Mangalica หมู(ขน)หยอง ของฮังการี ว่ากันว่าเนื้ออร่อยที่สุดในโลก
เห็นรูปแล้วเชื่อว่าหลายคนคงคิดในใจว่า หมูหยองของแท้ เพราะขนมันหยิกหยอยซะขนาดนั้น โดย Mangalica เป็นสายพันธุ์หมูพื้นบ้านในฮังการี มีการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 หมูสายพันธุ์นี้มีลักษณะพิเศษอยู่ที่ขนของมัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับขนของแกะ จนได้ฉายาว่า หมูแกะ ถือเป็นหมูที่หายากมีเพาะเลี้ยงเพียงไม่กี่ฟาร์มบนโลก ตัวของมันมีน้ำหนักได้ถึง 350 ปอนด์ ในช่วงฤดูร้อนจะมีการตัดขนเพื่อให้มันได้ระบายความร้อนออกไปจากตัว ขนของหมูพันธุ์นี้อาจเป็นสีดำหรือสีแดง แต่ส่วนใหญ่มักเป็นสีบลอนด์ หมูสายพันธุ์อื่น ๆ เพียงชนิดเดียวที่ระบุว่ามีขนยาวคือ Lincolnshire Curly Coat ของอังกฤษที่สูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน Mangalica เป็นหมูตัวสุดท้ายที่มีอยู่แกะที่ไม่ธรรมดาตัวนี้เกือบจะสูญพันธุ์ไปในช่วงปี 1990 เมื่อมีหมูเหลืออยู่ไม่ถึง 200 ตัว ในความเป็นจริง Mangalitsa เป็นหนึ่งในสุกรที่อ้วนที่สุดในโลกโดยมีไขมันคิดเป็น 65% ถึง 70% ของน้ำหนักตัว เนื้อของมันถือเป็นเนื้อหมูที่อร่อยที่สุดในโลก เนื้อของหมู Mangalica มีสีแดงหินอ่อนสูงมีไขมันสีขาวครีมและมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติสูง เนื่องจากอาหารตามธรรมชาติข้าวสาลีข้าวโพดและข้าวบาร์เลย์ น้ำมันแมงกาลิกามีน้ำหนักเบากว่าและละลายที่อุณหภูมิต่ำกว่าน้ำมันหมูชนิดอื่นเนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า หมูประเภทน้ำมันหมูลดลงจากความนิยมในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อผู้คนเรียนรู้ว่าไขมันอิ่มตัวเป็นอันตรายต่อสุขภาพ สายพันธุ์ลดลงอย่างรวดเร็วและถูกแทนที่ด้วยสายพันธุ์ที่ผอมลงและเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นโดยมีเนื้อสัตว์มากขึ้นและมีไขมันน้อยลง ในตอนท้ายของปี 1970 สุกร Mangalitsa ในออสเตรียสามารถพบได้ในอุทยานแห่งชาติและสวนสัตว์เท่านั้นและยังมีแม่สุกรพันธุ์น้อยกว่า 200 ตัวในฮังการี แต่ในช่วงกลางปี 1980 ความสนใจในสายพันธุ์ Mangalitsa ได้รับการต่ออายุและในปี 1994 ได้มีการจัดตั้งสมาคมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์หมู Mangalica แห่งชาติฮังการีขึ้นเพื่อปกป้องสายพันธุ์นี้ ในอีก 20 ปีข้างหน้าไส้กรอก Mangalica แบบดั้งเดิมพร้อมปาปริก้าหวานก็มีจำหน่ายในตลาดฮังการีอีกครั้ง ปัจจุบันมีแม่สุกรมากกว่า 8,000 ตัวในฮังการีผลิตสัตว์ 60,000 ตัวในแต่ละปี สิ่งนี้ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่พิเศษมากและมีจำนวนจำกัด แต่ก็พ้นจากเขตอันตรายสำหรับการสูญพันธุ์แล้วนั่นเอง