รีวิวหนังดัง CIVIL WAR วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด
จะเกิดอะไรเมื่อแผ่นดินสหรัฐอเมริกาที่เปราะบาง ได้เกิดกลุ่มกบฎที่หมายจะล้มล้างการปกครองของรัฐบาล และหมายจะสังหารประธานาธิบดีอีกด้วย ปรดเทศที่ขึ้นว่ามีความศิวิไลซ์กลับกลายเป็นพื้นที่แห่งความรุนแรงและไม่ปลอดภัย จะว่าไปแล้ว...ในชีวิตจริงก็เคยเหมือนจะบานปลายเหมือนในเรื่องเช่นกัน
ผลงานการกำกับชวนเขย่าขวัญของ Alex Garland ที่จะพาคนดูไปเสี่ยงตายไปช่างภาพของสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่ต้องไปเก็บภาพบรรยากาศของสงครามและความเสื่อมโทรมระหว่างทางที่เกิดขึ้น บางครั้งก็ทำคนดูช็อกจากความระทึกที่ลุ้นว่าเขาจะรอดหรือไม่
เรื่องย่อ
Lee ช่างภาพสาววัยกลางคนร่วมมือกับ Joel ชายหนุ่มอารมณ์ยียวนกวนบาทา ได้ตกลงจะเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงเพื่อเก็บภาพบรรยากาศของสงครามกลางเมือง โดยเป็นการสู้รบระหว่างผู้แบ่งแยกดินแดนปะทะกับรัฐบาล
ครั้งนี้จะมีลุง Sammy และวัยรุ่นสาวอย่าง Jessie ที่อยากเดินทางไปเก็บภาพครั้งนี้ด้วย โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าความปรารถนาในการเป็นช่างภาพให้กับนักข่าวนั้น เวลาลงพื้นที่จริงมันน่ากลัวมากขนาดไหน เพราะไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าจะโดนลูกหลงเข้าตอนไหน ระวังตัวอย่างไรก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100%
พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลากับการเดินทางที่ลำเข็ญ ระหว่างทางจะต้องเจอกับทหารเถื่อน กลุ่มพวกหัวรุนแรงที่ฆ่าคนตามใจชอบ ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ทำข่าวที่กรุง Washington DC ก่อนที่กองกำลังตะวันตก (ผู้แบ่งแยกดินแดน) จะบุกยึดทำเนียบขาวได้สำเร็จเสียก่อน
นักแสดงนำ
- Kirsten Dunst รับบททเป็น Lee
- Wagner Moura รับบทเป็น Joel
- Cailee Spaeny รับบทเป็น Jessie
- Stephen McKinley Henderson รับบทเป็น Sammy
- Nick Offerman รับบทเป็น President
- Nelson Lee รับบทเป็น Tony
- Evan Lai รับบทเป็น Bohai
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.หนังสะท้อนถึงแง่มุมความกลัวของผู้สื่อข่าว (ช่างภาพ) ที่ต้องผจญในพื้นที่เสี่ยง หลายครั้งต้องเสียสละ บางคนก็รอด บางคนก็ไม่รอดกลับมา ขึ้นอยู่กับไหวพริบและสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เพราะคนที่มีปืนอยู่ในมือ บางครั้งก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็ต้องถือว่าหนังถ่ายทอดความหมายออกมาได้ดี
2.หนังชวนคนดูตั้งคำถามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนักข่าวจะถ่ายภาพ แต่ไม่ถามกับตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะไม่อย่างนั้นมันจะช็อก แล้วทำงานต่อไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องของประเด็นอ่อนไหวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วย
3.หนังไม่ได้บอกสาเหตุว่าอะไรคือความขัดแย้งของสงครามกลางเมืองนี้ แค่สื่อว่ากองกำลังตะวันตกที่เป็นผู้แบ่งแยกดินแดนเป็นทหารของอเมริกาส่วนหนึ่งที่หมายจะยึดทำเนียบขาว และหมายจะสังหารประธานาธิบดีเท่านั้น
4.แน่นอนว่าความรุนแรงระหว่างทางมันมีอะไรแฝงอยู่มากมาย ทั้งการทรมานเหยื่อที่มาลักขโมยของ การใช้อาวุธปืนของทหารด้วยความคึกคะนอง ศพกลาดเกลื่อนระหว่างทางในสภาพสยดสยอง เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้จริงในภาวะวิกฤติสงคราม ทำให้หนังเป็นเรต R
5.งบประมาณทุนสร้างค่อนข้างสูงจากการออกแบบฉากสงครามในตอนท้ายเรื่อง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในองค์สุดท้ายของเรื่องให้ความบันเทิงในแง่ของ Action ได้พอสมควร
6.หนังค่าย A24 ไม่ใช่หนังสนุกหรือเป็นหนังตลาดที่คนให้ความสนใจ แต่เป็นหนังที่มีอิสระในความเป็นตัวของตัวเองในการสื่อสารกับคนดู ด้วยรูปแบบที่เรามักไม่คุ้นชิน ใครคาดหวังฉาก Action มันสะใจ บอกเลยว่าผิดหวัง หนังต้องการสื่อถึงความกดดันและความเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นของคนในทีม
7.การแสดงของ Kirsten Dunst ทรงพลังมีน้ำหนักต่อการดำเนินเรื่อง ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน Cailee Spaeny ก็มีความน่ารักและให้ความรู้สึกน่าหมั่นไส้ที่พาให้คนรอบข้างต้องตกระกำลำบากเผชิญความซวยไปด้วย