ฝุ่น pm 2.5 อันตรายแฝงที่ต้องใส่ใจ
สมัยผู้เขียนยังเด็ก จำได้ว่าฝุ่น pm 2.5 ที่บ้านมีจำนวนมากเหมือนกัน อย่างเช่น ฝุ่นจากขี้ควายใต้ถุนบ้านไม้ยกสูง ฝุ่นจากการเผาไหม้เศษฟืน เศษไม้เมื่อประกอบอาหาร แต่สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว กลับไม่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กกระจายปกคลุมในอากาศมากมายเหมือนสมัยนี้ เดินไปไหน หรือปั่นจักรยานยังไง ไม่มีใครได้ปิดจมูก เพราะอากาศที่บ้านนานั้นแสนจะสดชื่น หายใจได้เต็มปอด
แตกต่างจากปัจจุบัน ในปี 2568 ผ่านมาหลายทศวรรษ ฝุ่น pm 2.5 วันนี้ มีปรากฏทูกพื้นที่ ทั้งในเขตชุมชนหนาแน่น และรอบนอกเมือง นั่นคงเพราะ ความเจริญเติบโตของเมืองที่มีการปลูกร่างสร้างอาคาร มลพิษต่างๆ จึงตามมา ไม่เว้นแม้แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่าง pm 2.5
มองเผินๆ ฝุ่น pm 2.5 อาจไม่ได้มีผลร้ายอะไรต่อสิ่งมีชีวิตมากนัก แต่อย่าลืมไปว่ามนุษย์ สัตว์ หรือพืช ต่างก็ต้องอาศัยการหายใจเพื่อให้อยู่รอด ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นทางผ่านของ pm 2.5 ก็คือ ระบบหายใจ
ด้วยความที่ฝุ่น pm 2.5 มีขนาดเล็กมากๆ จนเรามองไม่เห็น เมื่อหายใจเข้าสู่ระบบหายใจ อันเริ่มจากจมูก หรือปาก ผ่านเข้าไปยังหลอดลม ปอด รวมถึงกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจ ฝุ่นละอองที่มีขนาดจิ๋วมากๆ เข้าสู่กระแสเลือดได้แล้ว คงพอเดาได้ว่า เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะเข้ากระแสเลือด ต้องมีผลเสียกับร่างกายอย่างแน่นอน
เริ่มตั้งแต่การสะสมละอองจิ๋วของ ฝุ่น pm 2.5 ระยะแรก อาจแค่รู้สึกระคายเคือง ไอ หรือจาม แต่ถ้าสะสมมากขึ้นๆ ก็กลายเป็นโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด อย่างที่เคยมีข่าวคุณหมอป่วยด้วยมะเร็งปอดที่มีสาเหตุจากการได้รับฝุ่น pm 2.5 แล้วเสียชีวิตนั่นเอง
ส่วนการป้องกัน ทำได้ง่ายๆ คือ สวมหน้ากากอนามัย N95 สม่ำเสมอ หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง หรือทำงานข้างนอกอาคาร แม้แต่การออกกำลังกายกลางแจ้งก็ควรระมัดระวังให้มาก และสวมใส่หน้ากากอนามัย N 95 ทุกครั้ง โดยเฉพาะใครก็ตามที่ร่างกายอ่อนแอ หรือป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจอยู่แล้ว ไม่ว่าเด็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงวัย ต้องใส่ใจให้มากขึ้น เพื่อสวัสดิภาพในชีวิตที่ดีเสมอ
ภาพประกอบทั้งหมดจาก Canva Pro