นี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมป้าข้างบ้านชอบมายุ่งวุ่นวายเรื่องชีวิตเรานั่นเองหลายคนอาจจะหายสงสัย
ปัญหาที่ทุกคนต้องเจอเมื่อมีป้าข้างบ้านอยู่ใกล้ๆปัญหาที่กวนใจทุกวันไม่มีพัก
เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเจอปัญหาที่ว่าป้าข้างบ้านคาดหวังกับเราเสมอ ทั้งที่พ่อกับแม่ของเราไม่เคยที่จะคาดหวังกับเรามากเลย
เชื่อว่าหลายคนเองก็คงยังมี ป้าข้างบ้านคนนั้น อยู่ในใจแน่ๆ ป้าที่คอยแอบสอดแนมชีวิตเราตลอด ป้าที่รู้ทุกเรื่องในบ้านของเราดีเสียยิ่งกว่าเราที่เป็นเจ้าของบ้าน ดีไม่ดีรู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้เราก้าวเท้าซ้ายหรือเท้าขวาออกจากบ้าน ซึ่งก็อาจทำให้เรารู้สึกรำคาญใจ ว่า ทำไมป้าถึงต้องใส่ใจกับชีวิตเราขนาดนี้ด้วย
มีคำตอบให้ทุกคนแล้วว่าจริงๆ แล้ว ทำไมป้าข้างบ้านถึงชอบยุ่งเรื่องของเรา โดยเป็นคำอธิบายจากนักจิตวิทยาเกี่ยวกับพฤติกรรมการชิบยุ่งเรื่องคนอื่นของมนุษย์
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมชาติของมนุษย์
นักจิตวิทยาได้อธิบายว่าโดยธรรมชาติมนุษย์มักมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นตัวกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเรียนรู้ อย่างไรก็ตามความอยากรู้อยากเห็นนี้จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งการที่มนุษย์ป้าข้างบ้านจะมีความอยากยุ่งเรื่องของคนอื่นมากกว่าปกติ อาจเกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ป้ามีความรู้สึกไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย ( Insecurity )
คนที่มีความรู้สึกไม่มั่นคงหรือไม่มั่นใจในตัวเอง มักจะมองหาความสบายใจผ่านการสอดส่องชีวิตคนอื่น โดยคนประเภทนี้มักเก็บข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตคนอื่น และนำไปเปรียบเทียบชีวิตของตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นใจ และให้ตัวเองรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น
- ป้าชอบเม้าท์ ( Gossip )
การนินทาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มนุษย์เราชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เนื่องจากมนุษย์บางคนมีความชื่นชอบเรื่องราวดราม่าและรู้สึกตื่นเต้นกับความลับของคนอื่น โดยคนประเภทนี้มักชอบที่จะได้รับความสนใจ จึงมักจะแอบฟังเรื่องของคนอื่น เพื่อนำไปเล่าต่อ
- ป้าแค่สนใจในตัวเรา ( Genuine Interest )
ความอยากรู้อยากเห็นของป้าข้างบ้านอาจไม่ได้มาจากปัจจัยด้านลบเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วป้าอาจสนใจในตัวเราจริงๆ โดยคนประเภทนี้พื้นฐานมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่แล้ว เขาจึงเลือกใช้เรื่องของเราในการศึกษาและค้นหามุมมองและประสบการณ์ใหม่ๆ
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันเสาร์เราเพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่น ป้าข้างบ้านก็อาจตั้งคำถามเซาะเเซะว่า "ญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง" ซึ่งป้าอาจถามเพราะตนไม่เคยไปเลยเกิดความสงสัยถึงสภาพเเวดล้อมบ้านเมืองก็ได้
- ป้าไม่รู้ขอบเขต ( Lack of boundaries )
สำหรับบางคนก็ไม่เข้าใจและไม่ทราบจริงๆ ว่าเรื่องที่ถามไปมันเป็นการยุ่งเรื่องของเราและรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเรามากเกินไป
- ป้าชอบความรู้สึกมีอำนาจ ( Control and Power )
บางคนชอบความรู้สึกที่ตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น ตัวอย่างที่เข้าใจง่ายๆ เช่นประโยค "ลูกป้าเรียนหมอ แล้วเราล่ะเรียนอะไร" ในประโยคนี้ป้าเองก็มีความมั่นใจว่าอาชีพของลูกตัวเองดีที่สุดจึงใช้ประโยคนี้มากดอีกฝ่าย
- ป้ากลัวจะตกเทรนด์ ( Fear of Missing Out )
ปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีอินเทอร์เน็ตเข้ามาด้วย จึงทำให้คนมักจะชินกับการที่ต้องรู้เรื่องนู้นเรื่องนี้ จึงมักถามเรื่องต่างๆ เพื่อให้ทันตามเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
- ป้ามีวัฒนธรรมหรืออยู่ในสังคมที่แตกต่างจากเรา
วัตนธรรมและสังคมที่เติบโตมาเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หล่อหลอมให้นิสัยของมนุษย์ต่างกันออกไป ซึ่งในกรณีนี้ป้าอาจเกิดเเละเติบโตมาในสังคมที่การยุ่งหรืออยากรู้เรื่องของคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญก็ได้
สรุปได้ว่าการอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น เป็นธรรมชาตของมนุษย์ อย่างไรก็ตามจะมีมากหรือมีน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ของบุคคลนั้นๆ