวเองไม่มีอาการอะไรเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ดูเหลือเชื่อมาก
4.นอกจากความโม้สุดขั้วแล้ว ยังมีฉากน่าเบื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่ยึดหลักกฏหมายอย่างสุดโต่ง แม้เธอจะเป็นส่วนหนึ่งของผู้เสียหายก็ตาม แต่ดูเหมือนเธอจะไม่แค้นเคืองกับพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลย แต่กลับชิงชัง Adam Clay ที่ตั้งตนเป็นศาลเตี้ยเสียมากกว่า
5.อีกการแสดงหนึ่งที่น่าจดจำนั่นก็คือ Jeremy Irons ที่รับบทเป็นอดีตหัวหน้าฝ่าย CIA แม้จะไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายนัก แต่ครีเอเตอร์ชอบบุคลิกภาพของเขาทุกเรื่องที่เขาแสดงไม่ว่าหนังเรื่องไหนก็ตาม
โดยรวมหนังอาจไม่ได้สนุกอะไรมากมาย แค่ดูพอผ่านตา โดยชาติตะวันตกคงจะไม่อินกับเนื้อเรื่องเพราะไม่ค่อยมีข่าวการเกิดปัญหาลักษณะแบบนี้ หนังจึงไม่เป็นที่พูดถึงหรือมีรายได้จากการฉายหวือหวาเท่าใดนัก
แต่กับคนไทยที่เสี่ยงจะต้องเจอการโทรมาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกวัน ก็คงเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยาก นอกจากจะตั้งใจว่า...จะไม่โลภรับผลประโยชน์อะไรที่พวกมันเสนอมาให้ฟรีๆโดยเด็ดขาด จะไม่กลัวในสิ่งที่มันขู่ จนกว่าจะโทรเช็คสอบถามจากหน่วยงานดังกล่าวโดยตรง...