แกงมันเทียนปลาย่าง
"กินมันติดเหงือก กินเผือกติดฟัน กินทั้งมันกินทั้งเผือก ติดทั้งเหงือกติดทั้งฟัน" ประโยคนี้ทำให้ผู้เขียนนึกย้อนถึงวัยเด็กที่ชอบร้องเล่นกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเรื่องมัน มีหลากหลายสายพันธุ์มากมาย และมีหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นมันพื้นบ้านขึ้นอยู่ตามป่า หากินยากมาก นั่นคือ มันเทียน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือมีความเหนียวหนึบแต่นุ่มไม่แข็งไม่เละ ลักษณะจะมีความยาวคล้ายเทียน และมีกลิ่นหอมรากไม้คล้ายๆกับโสม จะนำมาทำของหวานหรืออาหารคาวก็อร่อยไม่แพ้กัน แล้ววันนี้ผู้เขียนจะนำมันเทียนมาดัดแปลงเป็นเมนูอาหารคาว นั่นคือ แกงมันเทียนปลาย่าง มาค่ะก่อนจะไปทำเมนูอร่อยๆ ก็ต้องเข้าป่าไปขุดหามันเทียนกันก่อน จะได้เยอะมั้ยน้อมาลุ้นไปด้วยกันนะคะ
เข้าป่าหาเถามันเทียนให้เจอ ถ้าเจอก็ต้องใช้แรงขุด เพราะอยู่ใต้ดินลึกนะเนี่ย
เจอแล้วเถาวัลย์มันเทียน ขุดกันจ้า
เวลาขุดต้องใช้ความระวังน้า ไม่อย่างนั้นมันเทียนขาดหรือหักเสียหายจ้า
ใช้เวลาพอสมควรหามันเทียนได้เท่านี้ หากันต่อไปเอาใจช่วยด้วยนะคะ
และในที่สุดเราก็หามันเทียนได้ตามใจต้องการ แต่ต้องใจเย็นใช้ความอดทนเยอะเหมือนกันค่ะ นำมาล้างทำความสะอาดกัน
มันเทียนสะอาด นำไปนึ่งกินเปล่าๆก็หวานหวานเหนียวหนึบอร่อย หรือจะลิดปอกเปลือกนอกเหลือแต่เนื้อสีขาวนำมาแกงใส่ปลาช่อนย่าง อย่างที่ผู้เขียนกำลังทำก็แสนอร่อย
อย่าเสียเวลารอช้า ตั้งหม้อบนเตาใส่น้ำรอจนเดือด ก็นำพริกแกง ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย พริกขี้หนู กระเทียม หอมแดง กระชาย ตะไคร้ ใบมะกรูด ตำพอแหลกนำลงไปละลายในหม้อได้เลยจ้า
รอจนพริกแกงเดือด ช่างส่งกลิ่นหอมเสียกระไร ก็เติมใส่น้ำปลาร้าลงสมทบ อ้อ! ค่อยๆเติมลงไปนะคะ ถ้าไม่เค็มเพิ่มได้แต่ถ้าเค็มตั้งแต่แรกแก้ไขยากเลยน้า
ถัดมาคือใส่มันเทียนที่หั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำต้มไปจนมันสุก จึงจัดการนำปลาย่างฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นๆ ตามลงได้เลยจ้า
ชิมรสเติมน้ำปลาหรือน้ำปลาร้าได้ตามใจ ชิมให้กลมกล่อม จะมีความเผ็ดและหอมสมุนไพรจากพริกแกงและเครื่องเทศ ความเค็มจากปลาร้า/น้ำปลา และความหวานจากมันเทียน เพิ่มความหอมยิ่งขึ้นโดยใส่ผักชีลาวลงไป ถึงตอนนี้ละจะบอกว่าแกงส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วคุ้งน้ำเลยล่ะเนาะ
ถึงขั้นตอนสุดท้าย เมื่อผักชีลาวสลบ และได้รสชาติตามปรารถนา มิรอช้าตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ