อาลัวกะทิสด: ขนมไทยโบราณ
นึกย้อนอดีตวันเด็กน้อย เดินทางระยะไกลชอบนั่งรถไฟ เพราะมีขนมแสนอร่อยชนิดหนึ่ง ที่พ่อค้าแม่ขายหาบเร่ จะนำมาขายที่ชานชาลา หรือแม้แต่กระทั่งเดินขายบนรถไฟขบวนนั้นๆ ความทรงจำของเด็กน้อยที่ได้ลองชิมขนมชนิดนี้เป็นครั้งแรก มันช่างหอมหวานอร่อยยิ่งนัก จึงหลงรักมาโดยตลอด และพอโตขึ้นจึงฝึกทำจนชำนาญ อยากทานเมื่อไหร่ก็ทำ ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด และที่ติดใจคือได้ความสดใหม่และความปลอดภัยในการใส่ใจขั้นตอนในการทำเอง ขนมชนิดนี้คือ "อาลัว" ขนมไทยโบราณ วันนี้เรามาทำกันพร้อมๆกันน้า
วัตถุดิบมีไม่มาก ไม่ยุ่งยากหากจัดเตรียม
-มีแป้งเค้ก 150 กรัม
-นมจืด 150 กรัม
-น้ำตาลทราย 350 กรัม
-หัวกะทิสด 375 กรัม
-และสีผสมอาหาร หรือ สีจากธรรมชาติก็ได้จ้า
นำแป้งและน้ำตาลทรายลงภาชนะที่จัดเตรียม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
นำนมจืดใส่ลงไป
ใช้ตะกร้อตีให้เข้ากัน
จากนั้นนำกะทิสดใส่ลงตาม ใครไม่สะดวกอาจเลือกเป็นกะทิกล่องก็ได้นะคะ หากเบือกกะทิกล่องก็ใช้กะทิอบควันเทียนได้เลยจ้า มันจะหอมๆหน่อย แต่ผู้เขียนไม่ชอบกะทิกลิ่นอบวันเทียน มันมีความรู้สึกเหมือนไม่สดใหม่(ความรู้สึกส่วนตัวน้า) จึงใช้กะทิคั้นสดๆนี่แหละ หอมหวานมันอร่อยสดที่แท้จริง
เมื่อใส่กะทิลงไปแล้วก็ตีให้เข้ากันอีกครั้ง จนได้เนื้อแป้งอาลัวอย่างที่เห็น
จากนั้นนำไปกรองด้วยกระชอนใส่กระทะเคลือบตั้งไฟกลาง ที่เลือกใส่กระทะเคลือบเพื่อป้องกันแป้งไหม้ติดก้นหม้อจ้า กระทะเคลือบช่วยได้เยอะมากๆเลยแหละ
ให้ทำการคนไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดคนน้า
เมื่อคนไปสักพักจะสังเกตว่าแป้งอาลัวของเรามีความข้นหนืดแล้ว ให้ลดไฟใช้ไฟอ่อน และคนต่อไปอีกนิด เมื่อแป้งหนืดดีแล้วให้ปิดไฟ แต่ให้คนต่อไปอีกสัก3-5 นาที เพื่อให้เนื้อแป้งอาลัวมีความละเอียดมากขึ้น
จากนั้นนำมาตักแบ่งใส่ถ้วย เพื่อผสมสีต่างๆตามชอบ ครั้งนี้ผู้เขียนขอใช้สีผสมอาหารนะคะ เพราะมีวัตถุดิบที่จะนำมาทำสีจากธรรมชาติไม่ครบถ้วนนั่นเอง เราจะหยดสีผสมอาหารลงในแต่ละถ้วน 2-3 หยดก็พอนะคะ
แล้วก็รีบคนคลุกเคล้าให้แป้งให้เป็นสีเนื้อเดียวกันตามต้องการ และที่สำคัญให้ผสมคนตอนที่แป้งกำลังร้อนๆเลยน้า
เมื่อผสมสีกับตัวแป้งครบตามจำนวนสีที่ต้องการแล้ว ก็ให้นีบนำมาใส่ถุงบีบ เพื่อป้องกันตัวแป้งแห้งนั่นเอง
จากนั้นให้เราใช้ถุงบีบอีกถุงที่มีแป้นพิมพ์ปลายถุงเป็นรูปฟันปลาตามรูปเลยจ้า เวลาบีบตัวแป้ง เราจะได้ตัวขนมที่มีความสวยงามน่ารับประทาน
ตอนบีบตัวแป้งแต่ละสีก็ให้เราตัดปลายถุงบีบของแป้งสีนั้นๆแล้วนำมาสวมทับกับถุงบีบที่มีแป้นพิมพ์เลยจ้า
ในการบีบแป้ง ให้เราใช้กระดาษเทียนไขรองก้นถาดก่อนนะจ๊ะ ป้องกันตัวแป้งติดถาดนั้นเอง และเวลาบีบได้ขนาดคามต้องการแล้วให้เราหยุดบีบและกดปลายแม่พิมพ์ลงและดึงขึ้น เราก็จะได้ขนมที่มีความคมชัดของกลีบขนมและปลายแหลมเรียวสวย
เมื่อทำครบทุกสีแล้วเราก็สามารถนำขนมไปตากแดดจัด2-3 วัน โดยแบ่งครึ่งเวลานะคะ เพื่อคอยกลับด้านขนมอีกฝั่งด้วย
แต่ระยะนี้ยังมีปลายฝนจากพายุเข้า บรรยากาศฟ้าฝนมีแดดไม่ค่อยคงที่ ผู้เขียนจึงขอใช้เตาอบในการอบแทนน้า การอบก็ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง โดยแบ่งครึ่งเวลาในการนำมากลับด้านขนมเช่นกัน และไฟที่ใช้ในการอบคือ ใช้ไฟบนล่าง 60-80 องศาเซลเซียส เปิดพัดลมนะคะ
เมื่อครบกำหนดเวลา เราก็จะได้หน้าตาอาลัว ขนมไทยโบราณ ที่มีความหอมหวานมันแสนอร่อย ลงมือทำทีไรก็อดไม่ได้ที่จะย้อนวัยนึกถึงอดีตตอนวัยเด็ก