ดุกนาย่างสะเดาน้ำปลาหวาน
โบราณท่านกล่าวไว้ "หวานเป็นลมขมเป็นยา" ใครที่ไม่ชอบทานผักเพราะคิดว่าขม แต่ขมๆนั่นแหละดีรู้มั้ยหนาเพราะเป็นยารักษาโรคของธรรมชาติ ประโยคเหล่านี้ผู้เขียนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งวันนี้เราจะมาทำเมนูผักที่บางคนบอกว่าขมมาเป็นเมนูที่แสนอร่อย ทำขายทีไรหมดเกลี้ยงทุกที นานเป็นปีจะได้ชิมปีละครั้ง เมนูทายทักสำหรับวันนี้คือ "ดุกนาย่างสะเดาน้ำปลาหวาน"
เริ่มจากการเด็ดหักยอดสะเดาจากต้นมาล้างทำความสะอาด ซึ่งสะเดามีหลายพันธุ์ บางพันธุ์ขมจัด แต่พันธุ์ที่บ้านบ้านผู้เขียนปลูกเป็นสะเดามัน จึงรับประกันว่าไม่ขมเหมือนที่ทุกคนกลัว จากนั้นให้แช่น้ำเกลือต่ออีก 10 นาที
ตั้งหม้อบนเตารอน้ำเดือด ใส่เกลือไปสัก 1 ช้อนชา เพื่อลวกยอดสะเดามัน ลวกแค่30 วินาที ถึง 1 นาที ก็พอแล้วจ้า
เมื่อครบเวลาตักมาน้อคน้ำเย็น เพื่อให้สะเดามันลวกยังคงความเขียวสีสดใสเหมือนเดิม
ต่อด้วยหั่นฝานหอมแดงเป็นขิ้นบางๆ สักถ้วย
นำไปเจียวในน้ำมันร้อนๆใช้ไฟกลาง จนสีเหลือง จึงตักใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำมัน
เจียวหอมแดงเสร็จ ตามด้วยนำพริกแห้งลงไปทอด
ขั้นตอนต่อไปเรามาปรุงน้ำปลาหวานกันน้า
ใส่น้ำตาลมะพร้าวตั้งไฟอ่อน ป้องกันน้ำปลาหวานมีกลิ่นไหม้นั่นเอง
เติมน้ำลงไป และยีเคี่ยวให้น้ำตาลมะพร้าวละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
เติมน้ำปลาลงไป
ต่อไปก็ตามด้วยน้ำมะขามเปียก
เคี่ยวต่อไปจนทุกอย่างผสมเป็นเนื้อเดียวกัน และน้ำปลาหวานของเราข้นกำลังดี ไม่เหลวหรือหนืดจนเกินไป
เช็คดูอีกทีความข้นตามนี้ถือว่าใช้การได้แล้ว
เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพขั้นสุดท้ายคือการย่างปลาดุก เพื่อให้กินตอนร้อนๆ มันจะอร่อยสุด
ปลาดุกนาได้จากดูดน้ำในหนอง เป็นดุกตามธรรมชาติไม่ได้เลี้ยงนะคะ จึงรับรองว่าสะอาดอย่างแน่นอนเพราะอาหารการกินของมันก็เป็นลูกกุ้งลูกปลาในหนองนั่นเอง
นำดุกนามาล้างทำความสะอาด คว้านท้องเอาเครื่องในออกจนเกลี้ยง แล้วล้างด้วยน้ำเกลือหลายๆครั้งเพื่อขจัดเมือกและกลิ่นคาว ต่อด้วยการหั่นบั้งตัวปลาทั้งสองด้าน
เครื่องเทศสมุนไพรหมักดุกนา ก็นำต้นและรากผักชีที่นหั่นแล้วลงครก สมทบพริกไทยดำหยิบสากโขลก
ตามด้วยกระเทียม ยกสากโลกโป๊กโป๊กน่าฟังดี
เมื่อเครื่องเทศละเอียดแล้ว ตักมาปรุงรสด้วยผงปรุงรสสักนิดหน่อย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และเกลือเพียงเล็กน้อย คนให้ทุกส่วนผสมเข้ากันดี
นำดุกนาที่สะอาดแล้ว ลงคลุกเคล้าละเลงในเครื่องเทศให้หมดทั่ว เพิ่มอร่อยหอมรสเครื่องเทศแบบชัวร์ๆ หมักทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง
ขั้นตอนต่อไปอย่ามัวนั่งรอช้า เสียเวลาก่อไฟด้วยเตาถ่าน ใช้ไฟอ่อนในการย่าง เคล็ดลับอีกอย่างไม่ปลาย่างติดตะแกรง ให้นพก้านกล้วยสด วางบนตะแกรงสี่ห้าก้าน
แล้ววางปลาดุกทับบนมิช้านาน ผิวปลาย่างสวยดูน่ากิน
ย่างดุกนาจนปลาเริ่มเหลืองสุก ไฟปะทุปุ๊ดๆจากมันปลา กลับด้านพลิกย่างให้สุกทั่ว
เมื่อดุกนาย่างสุกกลิ่นหอมนัว คีบง่ายหนังปลาไม่ติดตะแกรง ผิวสวยเหลืองอมส้ม ตักคีบใส่จานดูน่าทานจริงๆแล
ทุกอย่างก็เสร็จสรรพ ยกสำรับอาหารของมื้อนี้มีดุกนาย่าง น้ำปลาหวานที่ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยพริกทอดหอมแดงเจียวกลิ่นหอมฟุ้ง สะเดามัน และผักชีเป็นเครื่องเคียง
ลองตักเครื่องทุกอย่างลงใส่ช้อนกินพร้อมกันมีครบครันในหนึ่งคำอร่อยฟิน