หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นักโภชนาการเตือน 5 อาหารและเครื่องดื่ม เสี่ยงทำกระดูกพรุน

เนื้อหาโดย teerap

 

      สำนักงานโภชนาการได้ออกมาเตือนถึงอาหารและเครื่องดื่มที่เราๆชอบกินกันบ่อยๆ 5 ชนิด ว่าจะทำให้เกืดโรคกระดูกบางหรือกระดูกพรุนได้ แม้โรคกระดูกพรุนจะเป็นโรคที่ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดโดยตรงจนกว่าจะเกิดการแตกหัก แต่เมื่อมีภาวะกระดูกพรุนมากๆเข้า ก็จะส่งผลให้เกิดโรคอื่นตามมา ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่แค่คนอายุมากถึงเป็นโรคนี้ได้ แต่หากว่าเราทานอาหารกลุ่มนี้บ่อยๆรับรองเลยว่า เสี่ยงกระดุกบาง กระดูกพรุน และอาหารและเครื่องดื่ม 5 ชนิดที่ว่านั้นคือ

1. อาหารรสเค็ม เนื่องจากอาหารรสเค็มมีโซเดียมในปริมาณที่สูง เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมจะทำให้ร่างกายขับน้ำออกทางปัสสาวะมากขึ้นและขับแคลเซียมตามออกมาด้วย จึงทำให้การสูญเสียแคลเซียมจากร่างกายทางปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น 

2. กาแฟ เพราะกาแฟทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จากการวิจัยของสหรัฐอเมริกาเผยว่า การดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 2 ถ้วย มีผลทำให้กระดูกเปราะบางได้ เพราะคาเฟอีนในกาแฟจะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะได้ 

3. น้ำอัดลม เพราะในน้ำอัดลมจะมีกรดที่ชื่อว่า "ฟอสฟอริก" เพื่อให้เกิดฟองฟู่ในเครื่องดื่มประเภทนี้เกิดจากการผสมระหว่าง กรดฟอสฟอรัสและกำมะถัน (โดยปกติแคลเซียมในร่างกายจะต้องทำงานร่วมกับเกลือแร่อื่นโดยเฉพาะฟอสฟอรัส ในภาวะปกติ ร่างกายจะต้องพยายามรักษาสัดส่วนของแคลเซียมและฟอสฟอรัส 2:1 หากฟอสฟอรัสมากเกินไป ร่างกายก็จำเป็นต้องสลายแคลเซียมออกจากคลังกระดูกมาทำสะเทินฟอสฟอรัสในเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสสูงเกินไปจนส่งผล ในน้ำอัดลมยังมีคาเฟอีน ซึ่งทำให้ร่างกายเสียมวลกระดูกเพิ่มขึ้นเป็น 2 ต่อ 

4. น้ำตาล เพราะน้ำตาลจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย น้ำตาลทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล(ความเครียด)สูงขึ้น ส่งผลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง เพราะคอร์ติซอลจะไปยับยั้งกระบวนการสร้างกระดูกทำให้กระบวนการสร้างกระดูกในร่างกายน้อยลง แต่จะเพิ่มกระบวนการสลายกระดูกแทน 

5. เนื้อสัตว์ เพราะหลังจากที่กินเนื้อสัตว์ ร่างกายจะดึงแคลเซียมจากเซลล์ เนื้อเยื่อและกระดูก มาใช้ปรับค่าความเป็นกรดด่างของเลือดให้อยู่ภาวะที่สมดุล เพราะเนื้อสัตว์เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะย่อยเผาผลาญและดูดซึม แปรเปลี่ยนเลือดให้กลายเป็นกรดมากขึ้น มีความเป็นด่างน้อยลงนั่นเอง . . .

รู้แหละว่าในสภาพปัจจุบันบางอย่างเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ควรลดลงบ้างก็ยังดี

เนื้อหาโดย: teerap
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
teerap's profile


โพสท์โดย: teerap
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: momon, teerap
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
5 เทคนิคเพิ่ม Productivity ที่ช่วยให้คุณทำงานสำเร็จเร็วขึ้นตำรวจ ตามรวบจนครบ 3 โจ๋เหิมเกริม ใช้มีดฟันคู่อริ กลางสถานี BTS1 ใน 8 ของนักเรียนร.ร.รัฐในนิวยอร์ก'ไร้บ้าน'!"ช็อกแป๊บ! เจอ 'หลวงพี่เท่งตัวจริง' เดินบิณฑบาต คนถามหนังหรือชีวิตจริง"อันตราย! คนจีนจ้างแพ็คอาหารเสริมปลอม ขายผ่านออนไลน์ในไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลิลลี่ เหงียน" สวนกลับ "ปู มัณฑนา"..อย่าลืมเอาเงินมาคืนกะxsี่ผู้มีพระคุณด้วยเงินดิจิทัลเฟส 3 คนทั่วไป เงินเข้าเมื่อไหร่ ได้เงินสดไหม วิธีเช็กสถานะทางรัฐอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"หวังเซียนเฉา นักการทูตผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ถัง‘ขนม ศศิกานต์’ เลิก ‘ครูเต้ย อภิวัฒน์’ ทั้งที่เพิ่งคลอดลูก คนที่ 2 จากกันด้วยดี ไม่มีมือที่ 3
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ปริศนาในภาพเขียน Salvator Mundi โดย Leonardo da Vinciแม้รวยเท่าใดอย่างไรก้ต้องเกิดตายไม่สิ้นสุด จะหยุดได้ก็เพียงด้วยยอดแห่งบุญ"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอม5 เทคนิคเพิ่ม Productivity ที่ช่วยให้คุณทำงานสำเร็จเร็วขึ้น
ตั้งกระทู้ใหม่