5 เหตุผลสำคัญที่สุด ที่ทำไมเรายังโสด???
ผ่านวันวาเลนไทน์มาก็หลายปี มีคำถามสำหรับคนที่ยังโสดในตอนนี้ และมองเห็นรูปสวีทของคนมีคู่ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา คงมีอารมณ์เหงากันบ้างบางคนคิดว่าทำไมเราถึงยังโสดอยู่ เชื่อว่ามีทั้งคนที่ตั้งใจโสดและไม่ตั้งใจโสดแหละครับ จริงๆ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากมีความรัก อยากมีคู่ชีวิตดีๆสักคนแน่ๆครับ แต่ที่ตอนนี้ยังโสดนั้น มาดูเหตุผลจริงๆ 5 อันดับเหตุผลสำคัญที่พบบ่อยที่สุดว่า ทำไมคนเรายังเป็นโสดกันครับ
1. ไม่มีใครเอา อันนี้เป็นเหตุผลทื่อๆ ตรงๆ สำหรับคนที่พยายามมองหาใครสักคนมาหลายปี แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนส่วนใหญ่ครับ คิดว่าเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดครับในอันดับหนึ่งเลยครับ คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ไม่ได้เกิดมาแบบมีหน้าตาสวยหล่อเพอร์เฟ็คน่าดึงดูดกันทุกคน บางคนนอกจากหน้าตาที่ดูไม่น่าสนใจแล้ว รูปร่างยังแลดูอ้วนหรือผอมเกินไปก็ดูจะเป็นอุปสรรคในการหาคู่มาก คนส่วนใหญ่ชอบมองจากรูปลักษณ์ภายนอกมาก่อนครับ คนส่วนใหญ่ชอบคนหน้าตาดี รูปร่างดี มันเป็น first impression เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ครับ บางคนหน้าตารูปร่างก็ไม่ถึงกลับน่าเกลียดอะไร แต่ก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี เพราะความธรรมดา ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นหรือทำให้คนอื่นสนใจมองนั่นเอง
2. ผิดหวังมาตลอดชีวิต หามาจนเหนื่อยแล้ว คบกับใครก็โดนเขาหลอกเสมอครับ หลอกว่าโสดแต่มีคู่แล้วบ้าง หลอกว่าจริงใจแต่จริงๆมีเหตุผลอื่นแอบแฝง เช่น เรื่องเงินทองบ้าง หรือคบกันไปสักพักก็หายเงียบกันไปเอง เพราะมันยังไม่ใช่ ผมว่าเรื่องที่ต่างคนต่างเงียบหายกันไปเองนั้นเป็นเรื่องที่เชื่อว่าคนโสดส่วนมากจะเจอได้บ่อยครับ เหตุผลนี้จึงมาเป็นอันดับสองครับ เหตุผลที่แท้จริงของการที่เงียบหายกันไปนั้นคือว่า หลังได้เจอกัน ได้คุยกันหรือได้คบกันไปสักพักในระยะหนึ่งแล้ว มันยังไม่ใช่อะครับ บางทีเราเป็นฝ่ายโดนทิ้งก่อน บางทีเราเป็นฝ่ายทิ้งเขาซะเอง คนเรามักมองเรื่องข้อเสียคนอื่นก่อนเสมอครับเวลาคบกัน ผมว่าไม่ใช่เรื่องผิดนะ เพราะข้อเสียที่คุณยอมรับไม่ได้ คบไปมันจะมีปัญหาต้องเลิกรากันอยู่ดีในที่สุด ข้อเสียบางอย่างมันยอมรับกันไม่ไหว ที่พบบ่อยเช่น มีกลิ่นตัวกลิ่นปาก นิสัยขี้วีน เอาแต่ใจ ไม่เป็นผู้ใหญ่ ความคิดความอ่านยังไม่ตรงกัน ทัศนคติคนละขั้วจูนเข้ากันได้ยาก หรือเซกส์ไม่ตรงกันครับ คนหนึ่งต้องการมาก คนหนึ่งต้องการน้อย ไม่พอดีกันครับ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆ
3. ทำงานไม่เจอใครเลย อันนี้เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน งานบางอย่างเป็นงานเฉพาะที่พบเจอคนน้อยมาก หรือไม่เจอใครเลย เป็นงานเฉพาะด้านใช้แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บางคนทำงานแต่ในห้องแลป โอกาสจะได้เจอใครในโลกจริงๆนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ว่าจะหาคู่ออนไลน์ก็ยากขึ้นไปอีก เพราะส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยเรื่องอื่นแอบแฝง เช่น การหาเซกส์ การขายบริการ ความไม่จริงใจและการหลอกลวงต่างๆนานา ใช้รูปคนอื่นมาลง แถมยังเป็นที่หลอกลวงของมิจฉาชีพจำนวนมาก ซึ่งยากกว่าการเจอในชีวิตจริงๆมากครับ
4. หมดช่วงเวลาทอง ผมเชื่อว่าคนเราจะมีช่วงอายุในการมองหาคู่ที่เหมาะสมแค่ช่วงอายุเดียว โดยช่วงอายุนั้นจะเป็นช่วงที่จะมีโอกาสเจอคนที่ใช่ตรงตามสเปคที่ตัวเองชอบมากที่สุดครับ ส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปีครับ แค่ 10 ปีเท่านั้นเองครับ ถือเป็นช่วงเวลาทองครับ เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่จะมีโอกาสมองหาและมีโอกาสเจอคู่ได้มากที่สุดและปต่งงานกันมากที่สุดก็ในช่วงอายุนี้ครับ มากกว่านี้จะน้อยลงเรื่อยๆและหาคู่ยากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงอายุ 25-35 ร่างกายจะดูดีที่สุดในชีวิตแล้วครับ หน้าตาผิวพรรณรูปร่างก็จะดีที่สุดในช่วงอายุนี้ด้วย หลังจากนั้นจะโรยราตามวัยครับ บางคนจะอ้วนตอนมีอายุมาก ทำให้ไม่น่ามองไม่น่าดึงดูดอีกเลย บางคนผิวพรรณเหี่ยวย่นตามวัยแลดูสูงอายุ บางคนแลดูเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว ทั้งที่ยังโสด เป็นต้น
5. ไม่เห็นว่าการหาคู่เป็นเรื่องสำคัญในชีวิต คนที่พูดแบบนี้มักจะผ่านการหาคู่มาแล้วในช่วงหนึ่งของชีวิตครับ หรือบางคนอาจจะมีเคยมีคู่แล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ก็ได้ บางคนเป็นหม้าย บางคนคู่ชีวิตเสียไปก่อนแล้วและต้องอยู่คนเดียว แน่นอนว่า พออายุคนเรามากขึ้นนั้น ความคิดเรื่องการหาคู่ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย บางคนก็หามาตลอดชีวิตจนเลยช่วงเวลาทองแล้วไม่ได้ ก็เกิดความชาชิน และอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น จนสามารถปรับตัวอยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นว่าการมีคู่สำคัญอีกต่อไป แม้ว่าจะมีความคิดโผล่ขึ้นมาเล็กน้อยว่า ตอนแก่จะอยู่ยังไงก็ตาม บางคนคิดว่าการหาเงินสำคัญกว่าการมีคู่ บางคนสนุกกับการทำงาน บางคนเป็นเกย์ บางคนคิดว่าการมีคู่ในสมัยนี้คือการมีภาระ เป็นต้น
แล้วคุณที่ยังโสดอยู่นั้น คิดว่า เหตุผลของคุณคือเหตุผลไหน???