อาหารพื้นเมืองเหนือ : ต๋ำเตา หรือ ลาบเทา
🎼🎶ป่าเหนือเมื่อหน้าดอกไม้บาน
ลมฝนบนฟ้าผ่านฟ้ามองดั่งม่านน้ำตา
น้ำฝนหล่นจากฟากฟ้า
ขังแก่งเหมือนแอ่งน้ำตาไหลตกจากผาแว่วฟัง
ป่าเหนือเมื่อไปได้พบมา
เมืองเหนือเมื่อน้ำบ่าเลาะธารซ่านซ่าเคล้าดัง
น้ำไหลไปหลากมากครั้ง
หมุนวนสายชลเหมือนดังไหลหลั่งเป็นวังน้ำวน
ริมฝั่งวังน้ำค่ำลงคงมีแสงจันทร์
คืนหนึ่งคืนนั้นพบกันน้องเอยสองคน
เมืองเหนืออนงค์นั้นคงมีมนต์
เป่าหัวใจเสียจนก่นให้ใฝ่ฝัน...🎵🎶
เมนูสุดพื้นบ้านแต่หากินยากยิ่งของค่ำคืนนี้ ผู้เขียนจะชวนทุกคนมาช่วยกันรังสรรค์ "ต๋ำเตา หรือ ลาบเทา" เป็นเมนูที่หลายคนโปรดปราน แต่ก็มีหลายๆคนที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง รับรองว่าแซ่บอีหลี สารอาหารประโยชน์เยอะ
เทา” คือสาหร่ายน้ำจืดสีเขียว มีลักษณะเป็นเส้นเล็กยาวคล้ายผม สีเขียวสด มักอยู่ในหนองน้ำหรือแหล่งน้ำใสสะอาดและน้ำนิ่ง ในระดับน้ำไม่ลึก สามารถมองเห็นด้วยสายตาเกาะกลุ่มกันอยู่เป็นก้อนๆ
โดย “เทา” ที่ยังอ่อนจะลอยอยู่ใต้น้ำ เหมาะนำไปปรุงเป็นอาหารรับประทาน สำหรับเทาแก่หมดอายุแล้วจะลอยตัวขึ้นเหนือน้ำ ไม่สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ชาวบ้านจะใช้มือเกี่ยวเก็บเอาเทาสีเขียวที่อยู่ใต้น้ำแล้วนำมาล้างเก็บเศษไม้ ใบหญ้า หรือสิ่งเจือปนในเทาออกให้หมดจนสะอาดเห็นเป็นเส้นเทาสีเขียวสด จากนั้นจึงนำมาประกอบปรุงเป็นอาหารมื้อพิเศษรับประทานในครอบครัว อีกทั้งชาวบ้านภาคเหนือ/ อีสาน นิยม “ลาบเทา” กินร่วมกันในหมู่เครือญาติหรือเพื่อนบ้าน
วัตถุดิบ ในการปรุงต๋ำเตา/ ลาบเทา
1. เทา
2. ปลาช่อนนา หรือ ปลาทูนึ่ง (ใครชอบหัวหอยนา ใส่เพิ่มได้ )
3. พริกป่น
4. กระเทียม 1 หัว
5. หอมแดงซอย 8 หัว
6. ตะไคร้ 5 ต้น (ซอย, และอีก1ต้น ใช้ทุบต้มปลา)
7. ผักแพง
8. มะเขือขื่น/ เม็ดผักดีด หรือจะใช้มะเขือพวง
9. เกลือ
10. กะปิ
11. น้ำปลาร้า
12. ต้นหอม/ ผักชี
เตรียมวัตถุดิบทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
จากนั้นนำเทาที่ล้างทำความสะอาดแล้ว มาหั่นตัดความยาว จะได้รับประทานง่ายขึ้น
นำกระทะตั้งไฟใส่เกลือเล็ก ใส่ตะไคร้ทุบ ต้มจนน้ำเดือด จากนั้นใส่ปลาช่อนนา หรือปลาทูลงไป ใครชอบปลาชนิดไหนเลือกได้ตามใจปรารถนา แต่ผู้เขียนทักกินปลาทูเด้อจ้า มันมีกลิ่นหอมดี เราต้มจนเดือดอีกครั้ง
ถัดมาใส่น้ำปลาร้าตามลงไป
จากนั้นนำตะไคร้ซอย หอมแดงซอยแบ่งครึ่งหนึ่ง และกระเทียม ลงไปโขลก ตามด้วยพริกป่น และเนื้อปลาที่เราแกะก้างออกเรียบร้อย
นำเทาลงครกโขลกแต่เบามา ให้เครื่องปรุงสมุนไพรเข้ากันกับเทา
มาถึงขั้นตอนนี้จะมีวิธีต่างกันแล้วล่ะ บางคนนำทุกอย่างลงหม้อหรือภาชนะ และทำการปรุงลาบกันแบบสดๆ ไม่ผ่านความร้อน แต่ผู้เขียนขออนุญาตทำแบบผ่านความร้อนปรุงสุกสดใหม่ เพราะเป็นคนธาตุเบา ถ้าไม่ปรุงสุกอาจไม่ส่งผลดีต่อท้องไส้ได้
จึงขอมาต่อในขั้นนี้ โดยนำน้ำต้มปลามากรองเอาเศษกากออก ให้เหลือแต่น้ำต้มใสๆ ใส่หม้อตั้งไฟกลาง
ขั้นต่อมาเอาส่วนผสมทุกอย่างที่โขลกเอามาต้มให้นัวร์ผ่านความร้อนอีกสักครั้ง และใส่หัวหอยนาต้มสุกแล้วลงสมทบ
ชิมรสตามใจชอบ ยกลงจากเตา แล้วนำผักสมุนไพรต่างๆที่หั่นซอยไว้ตามลงไป จะได้ลาบเทารสแซ่บนัวร์ หากินยากแท้น้อ
ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอม/ผักชีซอยอีกจักหน่อย แต่งหน้าด้วยปูนาต้มตัวโตก้ามใหญ่ ที่จับได้พร้อมกันตอนเก็บลาบเทาจากหนองบึง
เสร็จแล้วเด้อจ้า เมนูสุดพิเศษของค่ำคืนนี้ เป็นเมนูพื้นบ้านติดดินแบบสุดๆ แค่รสชาติรับรองว่าเด็ดอร่อยจนขอเติม