หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“King Gustav III of Sweden” อดีตกษัตริย์สวีเดน ที่แบนกาแฟและคิดจะประหารนักโทษ ด้วยการให้ดื่ม "กาแฟ"

เนื้อหาโดย Amity609

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลของกษัตริย์ "กุสตาฟที่ 3 แห่งสวีเดน" (King Gustav III of Sweden) (ปกครอง ค.ศ. 1771-1792) ที่พยายามจะออกคำสั่งแบน "กาแฟ" ในอดีต โดยมองว่ากาแฟนั้นเป็นอันตรายและเป็นเหมือน "ยาพิษ" จนเกิดความสงสัยและความหวาดกลัวขึ้นมา

ซึ่งคงไม่แปลกที่ "กาแฟ" ในชีวิตประจำวันของเราในยุคปัจจุบันนี้ ถือเป็น "เครื่องดื่มยอดนิยม" และมีกันแพร่หลายไปทั่วโลก ครั้งหนึ่งจะเคยถูกมองอย่างน่าสงสัย และหวาดกลัวจึงเกิดความแคลงใจในเครื่องดื่มชนิดนี้ จนกระทั้งพิสูจน์ได้ว่ากาแฟนั้นมีความ "ปลอดภัย" และเป็น "ประโยชน์" มาจนถึงทุกวันนี้

กาแฟปรากฎครั้งแรกที่ไหน ?
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเป็นเวลาหลายปี เสิร์ฟทั้งร้อนและเย็นพร้อมเติมพลังให้ผู้คนนับไม่ถ้วนด้วยสารจาก "คาเฟอีน" ที่เติมความสดชื่น ตื่นตัว กระฉับกระแฉงให้ร่างกาย แต่กาแฟชนิดแรกที่มีความคล้ายคลึงกับกาแฟที่บริโภคกันมากที่สุดในปัจจุบันนั้น ปรากฎครั้งแรกใน "เยเมนในศตวรรษที่ 15" และค่อยๆแพร่กระจายไปยังแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และยุโรป

สำหรับสวีเดนได้รับกาแฟเข้ามาเมื่อไหร่ ?
การปรากฎของกาแฟในสวีเดนนั้นมีเมื่อราวปี 1674 (พ.ศ. 2217) แต่กว่าจะได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายก็กินเวลากว่าร้อยปีต่อมาเลยทีเดียว จนกระทั่งผู้มั่งคั่งเริ่มได้รับความนิยมในเวลาต่อมา จึงทำให้ทางการเชื่อกันว่าเครื่องดื่มดังกล่าวนี้มีอันตราย และส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ

จึงได้ออกพระราชกฤษฎีกาในปี ค.ศ. 1746 เพื่อประณามว่า "เป็นการใช้ในทางที่ผิด" ของทั้งชาและกาแฟ ซึ่งกาแฟยังถูกห้ามในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่มันกลับเป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์กว่าสิ่งอื่นใดเนื่องจากผู้คนยังคงบริโภคกาแฟต่อไป

จุดเริ่มต้นของการไม่ยอมรับและคิดจะแบน "กาแฟ"
เกิดขึ้นในสมัยของกษัตริย์ "กุฟตาสที่ 3" แห่งสวีเดน ที่รวมหัวกับแพทย์ ที่จะพยายามใช้กาแฟเป็นวิธีทดลองในการ "ประหารชีวิต" นักโทษ และทรงรังเกียจกาแฟและเชื่อว่ามันเป็นอันตรายต่อราษฎรของพระองค์ พระองค์ไม่เห็นด้วยกับการนำเครื่องดื่มชนิดนี้ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย


"King Gustav III of Sweden" (By Wikimedia Commons)

พระองค์ต้องการจะพิสูจน์ผลกระทบด้านสุขภาพในเชิงลบ ที่พระองค์เชื่อว่ากาแฟนั้นมีอันตรายอยู่มากมายแต่ราษฎรของพระองค์กลับไม่เชื่อฟังพระราชกฤษฎีกา ดังนั้นพระองค์จะต้องหาทางทำอย่างไรดี ? ที่จะสามารถหาหลักฐานมาให้ราษฎรดูว่าพระองค์พูดถูก ?

จุดเริ่มต้นของการทดลอง "กาแฟ" เพื่อใช้ประหารชีวิตนักโทษ
พระองค์ตัดสินใจรวมกับทางการแพทย์เพื่อหาวิธีที่จะได้บรรลุเป้าหมาย โดยได้นำนักโทษ 2 คนที่รอประหารชีวิต นำมาให้แพทย์ 2 ท่านทำการทดลอง ซึ่งนักโทษทั้งคู่เป็นฝาแฝดคู่หนึ่งและทั้งคู่ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตโดยการ "ตัดศีรษะ"

ในคดีฆาตกรรมแต่ได้รับการลดหย่อนโทษให้จำคุกตลอดชีวิต โดยการใช้ให้ทั้งคู่เป็น "หนูทดลอง" ซึ่งพระองค์คาดหวังว่าจะทำลายชื่อเสียงของกาแฟและชานั่นเอง

ส่วนวิธีการใช้ "กาแฟ" ในการทดลอบทำยังไง ?
คือให้อีกคน "ดื่มกาแฟ" 3 หม้อต่อวันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ทุกๆวัน และอีกคนหนึ่งให้ "ดื่มชา" 3 หม้อต่อวันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ทุกๆวันเช่นกัน เจตนาก็คือ...

ถ้าคนใดคนหนึ่งหรือทั้ง 2 คนเสียชีวิต หรือได้รับอันตรายจากสิ่งที่ได้ทำการทดลอง ก็ถือว่านี่คือ "ยาพิษ" ความคลางแคลงใจของพระองค์ ก็จะได้รับการพิสูจน์อย่างเป็นทางการในที่สุด ซึ่งพระองค์เชื่อว่านักโทษทั้งคู่จะต้องตายอย่างรวดเร็วเป็นแน่ๆ

สุดท้ายแล้วจุดจบใครตาย ? ใครรอด ?
(เป็นเรื่องที่น่าตลกนิดๆ ถ้าอ่านๆไปก็อดนึกขำไม่ได้) เพราะปรากฎว่านักโทษทั้ง 2 คนไม่เป็นอะไรเลย นอกจากสารของ "คาเฟอีน" นั้น ส่งผลแค่อาจทำนักโทษนั้นนอนหลับได้น้อยลง จากการกระตุ้นของกาแฟและทำให้แค่ปัสสาวะมากขึ้นเท่านั้น

แผนของพระองค์ล้มไม่เป็นท่า สุดท้ายคนที่ตายก่อนคือใครนะหรอ ?
ก็พระองค์เองที่ถูกลอบสังหารในปี พ.ศ. 2335 มาสิ้นพระชนม์ไปก่อนนักโทษ (เมื่อพระองค์มีอายุ 46 ปี) จากนั้นต่อมาแพทย์ที่ทำการทดลองทั้ง 2 คน ก็ดันมาตายอีกเช่นกัน (สรุปดันมาตายก่อนนักโทษซะงั้น 555)

ก่อนที่นักโทษคนใดคนหนึ่งจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนักโทษที่ดื่มชาเสียชีวิตเมื่ออายุ 83 ปี โดยไม่ได้รับความทุกข์ทรมานหรือได้รับผลข้างเคียงของการดื่มกาแฟและชา อย่างที่ "กษัตริย์กุสตาฟที่ 3" คาดหวังเอาไว้

หลังการเสียชีวิตของพระองค์ สถาบันกษัตริย์ก็ได้พยายามอยู่หลายครั้งในการสั่งห้ามกินกาแฟ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จทำให้ต้องยอมแพ้ไปในช่วงทศวรรษที่ 1820 นับตั้งแต่นั้น จึงทำให้กาแฟได้รับความนิยมไปอย่างรวดเร็วในประเทศ จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถือว่าประเทศสวีเดนมีอัตราการ "ดื่มกาแฟ" ที่สูงที่สุดในโลกด้วย

และนี่ก็เรื่องราวของ "กาแฟ" ที่ในสมัยสวีเดนเคยใช้ทดลองในการจะประหารชีวิตนักโทษกันมาแล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่หวังว่าเพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านกันจะชื่นชอบและสนุกไปกับเกร็ดสาระน่ารู้ที่พยายามนำมาเสนอ ซึ่งถ้านับๆจากกระทู้ที่ตั้งๆมาทั้งหมด นี่ก็ถือว่าเป็นกระทู้ที่ EP-52 เข้าไปแล้วไงก็อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะ

เนื้อหาเรียบเรียงใหม่โดย: amity 86
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก : กูลเกิล, วิกิมีเดียร์
ขอบคุณภาพสวยๆฟรีโดย : coffee-842020_1280_Photo By congerdesign (Pixabay Free)
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Amity609's profile


โพสท์โดย: Amity609
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4.6/5 จาก 7 คน)
VOTED: ยิ้มทุกวัน, Thorsten, amity 86, thecrow13, ยอน มาราเธ็ด, Holmen, ไทยเฉย
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
องค์หญิงถัง ฉือเสีย (ภรรยาคนเเเรกของผู่เจี๋ย น้องชายผู่อี๋)เดจาวู เหมือนเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นไปแล้ว เดจาวู คืออะไรกันแน่! ไขความลับวิทยาศาสตร์ของระลึกพิศวงสถิติ หวย 10 ปี ย้อนหลัง เดือน 10 งวด 1 ตุลาคมด่วน! ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ถนนวิภาวดี เด็กนักเรียนเสียชีวิต 25 ราย บาดเจ็บอื้อ! นายกฯ ยื่นมือช่วยค่ารักษา (คลิป)จ่อออกหมายจับ “คนขับรถบัส”ตชด.กระบี่ รวบหนุ่มใหญ่ เปิดห้องนอนชิล สายชี้เป้าจนท.เคาะห้องรวบตัว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จ่อออกหมายจับ “คนขับรถบัส”นายกฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสนักเรียน พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ดูแลเต็มที่ด่วน! ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ถนนวิภาวดี เด็กนักเรียนเสียชีวิต 25 ราย บาดเจ็บอื้อ! นายกฯ ยื่นมือช่วยค่ารักษา (คลิป)
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
อังกฤษประกาศด่วน เตือนพลเมืองห้ามเข้าไทย ชาวเน็ตสงสัยกำลังมีแผนอะไรหรือเปล่าวงการสะเทือน เปิดรายชื่อดาราดังระดับโลก พัวพันปาร์ตี้ฉาวของ ‘ดิดดี้’ โดนขุดคลิปสะท้านวงการจักรพรรดิ​นี​หว่านหรง(พระ​อัครมเหสี)​ เเละ เหวินซิ่ว​(ซูเฟย)พระมเหสี​ ใน​จักรพรรดิ​ผู่อี๋​ ราชวงศ์​ชิง​14 แนวคิดดี ๆ ที่ใช้ได้ผลกับทุกปี
ตั้งกระทู้ใหม่