รักกันวันคริสต์มาส!!! เมื่อทหารพักรบมาเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสด้วยกันในสงครามโลกครั้งที่ 1
ขึ้นชื่อว่าสงครามย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียกับทุกๆ ฝ่าย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของแต่ละฝั่งจะถูกทำลาย ทว่าท่ามกลางสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่โลกกำลังลุกเป็นไฟ แต่ในปี 1914 เหล่าทหารหาญทั้ง 2 ฝั่งได้ร่วมใจยุติสงครามชั่วคราวแล้วหันมาเฉลิมฉลองด้วยกันครับ
การพักรบในวันคริสต์มาสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1 หรือเป็นที่รู้จักในชื่อมหาสงคราม (Great War) เกิดขึ้นในปี 1914 ถึง 1918 โดยเป็นการรบกันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร (เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย อเมริกา และภาคี) และฝ่ายมหาอำนาจกลาง (เช่น เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี และภาคี) ในการทำสงครามครั้งนี้มีทหารเข้าร่วมมากถึง 70 ล้านนาย ตั้งแต่เริ่มต้นจนสงครามยุติมีผู้เสียชีวิตรวมกันประมาณ 22 ล้าน (ทั้งทหารและพลเรือน) จึงเรียกได้ว่าเป็นสงครามขนาดใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ
หลังจากที่มีการประกาศสงครามและเริ่มต่อสู้กันไปได้ประมาณ 5 เดือน เกิดเหตุการ์ที่คาดไม่ถึงที่แนวรบทางด้านตะวันตก (Western Front) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภูมิหลักบริเวณทางภาคตะวันตกของเยอรมนีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อทหารของ 2 ฝั่งได้ทำข้อตกลงหยุดยิง (Cease fire) อย่างไม่เป็นทางการขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาสในปี 1914 ส่งผลให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้หยุดความเป็นศัตรูลงกันชั่วคราวและเพิ่มความเป็นมิตรกันมากขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสด้วยกัน
การเฉลิมฉลองด้วยกัน
ในช่วงเวลาดังกล่าว ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ได้เดินทางข้ามเขตแดนที่ตนดูแลไปยังอีกฝั่งได้อย่างเสรี ความตึงเครียดในช่วงสงครามลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเริ่มมีการเดินทางไปในพื้นที่ที่ไม่มีเจ้าของ (No man’s land) อย่างอิสระโดยไม่มีการต่อสู้กันแต่อย่างใด
เหล่าทหารหาญที่ตอนนั้นเป็นมิตรสหารเพื่อนบ้านได้แลกเปลี่ยนอาหาร ของขวัญ และของที่ระลึกกันอย่างกว้างขวาง ทหารทั้ง 2 ฝั่งได้มีการแลกบุหรี่และซิการ์กันอย่างเป็นกันเองเพื่อแสดงถึงมิตรภาพและนำใจอันดีที่มีต่อกัน นอกจากนี้ทหารทั้ง 2 ฝั่งได้ใช้โอกาสนี้ในการนำผู้เสียชีวิตออกจากเขตแดนและจัดพิธีศพให้กับผู้วายชนม์ในสงครามอย่างสมเกียรติตลอดจนการแลกเปลี่ยนนักโทษและเชลยศึกกันด้วย ในวันก่อนวันคริสต์มาส และคริสต์มาส ทหารทั้ง 2 ฝั่งได้ร่วมเฉลิมฉลองและร้องเพลงคริสต์มาสด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดฟุตบอลกระชับมิตรขึ้นด้วย ซึ่งทางฝรั่งเยอรมนีสามารถเฉือนเอาชนะฝั่งอังกฤษไปได้ที่คะแนน 3-2 ประตู
สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
ในปีถัดๆ มา ก็มีการจัดการพักรบช่วงคริสต์มาส แต่เนื่องด้วยพิษร้ายและความบอบช้ำจากสงคราม อาณาบริเวณของการหยุดยิงก็ลดลงเรื่อยๆ พร้อมกับบรรยากาศของความเป็นมิตรที่น้อยลงเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามการพักรบช่วงคริสต์มาส ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่แสงให้เห็นถึง “สันติภาพ” “มนุษย์ธรรม” และ “มิตรภาพ” ที่ยังคงอยู่แม้จะในสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกอย่างสงครามโลกครั้งที่ 1
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ครับ ว่าในโลกของมนุษย์มักมีความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แต่อยากให้ชาวประชาคมโลกคระหนักร่วมกันถึงมิตรภาพที่ดีต่อกัน ไม่ว่าอย่างไรทุกคนคือเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งกันมากแค่ไหน หรือบาดหมางกันเพียงใด ขอให้สันติภาพนำทางไปสู่ทางออกที่ดีที่สุดครับ สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ