รีวิวหนังดัง DEADPOOL & WOLVERINE เดดพูล&วูล์ฟเวอรีน
ห่างหายไปนาน 6 ปี สำหรับ DEADPOOL ก็ได้รับการสานต่อ จากทีแรกที่มีการเปลี่ยนสตูดิโอ เปลี่ยนผู้บริหารจนคนดูคิดว่าคงไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ปรากฏว่านี่ไม่ได้มาเล่นๆ แต่พ่วง Logan The Wolverine เข้ามาด้วย
ศาสดา Marvel พูดไม่หยุดรายนี้จะได้ไปต่อในภาคที่ 3 ภายใต้การกำกับดูแลของ Marvel Studios โดยการกำกับของ Shawn Levy โดยยังคงเอกลักษณ์ของดิบ ห่าม ลามก เป็นเรท R เช่นเคยเหมือนภาคที่ผ่านมา
เรื่องย่อ
Wade Wilson ถูกเจ้าหน้าที่จาก TVA (Time Variance Authority) จับกุมเพื่อพบกับ Mr.Paradox เขาชักชวน Wade ร่วมมือกับเขาทำลายเส้นกาลเวลา ลิขิตชีวิตตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม Avengers ได้ตามใจชอบ มีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในจักรวาลเดิม ขอแค่ทำลายจักรวาลของตัว Wade เอง
Wade ปฏิเสธเพราะยังมีคนที่เขาแคร์อยู่ในจักรวาลนั้น เขาพยายามหาทางทุกอย่างเพื่อรักษา Timeline เดิมไว้ เขาได้ตามหา Logan The Wolverine จากพหุจักรวาล แต่สุดท้ายทั้ง Wade กับ Logan ก็ถูกส่งไปยัง The Void
The Void พื้นที่สำหรับสิ่งที่ถูกทิ้งร้างและถูกลืม เป็นสิ่งที่ก่อนจะถูกฆ่าแล้วเลือนหายไปตลอดกาล ณ ที่นั่น ถ้าไม่ถูก Alioth (อะไลออท) อสูรหมอกกลืนกิน ก็ต้องเป็นข้ารับใช้ให้กับ Cassandra Nova
ทางออกจาก The Void คือการรวบรวมกำลังพลเหล่า superhero ตรงชายขอบมาสู้รบกับ Cassandra Nova แล้วบีบให้เธอเปิดทางออกกลับขึ้นไปสู่โลกข้างบน
นักแสดงนำ
- Ryan Reynolds รับบทเป็น Wade Wilson
- Hugh Jackman รับบทเป็น Logan, Wolverine
- Emma Corrin รับบทเป็น Cassandra Nova
- Matthew Macfadyen รับบทเป็น Paradox
- Morena Baccarin รับบทเป็น Vanessa
- Rob Delaney รับบทเป็น Peter
- Leslie Uggams รับบทเป็น Blind Al
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.การดำเนินเรื่องถือว่าโอเค ไม่ซับซ้อน แต่คนที่ไม่เคยดูสองภาคแรกของ DEADPOOL มาก่อนจะมึนงงอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่า Peter เพื่อนของพระเอกคือใคร ไม่รู้ว่าตัวละครเก่าๆจากค่าย Marvel ยุค 2000 มันเป็นใครถึงมีพลังอะไรแบบนี้
2.ฉากต่อสู้ถึงใจเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แม้คิวบู๊จะไม่สะใจเท่าสมัยผู้กำกับอย่าง Tim Miller และ David Leitch จากสองภาคแรก แต่ก็ถือว่ายังคงความมันได้อยู่ เสียดายตรงที่ตอนจบไม่ได้ห้ำหั่นกับตัวร้ายมากพอ เพราะมีดดาบมันต่อกรกับพลังวิเศษได้ยาก
3.ชื่นชมการนำตัวละคร Wolverine ที่สุขุมดุดันมาตัดกับความกวนบาทาของ Deadpool มันเข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่เบื่อเหมือนภาคก่อนๆ ต้องขอบคุณ Hugh Jackman ที่ยอมมาเป็น Wolverine อีกครั้ง ถือเป็นสีสันที่ครีเอเตอร์รอคอยมานานและเชื่อว่าไม่มีใครแทนที่เขาได้
4.มีฉากทะลุจอแบบเน้นๆอยู่ 2-3 ฉาก ใครที่ดูแบบสามมิติคงจะได้อรรถรสไปอีกแบบ พร้อมมุกลามกสัปดนแบบจัดเต็ม มีทั้งมุกเอาใจแฟนหนัง มุกแป้ก และมุกที่สอบผ่าน มันเป็นสิ่งที่ Deadpool รู้ตัวว่าตนเองอยู่ในสถานะไหน การจัดวางมุกหรือการแซวตัวเองพร้อมทั้งแซวคนอื่นจึงออกมาเข้าท่า นอกจากนี้ยังมีตัวละครพิเศษอีกมากที่ไม่ปรากฏในตัวอย่าง แน่นอนว่าอะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น...ก็จะได้เห็น
5.ถ้าเป็นไปได้อยากให้ใช้ music score จาก Rob Simonsen แทนการใช้เพลงมาประกอบมากกว่า บางครั้งเพลงที่ใช้ ครีเอเตอร์รู้สึกว่ายังไม่เข้าถึงอารมณ์ของหนังสักเท่าไหร่
6.หนังมี Mid credit 1 ตัวที่เป็นเบื้องหลังของ 20 century fox จากหลายเรื่องมาให้หายคิดถึงพร้อมรำลึกถึงวันเก่าๆและ End Credit 1 ตัวที่บอกได้เลยว่ามุกตลกถือว่าสอบผ่าน
7.อีกเรื่องที่อยากให้ MCU (Marvel Cinematic Universe) ทำ ก็คือเลิกเอาเรื่องราวจากใน serie มาปนในภาพยนตร์ เพราะครีเอเตอร์ไม่ชอบดู serie การมาดูภาพยนตร์จะทำให้ไม่อินกับบางบริบท เช่น TVA คืออะไร มีหน้าที่เกี่ยวกับอะไร ทำไมถึงมายุ่งเกี่ยวเส้นเวลาของ Timeline แต่ละจักรวาล แล้ว Ankle Being คืออะไร เป็นต้น
8.คนที่ดูมาแล้วอาจจะงงกับที่มาของ Cassandra Nova เวลาที่เธอพูดถึงตัวเองว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับ Charles Xavier แต่กับคนที่อ่านการ์ตูน X-MEN มาก่อนจะเข้าใจว่าเธอคือปรสิตต่างดาวแฝงมาในครรภ์ เป็นแฝดน้องของ Charles Xavier ซึ่งถือว่าไม่ใช่พี่น้องโดยสายเลือด
9.เพลงประกอบภาพยนตร์ในภาคนี้ที่ครีเอเตอร์มองว่าเด็ด คือ Bye Bye Bye โดย NSYNC และ Like A Prayer โดย Madonna
10.ถ้าถามว่ามันเป็นหนังที่จะกอบกู้จักรวาล MCU สมกับศาสดา Marvel มาโปรดหรือไม่ ส่วนตัวครีเอเตอร์ว่ามันยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าในแง่ของการทำรายได้แล้วละก็...อันนี้ก็พอกอบกู้ความน่าเชื่อถือกลับมาได้บ้าง แต่จะยั่งยืนหรือไม่ก็ต้องดูเรื่องอื่นๆในจักรวาล MCU กันต่อไป