ไขปริศนากับ "Tutankhamun" ที่ ”องคชาต” ยังตั้งชูชัน
วันนี้จะมากล่าวถึงฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งนั่นก็คือ "ฟาโรห์ตุตันคามุน" นั่นเอง แต่ไม่ได้มากล่าวถึงการค้นพบสุสานเพราะนั่นหลายๆ คนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่จะมาเอ่ยถึงสิ่งที่หลายคนคงยังไม่รู้ซินะว่าพระองค์นั้น..เป็นมัมมี่ที่แตกต่างจากการทำมัมมี่ของฟาโรห์องค์อื่นๆ เพราะยังเป็นมัมมี่ที่ "อวัยวะเพศ" ของพระองค์ยังตั้งชู 90 องศากับพื้นโลก
"ฟาโรห์ตุตันคามุน" พระองค์เป็นใครและเป็นลูกใคร ?
ชื่อ “ตุตันคามุน” (Tutankhamun) หรือจะอ่านออกเสียงว่า “ตุตันคาเมน” (Tutankhamen) ก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะภาษาอียิปต์โบราณมีแต่พยัญชนะล้วนๆไม่มีตัวสระ พระนาม “ตุตันคามุน” หมายถึงภาพลักษณ์ที่มีชีวิตของ "เทพอมุน" (Amun) ที่เป็นเทพสูงสุดของอียิปต์นั้นเอง
ทรงเป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ราชวงศ์ที่ 18 (มีพระชนม์อยู่ในราว 1341–1323 ปีก่อนคริสตกาล) กับอาณาจักรที่เรียกว่า "ราชอาณาจักรใหม่ (New Kingdom)" เป็นยุคแห่งทองที่เจริญรุ่งเรือง วิจิตรตระการตาเลยก็ว่าได้ กับการสร้างอนุสรณ์ที่ใหญ่โตมโหฬาร และเป็นมหาอำนาจในช่วงสมัยนั้น
ส่วนบิดาคือ "ฟาโรห์อเคนาเตน" (Akhenaten) มารดาคือ "คิยา (Kiya)" เป็นมเหสีรอง ส่วนมเหสีหลวงก็คือ "เนเฟอร์ติติ" ดังนั้นเนเฟอร์ติติจึงมีฐานะเป็น "แม่เลี้ยง" และเลี้ยงดูฟาโรห์ตุตันคามุน มาด้วยอีกคนเช่นกันนั้นเอง
ด้านชีวิตสมรสของ "ฟาโรห์ตุตันคามุน"
พระองค์สมรสกับน้องสาวร่วมบิดาเดียวกัน นามว่า “อังเคเซนามูน” (Ankhesenamun) เป็นธิดาคนที่ 3 ของพระนางเนเฟอร์ติติ (จากจำนวนธิดา 6 คน) แต่น่าเสียดายพระองค์มีบุตรธิดา 2 คน แต่ก็มาด่วนเสียชีวิตไปซะก่อน หลังคลอดได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
แล้วทำไม ? มัมมี่ของ"ฟาโรห์ตุตันคามุน" จึงต้องทำให้ "องคชาต" ตั้งชัน ?
พระองค์ทรงถูกฝังที่ "หุบเขาแห่งกษัตริย์" (Valley of Kings) สุสาน KV 62 ใกล้กับ "ดีร์ เอล บาฮารี (Deir el-Bahari)" เมื่อราว 3,000 ปีก่อน เป็นฟาโรห์มัมมี่ที่ถูกฝังโดยปราศจาก "หัวใจ" โดยไม่ได้ถูกทดแทนด้วย "ฮาร์ทสคาแร็บ" ทั่วทั้งโลงศพปกคลุมด้วยของเหลวสีดำหนา และอวัยวะเพศก็ถูกแยกส่วนทำให้ตั้งตรงชูชัน โดยนักอียิปต์วิทยา "ซาลิมา อิคราม" ให้เหตุผลกับสิ่งผิดปกติทั้งหมดนี้ว่า..
การที่ "อวัยวะเพศ" ของพระองค์ที่ตั้งชันนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุระหว่างการทำมัมมี่แต่อย่างใด แต่มันเป็นความเชื่อและเจตนาที่จะทำให้พระองค์ได้ปรากฎต่อหน้า "เทพโอซิริส" (เทพแห่งยมโลก) ในวิถีทางที่แท้จริงที่จะสามารถเป็นไปได้
จะนำมาซึ่งการฟื้นฟูพลังของโอซิริส ส่วนของเหลวสีดำที่ปกคลุมโลงศพนั้นก็เพื่อทำให้ผิวของพระองค์คล้ายผิวของโอซิริส และหัวใจที่หายไปก็เป็นการเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเทพโอซิริสที่ถูกโดนตัดเป็นชิ้นๆ จาก "เทพเซต" (น้องชายของโอซิริส)
เพื่อเป็นการให้ "ฟาโรห์ตุตันคามุน" นั้นได้ปรากฎต่อหน้าเทพโอซิริส เพื่ออาจจะช่วยยกเลิกการปฎิวัติทางศาสนาที่พระบิดา (ฟาโรห์อเคนาเตน) เป็นผู้ดำเนินการเอาไว้ และเพื่อเป็นการเปลี่ยนการนับถือของชาวอียิปต์ให้ยกเลิกการบูชาเทพเจ้าหลายองค์ หันมานับถือ "อาเทน" (เทพแห่งดวงอาทิตย์) เพียงพระองค์เดียวแทนนั้นเอง
พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างไร ?
สิ้นพระชนม์ราว 1323 ปีก่อนคริสตกาล (ราว 18/19 ชันษา) ครั้นตอนมีชีวิตพระองค์ก็ไม่ได้มีผลงานอะไรโดดเด่นมากนัก และครองราชย์ได้เพียง 10 ปีเท่านั้นก็สิ้นพระชนม์ ซึ่งถือว่าเป็นฟาโรห์ที่มีพระชนม์ชีพน้อยทีเดียวก็จากโลกนี้ไปซะแล้ว
และซึ่งตอนแรกเชื่อกันว่าพระองค์อาจจะถูกลอบปลงพระชนม์โดยคนใกล้ตัวคือ "เสนาบดีอัยย์" หรือไม่ก็ "นายพลโอเรมเฮป" แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะจากการทำ CT Scan ในปี 2005 ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า พระองค์เสียชีวิตจากความรุนแรงใดๆ
แต่อาจเกิดจากการติดเชื้อของบาดแผลกระดูกที่เท้า ที่เป็นไปได้ว่าเพราะอุบัติเหตุรถม้าศึกคว่ำ ทำให้ทราบว่าพระองค์พิการที่เท้า การเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วย พระองค์คงไม่มีโอกาสที่จะนำทัพออกรบกับศัตรูใดๆ และในสุสานของพระองค์ก็มีไม้เท้าอยู่หลายอัน
แต่สุดท้ายแล้วภายหลังก็ได้รับการพิสูจน์ว่า..สาเหตุที่ทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์นั้น..ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากร่างกายที่อ่อนแอ ความด้อยของยีนจากการสมรสกันเองในหมู่พี่น้องในราชวงศ์ เพื่อดำรงสายเลือดบริสุทธิ์ จากการตรวจดีเอ็นเอในยุคปัจจุบันก็พบว่าพระองค์ติดเชื้อมาเลเรีย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สิ้นพระชนม์นั้นเอง
ก็จบกันไปแล้วกับ "ฟาโรห์ตุตันคามุน" กับการไขปริศนาว่า..ทำไม ? องคชาตของพระองค์ในร่างมัมมี่จึงตั้งชูชันนั่นเอง
ขอบคุณภาพและเนื้อหาโดย : กูลเกิล, ไทยพับลิก้า, บล็อกดิท, วิกีพีเดีย