หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“Vlad Tepes Dracula” (วลาดที่ 3) “แดร็กคูล่า” ฉายาจอมเสียบแห่งโรมาเนีย

เนื้อหาโดย Amity609

วันนี้จะพาไปยังประเทศโรมาเนียกันบ้าง ถ้าจะเอ่ยถึง "เคาท์แดร็กคูล่า" หลายคนคงนึกถึงผู้ชายหน้าขาวซีดมีเขี้ยวสวมผ้าคลุมสีดำแดงกันใช่มั้ย ? แต่รู้หรือไม่ ? ว่านิยายสยองขวัญในตำนานของเคาท์แดร็กคูล่าต่างๆนั้น มีที่มาจากท่านผู้นี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นก็ว่าได้

วลาดที่ 3 (Vlad III) คือใคร ?
พระองค์มีฉายาว่า “วลาด ดรากุล” (Vlad Dracul) ซึ่งคำว่า "Dracul" ในภาษาโรมาเนียหมายถึง “ปีศาจ” (Devil) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า "วลาด เซเปส" เกิดเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม (ค.ศ. 1431) ที่ซิกิชวาร่า ทรานซิลเวเนีย ราชอาณาจักรฮังการี นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ทรงเป็นเจ้าชายแห่งวาลาเดีย (Voivode) (ในช่วง ค.ศ. 1431-1476/7) มีน้องชายชื่อ "ราดู" (สมญานามราดูรูปงามหรือ Radu the Handsome) คือมีหน้าตาหล่อกว่า..วลาดที่ 3 พี่ชายนั่นเอง


และครองวาลาเคียถึง 3 สมัย (ในยุคกลางของโรมาเนีย) ช่วงราว ค.ศ. 1456-1462 เป็นช่วงที่ "จักรวรรดิออตโตมาน" เริ่มพิชิตดินแดนคาบสมุทรบอลข่าน ส่วนพระบิดาคือ "วลาดที่ 2 ดรากูล (Vlad II Dracul) เป็นสมาชิกสมาคมมังกร (Order of the Dragon) ตั้งขึ้นเพื่อพิทักษ์ศาสนาคริสต์ในยุโรปตะวันออก

ปูมหลังเกมการเมืองของ 2 พี่น้อง
เกมการในสมัยนั้นช่างสับสนและวุ่นวายแถมโหดร้าย เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเป็นประจำ มีการคานอำนาจกันระหว่างพวกบอร์ยา (ผู้ดีเจ้าของที่ดิน) กับพวกแซ็กซอน (พวกพ่อค้า-ช่างฝีมือ) แถมมีอิทธิพลภายนอกจากฮังการีและออตโตมานอีก 

พระบิดาก็ถูกกลุ่มการเมืองที่มีฮังการีหนุนหลังมาแย่งบัลลังก์ แต่ก็แย่งบัลลังก์คืนกลับมาได้ในภายหลัง จึงต้องยอมอ่อนน้อมต่อสุลต่านอาณาจักรออตโตมาน โดยการส่งของบรรณาการไปถวายพร้อมกับส่งโอรส 2 องค์คือ "วลาดที่ 3" กับ "ราดู" ให้ไปเป็นตัวประกันนั่นเอง

การศึกษาและอุปนิสัยทั้ง 2 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทั้ง 2 พระองค์เติบโตและได้รับการศึกษาในราชสำนักออตโตมาน (ซึ่งในเวลานั้นน่าจะเป็นหนึ่งในที่ๆ มีการศึกษาดีที่สุดในโลก) จึงพูดภาษาเติร์กได้และเข้าใจวัฒนธรรมของออตโตมาน แต่ทั้ง 2 กลับมีนิสัยแตกต่างกันต่ออาณาจักรออตโตมานโดยสิ้นเชิง เพราะน้องชาย (ราดู) ยอมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามและเป็นมุสลิมที่เคร่ง แต่งงานกับผู้หญิงมุสลิม จึงเป็นที่ยอมรับและเป็นมิตรสหายและเป็นแม่ทัพให้กับ "สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2"

วลาดที่ 3 มีความเกลียดชังที่ลึกซึ้งให้กับสุลต่านและเกลียดอาณาจักออตโตมานอย่างมาก จนในปี ค.ศ. 1447 พระบิดาและพี่ชาย (ซึ่งเป็นรัชทายาท) ของวลาดที่ 3 ถูกลอบสังหารโดยถูกฝังทั้งเป็น วลาดที่ 3 จึงถูกปล่อยตัวกลับมา

ชีวิตเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่ค่อยมีใครสนับสนุนแถมปราสาทก็โดนยึดอีก
สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 (ออตโตมาน) มารุกรานอีกจึงเป็นจุดเปลี่ยนของวลาดที่ 3 ไป ช่วงนั้นพวกขุนนางและประชาชนไม่สนับสนุนพระองค์ แต่ต้องการให้ "ราดู" (น้องชาย) ได้ขึ้นปกครองอาณาจักรวอลลาเซียแทน แถมโดนไล่ลงจากบัลลังก์ก็หนาหูขึ้นเรื่อยๆ 

พระองค์จึงไม่มีทางเลือก ก็ต้องไปขอความช่วยเหลือจากเมืองอื่นนั่นก็คือกษัตริย์ฮังการี คือ "แมทเธียส คอร์วินัส" แต่พอไปถึงฮังการีแล้วก็ดันโดนควบคุมตัวทันที พระองค์จึงตกใจมากๆว่าเกิดอะไรขึ้น พอถูกควบุตัว "ราดู" น้องชายก็ได้เข้ามายึดครอง "ปราสาทโพเอนารี่" ของพระองค์ไปแทน แต่ก็ทรงอดทนแม้จะถูกควบคุมตัวที่ฮังการีก็ตาม

ชีวิตสมรสของวลาดที่ 3 มีภรรยา 2 คน 
วลาดที่ 3 มีภรรยาคนแรกมาก่อน ตอนที่ปราสาทโพเอนารี่ถูกยึด นางรู้ความต้องการของราดู และไม่อยากถูกควบคุมตัวจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการกระโดดจากหอคอย  แต่บางตำนานกล่าวกันว่า เธอขอตายดีกว่าที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเติร์ก (มุสลิม)

และแล้ว "แสงสว่าง" ที่รอคอยก็มาถึงวลาดที่ 3 ซะที
วลาดที่ 3 ได้รับข้อเสนอจาก "แมทเธียส คอร์วินัส" ด้วยเงื่อนไข 2 ประการ คือ..
1. เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริตส์นิกายโรมันคาทอลิกเช่นเดียวกับ "แมทเธียส คอร์วินัส" แห่งฮังการี
2. ต้องแต่งงานกับสตรีในราชวงศ์ฮังกาเรียนก็คือแต่งกับ "Ilona Szilágyi" (สตรีชั้นสูงชาวฮังกาเรียน และเป็นญาติของกษัตริย์แมทเธียส) วลาดที่ 3 จึงตอบ "ตกลง"

หลังจากถูกปล่อยตัวและตกลงข้อเสนอ 2 ข้อ "ราดู" น้องชายก็สิ้นชีพพอดี ซึ่งขณะนั้นเมืองวอลเลเซียก็ถูกปกครองโดยพวกออตโนมานอยู่ จากนั้นวลาดที่ 3 ก็นำคนไปขับไล่พวกออตโนมานออกจากเมือง และได้เป็นผู้ปกครองแคว้นวอลเลเซียอย่างสมบูรณ์นั่นเอง




ทายาทของวลาดที่ 3 
นักประวัติศาสตร์บางรายว่าคนแรกชื่อ "วลาด" (Vlad) เช่นกัน รับตำแหน่งหน้าที่การงานกับกษัตริย์แมทเธียส คนที่ 2 ไม่ทราบชื่อ แต่ทำงานกับบิชอปแห่ง Oradea แต่โชคร้ายดันล้มป่วยก็ถูกส่งตัวกลับมาหานางผู้เป็นแม่ (Ilona Szilágyi) จากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตลง แต่บางรายก็บอกว่าเขามีลูก 3 คน หรือบางรายก็ว่า พวกเขาไม่มีทายาทเลย

การสู้รบเพื่อปกป้องยุโรปจากอาณาจักรออตโตมาน 
เมื่อพระสันตะปาปาทรงเรียกร้องก็จึงเกิดสงครามครูเสดเพื่อปกป้องยุโรป วลาดที่ 3 ก็หันมาร่วมมือกับกษัตริย์ฮังการี คือ "แมทเธียส คอร์วินัส" และปฎิเสธที่จะส่งบรรณาการทั้งเงินและทหารให้กับอาณาจักรออตโตมาน โดยกล่าวหาว่าทูตของออตโตมานหลบหลู่พระเกียรติไม่ยอมถอดหมวก (แต่จริงๆคือผ้าโพกผมหรือ Yuban) ต่อหน้าพระพักตร์ แต่จริงๆแล้วมันคือข้ออ้างของวลาดที่ 3 ซะมากกว่า 

และฉายา "จอมเสียบ" สมยานามว่า "แดร็กคูล่า" ก็เริ่มขึ้น
โดยการสั่งให้ประหารทูตด้วยการตอกตะปูลงศีรษะ ทำให้สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ของออตโตมานตัดสินใจบุกวอลลาเซีย วลาดที่ 3 ต่อสู้กับออตโตมานมีอยู่ 2 อย่างคือการรบและแบบกองโจร เพราะมีกำลังน้อยกว่าจึงต้องเอาชนะเพียงแค่การซุ่มโจมตี กองทัพออตโตมานกองทัพแรกก็ตกเป็นเหยื่อคือพวกกองทัพทหารม้า 1,000 คน โดนโจมตีในระหว่างผ่านช่องแคบ จึงถูกจับและได้นำมา "เสียบเป็น"

ใช้ทุกวิถีทางเพื่อหยุดกองทัพออตโนมาน ทั้งเผาทั้งทำลายเสบียง วางยาพิษในแม่น้ำ หรือส่งคนเป็นโรคร้ายเข้าไปปะปนกับทหารในกองทัพออตโตมาน การรบที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นที่เมืองหลวงวอลเลเซีย วลาดที่ 3 เข้าโจมตีในตอนกลางคืน สร้างความเสียหายให้กับกองทัพออตโตมานอย่างมาก โดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 คิดจะเข้าล้อมเมืองวอลเลเซีย แต่ก็ต้องพบว่าภายในเมืองมี คนที่ถูกเสียบปักอยู่ถึงเกือบ 20,000 หลักถูกปักอยู่รอบกำแพงเมือง ซึ่งหลักที่สูงสุดก็คือร่างของแม่ทัพออตโตมานนั่นเอง


ปี 1476 วลาดที่ 3 ก็ทำสงครามกับชาวเติร์ก แบบป่าเถื่อน ทุกครั้งที่จับเชลยศึกมาได้ พระองค์จะให้ทหารตัดไม้แหลมยาวมาปักไว้ที่โล่งแจ้ง แล้วเอาเชลยศึกมาเสียบแบบเป็นๆ คือการใช้ไม้แหลมเสียบทะลุจากทวารหนักทะลุไปจนถึงปาก บางทีก็เอาเชลยศึกนับหมื่นมาเสียบทีเดียว แล้วนั่งฟังเสียงร้องโหยหวนของเชลยศึกที่ทรมานตายอย่างช้าๆ อย่างสบายอารมณ์ 

หรือนำไปปักไว้ตามที่ต่างๆ ทั้งทุ่งนา ข้างทาง เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่เหล่าศัตรู พอทำไปนานๆเข้า ชื่อเสียงของวลาดที่ 3  ก็ถูกเรียกว่า "วลาดจอมเสียบ" (Vlad the Impaler) เพราะนิสัยที่ชอบเสียบคนเป็นๆนี่เอง

ไม่เพียงแค่นั้นมีผู้คนเริ่มเล่ากันว่า วลาดจอมเสียบชอบ "ดื่มเลือดคน" ซึ่งเป็นเลือดที่มาจากเชลยศึก โดยการเอาถังไปรองเลือดจากนั้นก็จะนำมาดื่มแบบสดๆด้วย

จุดเริ่มต้นของตำนาน "แดร็กคูล่า" ก็มาจากนักเขียนท่านนี้
และเรื่องราวพวกนี้ก็ทำให้นักเขียนชื่อ "บราม สโตกเกอร์" แนวนวนิยายชาวไอร์แลนด์ ได้นำมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่อง "แดร็กคูล่า" ในปี ค.ศ. 1897 จนมันโด่งดังไปทั่วโลกจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งในหนังภาพยนตร์เกี่ยวกับ "แดร็กคูล่า" มักจะใช้ "ปราสาทบราน" (Bran Castle) หรือเรียกว่า "ปราสาทแดร็กคูล่า" เป็นโลเคชั่นซะมากกว่านั่นเอง



การเสียชีวิตของวลาดที่ 3
เสียชีวิตจากการต่อสู้กับชาวเติร์กในเดือน ธ.ค. 1476 (ขณะมีอายุได้ 45 ปี) ส่วนภรรยา Ilona Szilágyi เสียชีวิตเมื่อใดไม่มีปรากฎข้อมูลแน่ชัด จนเป็นอีกบุคคลที่ถูกลืมเลือนไปจากหน้าบันทึกของประวัติศาสตร์ไป

ส่วน "ปราสาทโพเอนารี่" (Poienari Castle) ของวลาดที่ 3  ซึ่งปราสาทนี้มีอยู่จริงเป็นปราสาทของ "แดร็กคูล่า" ที่แท้จริง โดยปราสาทโพเอนารี่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันอยู่ในเขตปกครอง "Arges" ในโรมาเนีย และเคยเป็นที่อยู่ของ "วลาดที่ 3" จริงๆ ซึ่งยังคงสร้างความเป็นปริศนาและความเชื่อที่น่าติดตามอยู่ไม่น้อยจนถึงยุคปัจจุบันนั่นเอง

เนื้อหาโดย: amity 86
ขอบคุณภาพและเนื้อหา : กูลเกิล, ศิลปวัฒนธรรม, บล็อกดิท, วิกิพีเดีย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Amity609's profile


โพสท์โดย: Amity609
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: ชตระกูล ศรีสวัสดิ์, โยนี มีเงิน, สมศรี คณะราษฎร
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อีกหนึ่งวิธีการนำ ปลาหมอคางดำ มาใช้ประโยชน์ ก็คือการนำมาทำเป็น น้ำหมักชีวภาพ นั่นเองไก่ ภาษิต และ ตูน ปรินดา ตกใจกลางรายการ หลัง พนง.ได้รับข้อความประกาศเลิกจ้างจากช่อง 3กัมพูชาท้าชน MGI บอสณวัฒน์ จัดประกวดเอง ชิงเวทีนางงามโลกลูกค้าสงสัย กดเครื่องดื่มไม่ใส่น้ำแข็งใน 7-11 ได้ไหม? ทำมาเป็น 10 ปี พนง.เพิ่งทักครั้งแรก!4 อาหารที่แสนธรรมดา แต่อาจอันตรายถึงตายได้ หากคุณเก็บพวกมันไว้ในตู้เย็นเปิดวาร์ป! "น้องโบว์ พัชรีย์" พี่เลี้ยงสุดน่ารักของ "น้องเอวา" เสือแบ๊วแห่งเชียงใหม่เปิดวาร์ป ลิลลี่ อะทิตยา สาวหล่อจากเวทีมิสแกรนด์ ผู้มีฉายา "หนีเมียมาประกวด"หาคู่พร้อมย้ายถิ่น! นโยบายสุดปังจากญี่ปุ่น แจกเงินสาวโสด1 ล้านเยน สำหรับค่าใช้จ่ายในการหาคู่หนุ่มเกาหลีใต้หัวใส ขุนตัวเองให้อ้วนโดยตั้งใจเพื่อหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร สุดท้ายถูกจับได้ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปีขยี้ตาแรง! "นิวเคลียร์" หน้าใหม่เป๊ะเวอร์ ผ่านไป 3 เดือนจำแทบไม่ได้ฮือฮากระแสรองเท้าเเตะรุ่น "หมูเด้ง"จากนันยาง ทำไมถึงไวรัล?"พระราชวัง ราตู โบโก (Ratu Boko) ปรัมบานัน/ยอกยาการ์ตา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตกงานไม่ใช่เรื่องตลก! คนไทยว่างงานพุ่ง 4.14 แสน ปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้สมรักษ์คำสิงห์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลดาวติ๊กต็อก ขโมยของในร้าน ถ่ายคลิปหลักฐานมัดตัวเองพระราชวัง ราตู โบโก (Ratu Boko) ปรัมบานัน/ยอกยาการ์ตา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
9 เหตุผลที่คุณไม่ควรชาร์จโทรศัพท์จนเต็ม 100% อีกต่อไป4 อาหารที่แสนธรรมดา แต่อาจอันตรายถึงตายได้ หากคุณเก็บพวกมันไว้ในตู้เย็น10 อันดับ ตำนานสัตว์ในเทพนิยายและความหมายที่ซ่อนอยู่คันฝ่ามือบอกอะไร? มีโชคลาภจริงหรือ
ตั้งกระทู้ใหม่