รีวิวหนังดัง X-MEN DARK PHOENIX
ปิดตำนานภาคสุดท้ายแห่งทีม X-MEN โดยสตูดิโอ 20 Century Fox ภาคสุดท้ายที่จะพูดถึงบริบทของ X-MEN ในแง่มุมที่พวกเขายังไม่เคยพบพานมาก่อนและนำไปสู่ความดาร์กสุดขั้วที่ไม่มีใครคาดคิด
ผลงานการกำกับของ Simon Kinberg ที่จากเดิมเป็นมือเขียนบท ก็ขอขยับชั้นมาเป็นผู้กำกับครั้งแรก เพื่อจะได้ถ่ายทอดในแง่มุมที่เขาต้องการจะนำเสนอจริงๆ
เรื่องย่อ
Mystique,Hank Mccoy,Scott Summers,Strom,Kurt Wagner,Peter Maximoff และ Jean Grey ยกทีมออกปฏิบัติการช่วยนักบินอวกาศจากพายุสุริยะ โดยมี Charles Xavier เป็นหัวหน้าในการออกคำสั่งปฏิบัติการ การช่วยเหลือสำเร็จ แต่เวลาไม่มากพอที่ Jean จะหนีออกมาทัน
เธอได้รับพลังงานสุริยะ แต่รอดชีวิตมาได้ เธอจึงกลายเป็น Phoenix
Jean Grey กลายเป็นคนที่ควบคุมพลังมหาศาลของตนเองไม่ได้ เธอกลายเป็นภัยต่อคนรอบข้าง แม้แต่ Erik Lehnsherr (Magneto) ก็ยังกล้าปฏิเสธเธอ
มีเพียง Vuk มนุษย์ต่างดาวจากนอกโลกอาศัยรูปกายหยาบจากร่างมนุษย์ Vuk เท่านั้นที่ให้การต้อนรับ Jean เป็นอย่างดี พร้อมทีมมนุษย์ต่างดาวอีกมากที่พร้อมยึดครองโลก
นักแสดงนำ
- James McAvoy รับบทเป็น Professor Charles Xavier
- Michael Fassbender รับบทเป็น Erik Lehnsherr, Magneto
- Sophie Turner รับบทเป็น Jean Grey, Phoenix
- Jennifer Lawrence รับบทเป็น Raven, Mystique
- Nicholas Hoult รับบทเป็น Hank McCoy, Beast
- Tye Sheridan รับบทเป็น Scott Summers, Cyclops
- Jessica Chastain รับบทเป็น Vuk
- Evan Peters รับบทเป็น Peter Maximoff, Quicksilver
- Alexandra Shipp รับบทเป็น Ororo Munroe, Storm
- Kodi Smit-McPhee รับบทเป็น Kurt Wagner, Nightcrawler
- Ato Essandoh รับบทเป็น jones
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.เนื้อเรื่องของหนังน่าสนใจ ใครที่ดูตัวอย่างภาพยนตร์แล้วอาจคิดว่าตัวร้ายของเรื่องดูไม่น่าจะมีอะไร แท้จริงแล้วนี่คือตัวร้ายที่ X-MEN ไม่เคยพบเจอมาก่อน แถมยังเป็นตัวร้ายที่ฆ่าไม่ตายด้วยอาวุธปกติอีกด้วย
2.มีการลดตัวละครคนสำคัญออกไป นี่คือสิ่งที่อึ้งและ Surprise คนดูพอสมควรที่หนังกล้าจะทำในสิ่งที่แตกต่างและฉีกกรอบเดิมๆออกไปอย่างชัดเจนในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน มันทำให้หนังดูดาร์กสมชื่อ และลึกลับมากพอจนเดาตอนจบไม่ออกเลยทีเดียว
3.การแสดงของแต่ละคนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ไม่มีใครโดดเด่นแย่งซีนได้ นอกจากตัวของ Jean Grey เอง เพราะหนังให้บทบาทและถือเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักของภาคนี้
4.ฉาก Action และการต่อสู้ก็ถือดุเดือดและให้ความบันเทิงได้อยู่ แต่องค์ประกอบโดยรวมกลับทำให้หนังไม่เป็นที่น่าจดจำ กล่าวคือดูจบแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ Wow เหมือนหนัง superhero เรื่องอื่นๆ น่าเสียดายเหมือนกันกับประเด็นที่เกิดขึ้น หนังสามารถทำออกมาได้ดีกว่านี้แต่ก็ไปได้ไม่ถึงมากพอ
5.วายร้ายประจำภาคนี้ดูแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ดูลึกลับน่าค้นหา และเป็นคนที่พลังอำนาจอยู่ในมือเต็มพิกัด น่าเสียดายอีกเหมือนกันที่เราไม่ได้เห็นเธอใช้พลังที่ว่าต่อกรกับเหล่า X-MEN ให้มากกว่านี้ เหมือนหนังเจอทางตันและหาที่ลงไม่ได้ เลยเกิดอาการเป๋ ทิศทางของหนังเริ่มเสีย แล้วเข้าสู่บทสรุปคือการจบแบบตรงตัวเลย นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นักวิจารณ์หลายสำนักให้คะแนนไปในทางลบ
6.ในภาคนี้เราจะได้เห็นปัญหาของ Jean Grey ในวัยเด็กแตกต่างจากภาคก่อนคือ X-MEN THE LAST STAND (2006) มันทำให้เราได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของตัว Jean ที่หล่อหลอมให้เธอเป็นคนบุคลิกอย่างในปัจจุบัน